นางสาวจุฑารัตน์ ลุนพงษ์ “เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา มารยาทกับการสมาคม ของนักเรียน ระดับชั้นปวช.2 รูปแบบการสอนแบบ Mind mapping” นางสาวจุฑารัตน์ ลุนพงษ์ วิทยาลัยเทคโนโลยีหมู่บ้านครู สังกัดสำนักงานบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
ปัญหาการวิจัย จากการสอนวิชามารยาทกับการสมาคม ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพมีปัญหาเรื่องของการจดจำวิธีการใช้มารยาทในสังคมซึ่งจากคะแนนสอบก่อนเรียนภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557นักศึกษามีคะแนนสอบที่น้อยผู้วิจัยจึงได้จัดทำวิจัยในชั้นเรียนนี้ขึ้นมาเพื่อพัฒนาปรับปรุง การสอนแบบ Mind mapping
ปัญหาการวิจัย ( ต่อ ) เพื่อนักศึกษาจะได้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เพิ่มขึ้น การสอนโดยใช้เทคนิคแบบให้นักเรียนสรุปบทเรียนที่เรียนในแต่ละบทเป็น Mind Mapping เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถฝึกทักษะในด้านการฝึกปฏิบัติของมารยาทในแต่ละวิธีได้ถูกต้องเพราะเป็นการให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ร่วมกัน และที่สำคัญยิ่ง นักเรียนสามารถนำความรู้ที่ถูกต้องไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา มารยาทกับการสมคม ของนักเรียน ระดับชั้นปวช.2 รูปแบบการสอนแบบ Mind mapping 2. เพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนวิชามารยาทกับการสมคม ระดับชั้น ปวช.2 โดยเน้นการเรียนแบบ Mind mapping
สรุปตารางที่สำคัญ ตารางที่ 1 แสดงจำนวนร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงแบนมาตรฐานของคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนวิชามารยาทกับการสมคม จากตารางที่ 1 พบว่าผลสัมฤทธิ์ของคะแนนทดสอบก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย 8.28 (S.D = 1.71)คิดเป็นร้อยละ 41.37 ส่วนผลสัมฤทธิ์ของคะแนนทดสอบหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย 13.38 (S.D = 2.64)คิดเป็นร้อยละ 66.89
สรุปตารางที่สำคัญ ( ต่อ ) ตารางที่ 2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนวิชา มารยาทกับการสมคม จากตารางที่ 2 พบว่านักเรียนที่ได้รับการสอนแบบ Mind Mapping ในวิชามารยาทกับการสมคม มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแล้วเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
สรุปผลการวิจัย 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบรูปแบบการสอนแบบMind Mapping มีคะแนนเฉลี่ยหลัง เรียนสูงกว่าก่อนเรียนที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 เป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 1 2. นักศึกษาที่เรียนด้วยวิธีการจัดการเรียนรูปแบบการสอนแบบMind Mapping มีความพึงพอใจต่อการเรียนการ
THE END