ประกาศมหาวิทยาลัยขอนแก่น(ฉบับที่ 1325/2552) เรื่อง หลักเกณฑ์และแนวปฎิบัติการยืมเงินทดรองจ่ายเงินรายได้ เงินยืม หมายถึง เงินยืมทดรองจ่ายเงินรายได้ กองคลังหรือเงินยืมทดรองจ่ายหมุนเวียนของหน่วยงาน วัตถุประสงค์ของเงินยืม. - เพื่อให้หน่วยงานหรือบุคคลนำไปจ่ายเพื่อดำเนินกิจกรรมหรือโครงการที่ได้รับอนุมัติ ผู้ที่มีอำนาจอนุมัติเงินยืม - อธิการบดีหรือผู้ได้รับมอบหมาย เช่น คณบดี ผู้อำนวยการ รองคณบดีที่ได้รับมอบหมาย
ค่าใช้จ่ายที่ขอยืมเงินทดรองจ่ายได้ 1.เงินเดือน ค่าจ้างของบุคลากรที่หน่วยงานยังไม่เบิกจ่าย 2.เงินค่าสวัสดิการรักษาพยาบาล สวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาบุตร 3.ทุนการศึกษาโครงการสวัสดิการที่มหาวิทยาลัยกำหนด 4.ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ 5.ค่าใช้จ่ายในการวิจัยหรือบริการวิชาการ 6.ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม 7.เงินสาธารณูปโภค 8.ค่าพัสดุที่ผู้จำหน่ายไม่ให้เครดิตแก่ส่วนราชการ 9.ค่าสอนของอาจารย์พิเศษจากภายนอกหน่วยงาน 10.ค่าใช้จ่ายอื่นๆสำหรับบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
ในกรณีที่รายการใดสามารถเบิกจ่ายได้ก่อนหรือสามารถเบิกจ่ายได้เมื่อเริ่มดำเนินการก็ให้เสนอเบิกจ่ายโดยไม่มีสิทธิยืมเงินทดรองจ่าย ผู้มีสิทธิยืมเงินทดรองจ่าย.- 1.หัวหน้าหน่วยงาน 2.ข้าราชการ 3.ลูกจ้างประจำ 4.พนักงานมหาวิทยาลัย 5.พนักงานราชการ 6.พนักงานหน่วยงานองค์กรในกำกับมหาวิทยาลัย
กรณีที่ไม่อาจยืมได้ด้วยตนเอง ให้มอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้มีสิทธิยืมแทนได้ วิธีการยืมเงินทดรองจ่าย 1. ให้ยื่นสัญญายืมเงินตามแบบที่มหาวิทยาลัยกำหนด 2 ฉบับ 2. หลักฐานประกอบการยืม เช่น โครงการ/เรื่องที่ได้รับอนุมัติแล้ว 3. ให้ยื่นเอกสารการยืมก่อนวันเริ่มกิจกรรมอย่างน้อย 3 วันทำการ ยกเว้นกรณีเร่งด่วน 1.เงินยืมสำหรับเงินเดือนหรือค่าจ้าง ยืมได้ไม่เกินร้อยละ 80 ของอัตราเงินเดือน 2. เงินยืมสำหรับทุนการศึกษา,ค่าใช้จ่ายในการวิจัย,ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมกรณีที่ไม่มีแผนงวดงานหรือแผนการเบิกจ่ายให้ยืมได้ไม่เกินร้อยละ 20 ของวงเงินกิจกรรม 3. เงินยืมเพื่อการอื่นๆให้ยืมได้ตามวงเงินที่จ่ายจริงหรือประมาณการค่าใช้จ่าย หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการยืม
วิธีการจ่ายเงินยืม การชำระคืนเงินยืม 1.ให้จ่ายเช็คหรือโอนเงินให้ผู้ยืมภายใน 3 วันทำการ 2.ให้จ่ายแก่ผู้ยืมก่อนวันเริ่มกิจกรรมไม่เกิน 10 วันทำการ การชำระคืนเงินยืม 1. การชำระคืนเงินยืมเงินเดือน,ค่าจ้าง ให้กองคลังตั้งฎีกาเบิกหักผลักส่งเพื่อคืนเงินยืมทดรองจ่าย 2. การชำระคืนค่าเดินทางไปราชการ,ค่าใช้จ่ายฝึกอบรม ให้ผู้ยืมส่งคืนเงินสดที่เหลือพร้อมใบสำคัญจ่ายภายใน 30 วัน นับจากสิ้นสุดการเดินทาง 3. การชำระคืนเงินยืมนอกเหนือจากข้อ1 และข้อ 2 ให้ผู้ยืมส่งคืนเงินสดที่เหลือจ่ายพร้อมใบสำคัญจ่ายภายใน 30 วัน นับจากสิ้นสุดโครงการหรือกิจกรรม
4. กรณีที่ผู้ยืมได้รับงบประมาณสนับสนุนจากหน่วยงานอื่น ให้ผู้ยืมชำระคืนเงินยืมแก่กองคลังหรือหน่วยงานภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับเงินจากหน่วยงานนั้นๆ 5. กรณีผู้ยืมได้ชำระหนี้หรือภาระผูกพันและได้รับใบเสร็จรับเงินแล้วให้ผู้ยืมส่งหลักฐานเบิกจ่ายพร้อมชำระคืนเงินภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับใบเสร็จรับเงิน 6. ให้หน่วยงานออกใบรับใบสำคัญให้ผู้ยืมเงิน 1 ฉบับและเก็บไว้เป็นหลักฐานที่หน่วยงาน 1 ฉบับ 7. กรณีที่ผู้ยืมไม่อาจส่งคืนเงินยืมได้ตามกำหนด ให้งานคลังของหน่วยงานทวงถามเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 30 วันนับแต่วันครบกำหนด 8. เมื่อครบกำหนดแล้วยังไม่ได้รับชำระคืนเงินยืมให้แจ้งกองคลังหักเงินเดือนพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินยืมที่ค้างชำระ
กรณีไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้ 1. กรณีที่ผู้ยืมไม่ชำระคืนเงินยืมเมื่อครบกำหนดห้ามมิให้บุคคลผู้นั้นยืมเงินทดรองจ่ายอีกจนกว่าจะ ชำระคืนเงินยืมครบ 2. หากผู้ยืมมีพฤติการณ์หน่วงเหนี่ยวการคืนเงินยืมหรือไม่รีบดำเนินการคืนเงินยืมโดยไม่มีเหตุอันควรหรือค้างคืนเงินยืมเกินกว่า 6 เดือน ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาไม่ขึ้นเงินเดือนหรือไม่ให้ได้รับเงินเพิ่มพิเศษใดๆในปีนั้นๆ