ระบบการศึกษาของสหรัฐอเมริกา นาย นิติธาร ชูทรัพย์ 533JCe202 นางสาว สุทธิดา รักษาขันธ์ 533JCe214 นางสาว กนกอร กวานสุพรรณ 533JCe216
แผนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
ระบบการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา แบ่งเป็นระดับต่าง ๆ ได้ดังนี้ ระดับอนุบาล (Kindergarten) ระดับประถมศึกษา (Elementary School) ระดับมัธยมศึกษา (Secondary School) ระดับอุดมศึกษา (Higher Education)
ระดับอนุบาล (Kindergarten) การศึกษาระดับนี้ ไม่ใช่การศึกษาภาคบังคับ อายุระหว่าง 4 - 5 ปี เปิดให้เด็กมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด ระหว่างบ้านกับโรงเรียน เน้นในด้านความพร้อม เพื่อเตรียมตัวเข้าเรียนชั้นประถมศึกษา
ระดับประถมศึกษา (Elementary School) เป็นการศึกษาภาคบังคับ สำหรับเด็กอายุ 6 – 11 ปี มีระยะเวลาการศึกษา 6 ปี (ประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง ประถม 6) พัฒนาด้านสังคมและสติปัญญาทั่วไป การเลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติ ถ้าเด็กไม่ผ่านวิชาใดก็ต้องเรียนซ้ำและสอบแก้ตัวเฉพาะวิชานั้น เวลาเรียนปีละ 180 วัน
ระดับมัธยมศึกษา (Secondary School) เป็นการศึกษาภาคบังคับ สำหรับเด็กอายุ 12-18 ปี มีระยะเวลาการศึกษา 7 ปี (มัธยมปีที่ 1 ถึง มัธยมปีที่ 6) เป็นการเตรียมเด็กเพื่อการดำเนินชีวิตต่อไปในภายหน้า เป็นลักษณะโรงเรียนมัธยมแบบผสม (Comprehensive High School)แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ โรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนเอกชน
ระดับมัธยมศึกษา ประเภทโรงเรียนรัฐบาล ประเภทโรงเรียนรัฐบาล นักเรียนทุนส่วนตัว มีสิทธิ์เรียนได้เป็นเวลา 1 ปีเท่านั้น มีแบบ ม.ต้น เกรด 7, 8, 9 และม.ปลาย เกรด 10, 11, 12 มีโปรแกรมวิชาการ และโปรแกรมวิชาชีพ มีการให้คะแนนเป็นเกรด คือ A B C D ถึง F
ระดับมัธยมศึกษา ประเภทโรงเรียนเอกชน ประเภทโรงเรียนเอกชน มี 3 รูปแบบ Independent School หรือ Prep. School เพื่อเตรียมนักเรียนเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี Parochial School โรงเรียนศาสนาโรมันคาธอลิค Bible School สอนศาสนาควบคู่กับวิชาการ
ระดับอุดมศึกษา 1. วิทยาลัย 2 ปี (Junior College) การศึกษาในระดับนี้ แบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้ 1. วิทยาลัย 2 ปี (Junior College) 2. วิทยาลัยประจำท้องถิ่น (Community College) 3. วิทยาลัย (College) 4. มหาวิทยาลัย (University) 5. สถาบันทางวิชาชีพ
ระดับอุดมศึกษา ประเภท วิทยาลัย 2 ปี เป็นหลักสูตร 2 ปีต่อจากมัธยมศึกษาตอนปลาย หลักสูตรการสอนมี 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1. Transferable Program 2. Terminal /Occupational Program
Transferable Program ผู้เรียนสามารถโอนหน่วยกิตไปเรียนต่อปีที 3 ของวิทยาลัย หรือ มหาวิทยาลัย เพื่อศึกษาต่อจนจบปริญญาตรีได้
Terminal /Occupational Program เป็นหลักสูตร 2 ปี เน้นทางวิชาชีพ ความสามารถในการทำงานเทคนิค และงานกึ่งวิชาชีพ สำเร็จแล้วได้รับอนุปริญญา
ระดับอุดมศึกษา วิทยาลัยประจำท้องถิ่น (Community College) เป็นหลักสูตร 2 ปีต่อจากมัธยมศึกษา ตอนปลายมีแบบแผนเดียวกับ Junior College เพื่อตอบสนองความต้องการของท้องถิ่น
ระดับอุดมศึกษา ประเภท วิทยาลัย (College) หลักสูตร 4 ปี สำเร็จแล้วได้ปริญญาตรี บางแห่งเปิดสอนถึงระดับปริญญาโท
ระดับอุดมศึกษา ประเภท มหาวิทยาลัย (University) เปิดสอนระดับปริญญาตรี (4 ปี) ปริญญาโท (1-2 ปี) และปริญญาเอก (4 ปี) เน้นการสอนและค้นคว้าวิจัยในแง่วิชาการ
ระดับอุดมศึกษา ประเภท สถาบันทางวิชาชีพ เป็นสถาบันทางวิชาชีพชั้นสูงโดยเฉพาะ เช่น แพทย์ กฎหมาย เป็นต้น หลักสูตร 3 – 8 ปี แล้วแต่สาขาวิชา โดยปกตินักศึกษาจะเข้าศึกษาหลังจากจบปริญญาตรีมาแล้ว
ระบบการศึกษาของสหรัฐอเมริกา แบบ 6 : 3 : 3 แบบ 6 : 6 แบบ 8 : 4 แบบ 6 : 2 : 4
ภาคการศึกษา สถานศึกษาในสหรัฐอเมริกาใช้ภาคการศึกษาหลายแบบแตกต่างกันออกไปขึ้นกับ ความต้องการสถานศึกษา และความนิยมของท้องถิ่น ได้แก่
ระบบ Semester แบ่งเป็น 2 Semester ๆ ละ 16 -18 สัปดาห์ และอาจมี 1 หรือ 2 Summer session 1.Fall Semester เปิดประมาณกันยายนถึงกลางธันวาคม 2. Spring Semester เปิดประมาณมกราคมถึงกลางเมษายน 3. Summer Semester เปิดประมาณกลางพฤษภาคมถึงสิงหาคม
ระบบ Trimester แบ่งเป็น 3 เทอม ๆ ละ 3 เดือน 1. First เปิดประมาณกันยายนถึงกลางธันวาคม 2. Second เปิดประมาณมกราคมถึงเมษายน 3. Third เปิดประมาณพฤษภาคมถึงสิงหาคม
ระบบ 4-1-4 Fall เปิดประมาณกันยายนถึงธันวาคม แบ่งภาคเรียนเป็น 2 เทอม (Semester) เทอมละ 15 สัปดาห์ คั่นด้วยเทอมสั้น ๆ เรียกว่า Mini term หรือ Interim เทอมสั้นนี้มีระยะเวลา 1 เดือน Fall เปิดประมาณกันยายนถึงธันวาคม Mini-Term Interim เปิดประมาณมกราคม (1เดือน) Spring เปิดประมาณกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม
แผนภูมิระดับการจัดการศึกษาในสหรัฐอเมริกา
มีปัญหาอะไรซักถามไหมครับ ขอบคุณ มีปัญหาอะไรซักถามไหมครับ ขอบคุณ