เรื่อง การศึกษาความต้องการและปัจจัยที่มีผล ต่อการเลือกสถานศึกษาเพื่อศึกษาต่อที่ โรงเรียน เทคนิควิมลบริหารธุรกิจ ของ นักเรียนในโรงเรียนกลุ่มเป้าหมายใน โรงเรียนจังหวัด นนทบุรี โดย สุธี เทศวิรัช วิทยาลัยเทคโนโลยีวิมลบริหารธุรกิจ
ปัญหาการวิจัย สืบเนื่องจากการแข่งขันในด้านการจัดการศึกษาของ เอกชนมีสูงมากเพราะต้องแข่งขันทั้งกับภาครัฐและ เอกชน ด้วยกัน ดังนั้นการจัดการศึกษาจึงต้องมี ทิศทางที่ชัดเจน และสามารถตอบสนองความ ต้องการของผู้เรียนได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้ ทำวิจัยเพื่อศึกษาความต้องการและปัจจัยในการเลือก สถานศึกษาเพื่อศึกษาต่อของนักเรียนชั้นม. 3 และ เพื่อพัฒนาการดำเนินงานของฝ่ายแนะแนวและ ประชาสัมพันธ์ให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับ ความต้องการของผู้เรียน
วัตถุประสงค์การวิจัย 1. เพื่อศึกษาความต้องการในการศึกษาต่อ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของ กลุ่มเป้าหมายในโรงเรียนในจังหวัด นนทบุรี 2. เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเลือก สถานศึกษาเพื่อศึกษาต่อของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 3
ที่ปัจจัยในการเลือกสถานศึกษา ระดับความสำคัญ XS.D. ลำดั บ มีชื่อเสียงที่ดี และเปิดสอนมานาน เป็นที่ยอมรับของสังคม มีเครื่องแบบนักเรียนที่ทันสมัย มีเครื่องแบบนักเรียนนักศึกษาเป็น สูท ระยะทางจากบ้านมาโรงเรียนนั่งรถ ไม่ไกลเกินไป อัตราค่าธรรมเนียมการเรียน และ ค่าใช้จ่ายไม่แพงเกินไป สถานศึกษามีการจัดสถานที่ เหมาะสม สวยงามมีบรรยากาศเอื้อ ต่อการเรียนรู้ มีสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัย
อันดั บที่ จำนวนผู้จัด อันดับ / คน ติดเป็นร้อย ละ ติดเป็น อันดับที่ ไม่ระบุ อันดับ
สาขาการเรียนจำนวนผู้เลือกคิดเป็นร้อยละ 1. สายสามัญ ม สายอาชีพ ( แบ่งเป็น ) สาขาพณิชยกรรม สาขาช่างอุตสาหกรรม สาขาศิลปกรรม สาขาเกษตรกรรม สาขาคหกรรม 10.34
จากการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกสถานศึกษาเพื่อศึกษาต่อมีดังนี้ 1. อันดับที่ 1 ได้แก่ข้อ 7 เรื่องการมีสื่อการเรียนการสอนที่ ทันสมัย มีค่าเฉลี่ย 3.91 จัดอยู่ใน ระดับมาก 2. อันดับสุดท้าย ได้แก่ข้อ 5 เรื่อง การมีเครื่องแบบชุดนักเรียน นักศึกษา เป็นสูทมีค่าเฉลี่ย 3.10 จัดอยู่ใน ระดับ ความสำคัญมาก 3. การจัดอันดับโรงเรียนเทคนิควิมลบริหารธุรกิจ เมื่อ เปรียบเทียบกับโรงเรียนที่ท่านรู้จัก มี นักเรียนจัดอันดับให้โรงเรียนเทคนิควิมลบริหารธุรกิจให้ใน ลำดับที่ 4 จำนวน 77 คน ติดเป็นร้อยละ โรงเรียนกลุ่มเป้าหมายที่ใช้การเก็บข้อมูล เป็นกลุ่มตัวอย่าง มีสัดส่วนของนักเรียนที่เลือกเรียนสายสามัญ และสาย อาชีวศึกษา 50.51:49.49
1. ได้นำผลการวิจัยรายงานให้กรรมการบริหารโรงเรียน ทราบเพื่อหาทางปรับปรุงดำเนินงาน ในข้อที่เรายังไม่ สามารถดำเนินการตามความต้องการของผู้เรียนเพื่อ พัฒนาองค์กรให้สามารถแข่งขันกับผู้อื่นได้ เช่น ด้าน สื่อ การเรียนการสอนให้มีความทันสมัยและปรับปรุงให้มีสิทธิ ภาพให้สามารถใช้งานได้อย่างมีศักยภาพ จัดทำแผนใน การพัฒนา ทั้งระยะสั้น และระยะยาวที่เด่นชัดและการจัด บริเวณอาคารสถานที่ให้มีความเหมาะสมเอื้อต่อการ เรียนรู้ 2. ในการจัดการเรียนการสอนด้านอาชีวศึกษา มี สัดส่วนอยู่ในระดับที่พอใจ โดยเฉพาะสาขาพณิช กรรม ยังเป็นที่ต้องการของนักเรียน ดังนั้น อนาคต ในการจัดการเรียนการสอนด้านอาชีวศึกษาของ สถานศึกษาจึง ยังมีโอกาสที่ดีในการลงทุนแต่ต้อง ปรับปรุงให้มีคุณภาพ โดยเฉพาะสื่อและอุปกรณ์ที่ ทันสมัยส่วนในสาขาอื่นๆที่มีผู้เลือกเรียนน้อยซึ่งมี องค์ประกอบหลายประการที่วิจัยไม่ได้ศึกษา