พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ E-Commerce หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ รูปแบบการทำธุรกรรมซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการ ต่างๆ ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยผ่านช่องทางการจำหน่ายด้วย ระบบอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์
เปรียบเทียบการค้ายุคเดิมกับการค้าออนไลน์ การค้าแบบเดิม ลูกค้าต้องมาที่ร้านค้า ลูกค้าไม่สะดวก บางครั้งไม่มีที่จอดรถ ร้านค้าต้องเช่า ต้องซื้อทำเล มีค่าใช้จ่าย สินค้ามีจำกัด มีเฉพาะเท่าที่โชว์หรือขาย ลูกค้าถูกจำกัดเท่าที่เดินผ่านหรือในละแวกบ้าน การค้าออนไลน์ ลูกค้าสั่งซื้อออนไลน์จากที่ไหนก็ได้ ส่งสินค้าถึงบ้าน ร้านไม่ต้องเช่า ที่ดินไม่ต้องซื้อ ค่าใช้จ่ายต่ำ เปิดบริการ 24 ชั่วโมง มีลูกค้าอยู่ทั่วโลก
วิวัฒนาการของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เมื่อปี พ.ศ. 2513 เริ่มใช้ระบบโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EFT (Electronic Fund Transfer) ในสถาบันการเงินและองค์กรขนาดใหญ่ ต่อมาใช้ระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange : EDI) ช่วยขยายการส่งข้อมูลที่เป็นข้อมูลทางการเงินอย่างเดียวเป็นการส่ง ข้อมูลแบบอื่นเพิ่มขึ้น เช่น การส่งข้อมูลระหว่างสถาบันการเงินกับผู้ผลิต หรือผู้ค้าส่งกับผู้ค้าปลีก เป็นต้น มีค่าใช้จ่ายสูงจึงทำให้มีการใช้เฉพาะเครือข่ายธุรกิจรายใหญ่เท่านั้น คอมพิวเตอร์ของคู่ค้าทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนเอกสารกันโดยตรง เมื่อเกิด World Wide Web พร้อมเบราเซอร์รุ่นแรกชื่อ Mosaic ในปี ค.ศ. 1993 พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นที่แพร่หลาย
Digital Economy เศรษฐกิจดิจิตอล หรือ Internet Economy, New Economy, Web Economy เศรษฐกิจที่มีพื้นฐานอยู่บนเทคโนโลยีดิจิตอล รวมถึง การทำเศรษฐกิจที่มีพื้นฐานจากการนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้งาน การสื่อสารผ่านระบบเครือข่าย คอมพิวเตอร์ โปรแกรม เทคโนโลยีสื่อสารใช้ติดต่อสื่อสาร ทำให้การดำเนินงานทางธุรกิจทำได้สะดวกขึ้น E-Commerce เป็นรูปแบบหนึ่งของ Digital Economy
การค้าปลีกอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Retailing : E- Retailing) หมายถึง การขายสินค้าหรือบริการให้กับผู้บริโภคโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สินค้าอยู่ในรูปแบบของ Digital Product ควรมีแบรนด์เพื่อการจดจำ เป็นรูปแบบหนึ่งของ E-Commerce แบบ B-to-C