การเดินทางไปต่างประเทศ จุดประสงค์ เพื่อการท่องเที่ยว เพื่อไปศึกษาต่อ เพื่อไปศึกษา/ดูงาน ติดตามคู่สมรส
เอกสารที่ใช้ในการลา เสนอต่อผู้บังคับบัญชา ถ้าเดินทางไปเพื่อการท่องเที่ยว ส่งใบลาพักผ่อน ถ้าเดินทางไปเพื่อการศึกษาต่อ จะต้องทำใบขออนุมัติลาไปศึกษา ณ ต่างประเทศ
ถ้าเดินทางเพื่อไปศึกษา/ดูงาน - บันทึกข้อความชี้แจงความจำเป็นและ - บันทึกข้อความชี้แจงความจำเป็นและ เหตุผล - ใบขออนุญาตไปต่างประเทศ (หรือใบลาไปศึกษา ฝึกอบรม ดูงาน หรือปฏิบัติการวิจัย) - หนังสือเชิญ/กำหนดการ กรณีไปศึกษา ดูงาน พร้อมโครงการลาดูงาน ณ ต่างประเทศ - แบบประมาณการค่าใช้จ่าย
4. ถ้าเดินทางเพื่อติดตามคู่สมรส - ใบขออนุญาตติดตามคู่สมรสไป ต่างประเทศ - ลาได้ครั้งละ 2 ปี และลาต่อได้อีก 2 ปี แต่ต้องรวมกันไม่เกิน 4 ปี ถ้าลาเกิน 4 ปี ให้ลาออกจาก ราชการ
เมื่อได้รับอนุญาตให้เดินทางไป ต่างประเทศได้แล้ว ขั้นต่อไปคือ ทำหนังสือเดินทาง และ 2. ทำวีซ่า (หลักฐานการอนุญาตให้เข้าประเทศที่ทำเป็นรอยประทับตรา บางประเทศไม่ต้องใช้) ทำ ณ อาคารกรมการกงสุล ถ.แจ้งวัฒนะ หรือสำนักงานสาขาต่างๆ
เอกสารประกอบการยื่นคำร้องขอหนังสือเดินทาง 1. บัตรประชาชน 2. ทะเบียนบ้าน (หนังสือเดินทางแบบใหม่ไม่ใช้) 3. หลักฐานทางทหาร (ชาย อายุ 17 - 45 ปี )
หนังสือเดินทาง หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-passport)
หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-passport) คือ หนังสือเดินทางที่มีคุณลักษณะเฉพาะทางเทคนิค (Technical Specifications) ตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งแตกต่างจาก หนังสือเดินทางแบบเดิม ดังนี้
มีการบันทึกข้อมูลชีวภาพ (biometric data) ได้แก่ ลายนิ้วมือ รูปใบหน้า ไว้ใน Contactless Integrated Circuit ซึ่งฝังอยู่ในเล่มหนังสือเดินทาง สามารถอ่านได้ด้วยเครื่อง Automatic Gate ณ จุดผ่านแดนระหว่างประเทศ โดยมีการตรวจพิสูจน์โดยอัตโนมัติเพื่อเปรียบเทียบข้อมูลในหนังสือเดินทางกับ ผู้ถือหนังสือเดินทาง
ขั้นตอนการยื่นขอหนังสือเดินทาง (e-passport) ผู้ร้องต้องมายื่นคำร้องด้วยตนเอง เพื่อบันทึกข้อมูลชีวภาพ ได้แก่ รูปใบหน้าและลายนิ้วมือในไมโครชิพซึ่งฝังไว้ในเล่มหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีขั้นตอนการยื่นคำร้อง ดังนี้
รับบัตรคิว ยื่นบัตรประจำตัวประชาชนที่มีเลข 13 หลัก (หากไม่มีเลข 13 หลัก ต้องนำสำเนาทะเบียนบ้านมาแสดง) พร้อมหลักฐานอื่นๆ ที่จำเป็น เช่น ใบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล ทะเบียนสมรส และต้องเป็นเอกสารต้นฉบับ หากเป็นสำเนาต้องผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พบเจ้าหน้าที่เพื่อวัดส่วนสูงเก็บข้อมูลชีวภาพ ถ่ายรูปและเก็บลายพิมพ์นิ้วมือด้วยเครื่องสแกนเนอร์ นิ้วชี้ขวาและซ้ายข้างละ 2 ครั้ง ชำระค่าธรรมเนียม 1,000 บาท รับใบเสร็จรับเงิน
รับใบนัดรับเล่ม พร้อมชำระค่าธรรมเนียมไปรษณีย์ด่วน ลงทะเบียน 35 บาท หากประสงค์ จะรับเล่มทางไปรษณียด่วน ลงทะเบียน EMS ซึ่งเป็นบริการเสริมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ร้องโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมารับด้วยตนเอง
หนังสือเดินทางแบบธรรมดา (passport) เมื่อหนังสือเดินทางเล่มเดิม ครบอายุ 5 ปี และต้องการต่ออายุหนังสือเดินทาง ทางกรมการกงสุล จะต่อหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-passport) ให้ใหม่ทันที
วิวจากบนเครื่อง
ปาท่องโก๋ 1 คู่ (ยาวคืบกว่าๆ) ราคา 4 ดอลล่าร์ฮ่องกง = 24 บาท ปาท่องโก๋ 1 คู่ (ยาวคืบกว่าๆ) ราคา 4 ดอลล่าร์ฮ่องกง = 24 บาท
การแสดงโชว์ปลาโลมาที่ดิสนียแลนด
เกาะเกาลูนยามค่ำคืน
และอีกบรรยากาศของเกาะเกาลูน
เทพเจ้าแม่กวนอิม
เจ้าแม่กวนอิม “เทพเจ้าแห่ง โชคลาภ” เจ้าแม่กวนอิม “เทพเจ้าแห่ง โชคลาภ”
กับ Week End Tour
บริเวณหน้าเทพเจ้าแม่กวนอิม
ที่ โอเชี่ยนปาร์ค
รูปปั้นแพะที่ โอเชี่ยนปาร์ค
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ปลาปอมปา
โรงแรมเชอราตัน
อีกมุมในห้องนอน
วิวนอกโรงแรม
ในโรงแรม
ร้านอาหาร
อาหารเช้า
รถราง
2 ชั้นด้วย
อุโมงค์รถไฟลอดใต้ทะเล เชื่อมระหว่างเกาลูนกับฮ่องกง
“ HONGKONG DISNEYLAND”
กระเช้าลอยฟ้า
กระเช้าโอเชี่ยนปาร์ด อากาศสบายๆ 20c*
บันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดในโลก ยาวมั่กๆๆ บันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดในโลก ยาวมั่กๆๆ
วิหารเซนตพอล
ที่สร้างในศควรรษที่ 17 ในป 1602 วิหารแหงนี้ถือวาเปนอนุสาวรียแห่งศาสนาคริสตที่ยิ่งใหญที่สุดในดินแดนตะวันออกไกล โดยในป ค.ศ. 1835 วิหารแหงนี้ถูกทําลาย และไฟไหมโดยธรรมชาติ ซึ่งคงเหลือไวแตประตูหนาวิหาร
บ่อนคาสิโนในมาเก๊า
บอกเล่าให้ฟัง ข้าวสวย ภาษาจีนเรียก หมี่ฟั่น ก๋วยเตี๋ยว ภาษาจีนเรียก หอฝัน ซาลาเปา (ไม่มีไส้) ภาษาจีนเรียก หมั่นโถว น้ำชา 1 แก้ว ภาษาจีนเรียก อีเปย ฉา
กาแฟ 1 ถ้วย ภาษาจีนเรียก อีเปย คาเฟย น้ำ 1 แก้ว ภาษาจีนเรียก อีเปย สุ่ย แกงกะหรี่เนื้อ ภาษาจีนเรียก กาหลี หนิวโย่ว เบียร์ ภาษาจีนเรียก ผีจิ่ว บะหมี่ ภาษาอังกฤษเรียก นูดเดิลซ์ (noodles) ปาท่องโก๋ ภาษาอังกฤษเรียก ฟรายด์ เฟลาอร์ สติ๊กค์
ข้าวนึ่งยัดไส้หมูสับ (ห่อใบตองนึ่ง) 11 ดอลล่าร์ฮ่องกง = 66 บาท ก๋วยเตี๋ยวไก่ 1 ชาม 18 ดอลล่าร์ฮ่องกง = 108 บาท บะหมี่เกี๊ยวกุ๊ง (หมู ไก่) 1 ชาม 17 ดอลล่าร์ฮ่องกง = 102 บาท ข้าวราดหน้าเป็ดย่าง 1 จาน 45 ดอลล่าร์ฮ่องกง = 270 บาท โจ๊กหมูสับ 1 ถ้วย 16 ดอลล่าร์ฮ่องกง = 96 บาท โจ๊กใส่ตับหมู 1 ถ้วย 18 ดอลล่าร์ฮ่องกง = 108 บาท ชามะนาวใส่น้ำแข็ง 1 แก้ว 13 ดอลล่าร์ฮ่องกง = 78 บาท
สิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อม เตรียมพาสสปอร์ต แต่เนิ่นๆ (ไปฮ่องกง และสิงคโปร์ไม่ต้องมีวีซ่า) แลกเงินไทยเป็นเงินดอลล่าร์ฮ่องกงที่ธนาคารรับแลก และควรแลกเป็นแบงค์ย่อยๆไว้อีก เช่น ใบละ 10 หรือ 20 ดอลล่าร์ ไว้มากหน่อย แต่ตอนกลับต้องรีบจ่ายเงินเหรียญโลหะให้หมด เพราะธนาคารไม่แลกคืนเงินเหรียญ เตรียมครีมแก้เมื่อย เส้นตึงไปด้วย และยาประจำตัว
เตรียมแว่นสายตา หรือแว่นกันแดด เตรียมเครื่องคิดเลขอันเล็กๆ ไว้เทียบราคาสินค้าในเมืองไทย เตรียมรองเท้าที่ใส่สบายๆ ที่สุด กระเป๋าเดินทางใบใหญ่น้ำหนักต้องไม่เกิน 20 ก.ก. และกระเป๋าใบเล็กสำหรับหิ้วติดตัวขึ้นเครื่องบินไม่ควรหนักเกิน 7 ก.ก.
ถ้าไปฮ่องกง ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ให้เตรียมเสื้อกันหนาว หรือเสื้อแจ็คเก็ตที่ไม่หนานักไปด้วย 1 ตัว สุขาที่ฮ่องกงไม่มีสายยางฉีดน้ำล้างก้น ต้องเตรียมใจแต่เนิ่นๆ เสียค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินสุวรรณภูมิ (ดอนเมือง) คนละ 500 บาท ที่ฮ่องกงไม่ต้องเสีย
ขอขอบคุณสำหรับบุคคลที่เอื้อเฟื้อ www.mfa.go.th/ http://travel.lakkai.com/display. www.weekend-tours.co.th/ ซินเจี่ย หยู่อี่ ซินเนี่ย ฮวด ใช้