ศึกษาผลสัมฤทธิ์การใช้ ชุดฝึกเสริมทักษะรายวิชา บัญชีเบื้องต้น 1 สำหรับ นักเรียนระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปี ที่ 1 วิทยาลัยเทคโนโลยีระยอง บริหารธุรกิจ ผู้วิจัย นาง ประนอม ยางสง่า
การจัดทำแบบประเมิน ของนักเรียน ระหว่างแบบ ฝึกทำในหนังสือ กับแบบ ฝึกเสริมทักษะยังแยกไม่ ออก จึงเป็นเหตุให้การ ตอบแบบประเมินเกิด ความไม่ชัดเจน ปัญหาการวิจัย
เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนวิชาบัญชีเบื้องต้น 2 ระหว่างก่อนเรียนกับหลัง เรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ ชุดฝึกเสริมทักษะ เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์โดยการ ใช้ชุดฝึกเสริมทักษะ รายวิชา บัญชีเบื้องต้น 2 สำหรับนักเรียน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนวิชาบัญชีเบื้องต้น ระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ ชุดฝึกเสริมทักษะ เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์โดยการ ใช้ชุดฝึกเสริมทักษะ รายวิชา บัญชีเบื้องต้น 2 สำหรับนักเรียน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
ตารางหรือผังสรุป สำคัญ ผลการทดสอบ ก่อนเรียน ( คน ) ค่าเฉลี่ย ผลการทดสอบ หลังเรียน ( คน ) ค่าเฉลี่ย ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน จากจำนวน 30 คน
ผลการเรียนจำนวน ( คน ) ค่าเฉลี่ย ( ร้อยละ ) ระดับ ระดับ ระดับ ระดับ ระดับ ระดับ ระดับ ระดับ รวม ตารางหรือผังสรุปสำคัญ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จากจำนวนทั้งหมด 30 คน
จากการศึกษาผลสัมฤทธิ์การใช้ ชุดฝึกเสริมทักษะรายวิชาบัญชี เบื้องต้น 1 สำหรับนักเรียนระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปีที่ 1 วิทยาลัยเทคโนโลยีระยองบริหารธุรกิจ สรุปได้ดังนี้ ผลการทดสอบก่อนเรียนและผล การทดสอบหลังเรียน รายวิชา บัญชีเบื้องต้น 1 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2555 วิทยาลัย เทคโนโลยีระยองบริหารธุรกิจ ได้ผลการเรียนผ่านอยู่ ในระดับ เกิน ร้อยละ 50 สรุปผลการวิจัย
จากการศึกษาผลสัมฤทธิ์ การใช้ชุดฝึกเสริมทักษะรายวิชา บัญชีเบื้องต้น 1 สำหรับนักเรียน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปีที่ 1 วิทยาลัยเทคโนโลยีระยอง บริหารธุรกิจ สรุปได้ดังนี้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการใช้ ชุดฝึกเสริมทักษะ รายวิชาบัญชี เบื้องต้น 1 สำหรับนักเรียนระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปีที่ 1 วิทยาลัยเทคโนโลยีระยอง บริหารธุรกิจ โดยมีผลการเรียน ระดับ 4 อยู่ในระดับมากที่สุด สรุปผลการวิจัย
จากการวิจัยผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนการใช้ชุดฝึกเสริมทักษะ พบข้อมูลดังนี้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยรวม นักเรียนมีผลการเรียนผ่านเกณฑ์ คิดเป็นร้อยละ อยู่ในระดับดี มาก ทั้งนี้เนื่องมาจากกระบวนการ สอนมีสื่อที่น่าสนในเรียงลำดับ ขั้นตอนจากง่ายไปหาเรื่องยาก ทำ ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เป็นลำดับ ขั้นตอนต่อเนื่อง รวมถึงเน้นผู้เรียน เป็นสำคัญ สรุปผลการวิจัย
นักเรียนมีโอกาสฝึกเสริม ทักษะอย่างหลากหลาย นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนเพิ่มมากขึ้น ประโยชน์ที่จะได้รับ
... จบการนำเสนอ...