Slide :1
Slide :2
ข้อมูลบนเว็บไซต์มีจำนวนมากมายมหาศาลทำให้เข้าถึงได้ ยาก ผู้ใช้ต้องการข้อมูลที่ตรงกับความต้องการและสามารถสืบค้น ได้ง่าย พื้นฐานมาจากเทคนิคสืบค้นสารสนเทศในห้องสมุด นั่นคือ ระบบแค็ตตาล็อกและระบบค้นคืนรายการหนังสือ Slide :3
ความนิยมในการซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ที่ เรียกว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) เพิ่มขึ้น อย่างรวดเร็ว เจ้าของเว็บไซต์ต้องการโปรโมตเว็บไซต์ตัวเอง เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้ามา ซื้อสินค้าและบริการของตน Slide :4
Pay-per-click Search Engine Optimization (SEO) Slide :5
เป็นการจ่ายค่าโฆษณาให้กับเสิร์ซเอ็นจินโดย ผ่านการประมูลค่าสืบค้น เว็บไซต์ที่ให้ราคาประมูลสูงสุดก็จะได้ขึ้นอันดับ ต้นๆ หากผู้ใช้เลือกคลิกเว็บไซต์ใด เจ้าของเว็บไซต์ นั้นก็ต้องจ่ายค่าประมูล ดังกล่าวให้กับเสิร์ชเอ็นจิน ทำได้ง่าย สะดวก แต่เสียค่าใช้จ่ายสูง Slide :6
เป็นการจัดทำ ปรับปรุง หรือปรับแต่ง หน้า เว็บไซต์ เพื่อให้ติดอันดับ ต้นๆ ในหน้าผลการค้นหาโดยธรรมชาติไม่ เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ผู้ดูแลหรือผู้จัดทำเว็บไซต์สามารถทำให้ เว็บไซต์ของตนติดอันดับดีๆได้ โดยต้องศึกษาและเรียนรู้วิธีการจัดอันดับ ของเสิร์ชเอ็นจินแต่ละค่าย Slide :7
ปัจจัยที่ปรากฏบนหน้าเว็บ เช่น หัวเรื่อง (Title) เนื้อหา (Content) ชื่อรูป (Image File Name) Slide :8
ปัจจัยที่ไม่ได้อยู่บนหน้าเว็บนั้น แองเคอร์เท็กซ์ (Anchor Text) ที่เชื่อมโยงมายังเว็บ นั้น ข้อมูลหน้าเว็บที่ถูกจัดอยู่ในสารบัญเว็บ คะแนนที่ได้จากวิธีวิเคราะห์การเชื่อมโยงของหน้า เว็บ (Link Analysis) หลักการก็คือ หน้าเว็บใดถูก เชื่อมโยงมากๆ ก็เสมือนว่าได้รับความนิยมจากผู้อื่นก็จะได้ คะแนนมากยิ่งขึ้นอีก Slide :9
1.Google.* 99.07% 2.Sanook.com 0.13% 3.Bing.com 0.61% Slide :10
1. เนื้อหาภายในเว็บ เช่น Tag (title, a, h1, b เป็นต้น ) 2. การสร้าง Title แต่ละหน้าไม่ซ้ำกัน 3. การกำหนด Meta Keyword, Description 4. การทำ Robots.txt 5. การสร้าง sitemap 6. การ verification กับ web master tool 7. การทำ Google Analytic Slide :11
1. การปิด link ออกภายนอก 2. การใช้ tag ที่มีผลต่อ seo keyword 3. การใช้ Mod Rewrite Slide :12
Slide :13
การใช้งาน 301 Redirect <? header(“HTTP/ Moved Permanently”); header(“location : ?> Slide :14
Slide :15
Slide :16
Slide :17
Slide :18