ชื่อเรื่องวิจัย : การพัฒนาศักยภาพทางความคิดในการคิดวิเคราะห์ของนักศึกษา ปวส.2 แผนกเคมีอุตสาหกรรม ปีการศึกษา 2555 ชื่อผู้วิจัย : นางสาวปัทมาวรรณ แสวงผล สถานศึกษาที่สังกัด : วิทยาลัยเทคโนโลยีไออาร์พีซี
ปัญหาการวิจัย ในปัจจุบันการวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาส่วนรวม ปัญหาส่วนตัว การทำงานการสื่อสารที่ผิดพลาดเพราะไม่ได้รับการวิเคราะห์ข้อมูลก่อน หรือการทำข้อสอบเชิงวิเคราะห์ของนักศึกษานั้นมีน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด งานวิจัยนี้จึงเน้นที่จะทำแบบฝึกเพื่อที่จะช่วยให้นักศึกษาได้ฝึกการคิดวิเคราะห์มากยิ่งขึ้นเพื่อพัฒนาความคิดและการทำงานในอนาคตต่อไป
วัตถุประสงค์ 1. เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ตามเกณฑ์มาตรฐาน ร้อยละ 80 / 80 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ททางการคิดวิเคราะห์ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์
ตารางสรุปการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ E1/E2 และค่าดัชนีประสิทธิผล (E ตารางสรุปการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ E1/E2 และค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) คะแนนแบบฝึกทักษะ คะแนนจากการสอบ 1 10 2 3 4 5 6 7 8 9 รวม 90 ก่อนทำ แบบฝึก 40 หลังทำ แบบฝึก 2,413 506 1163 75.4 15.8 36.3 S.D 3.69 3.91 1.46 ร้อยละของคะแนนเฉลี่ย 83.78 39.53 86.88 ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ E1/E2 เท่ากับ 83.78/86.88 ค่าดัชนีประสิทธิผล (Effectiveness Index : E.I. เท่ากับ 0.7829
ตารางการวิเคราะห์ค่าความแตกต่างของคะแนนและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน คนที่ คะแนนจากการสอบ ผลต่างของคะแนน ร้อยละ ก่อนเรียน หลังเรียน 40 เฉลี่ย 15.8 36.3 20.5 51.3 t 38.1 t(.01,31) = 2.46
สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล 1. นักศึกษาที่ผ่านการทำแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ และทำแบบประเมินด้วยตนเอง พบว่านักศึกษามีการแสดงความคิดเห็นในวิเคราะห์ปัญหาได้ดีขึ้น สามารถตอบคำถามได้กระจ่างชัดมีเหตุผล รวมทั้งสามารถทำข้อสอบเชิงวิเคราะห์ข้อยากได้ 2. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักศึกษา ปวส 2 แผนกเคมีอุตสาหกรรม เท่ากับ 83.78/86.88 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80
สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล 3. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักศึกษา ปวส 2 แผนกเคมีอุตสาหกรรม เท่ากับ 0.7829 4. นักศึกษามีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
ขอบคุณค่ะ