ผลการพัฒนาวิธีการสอนโดยใช้แผนผัง ความคิด วิชา ครอบครัวศึกษาและความปลอดภัย ในชีวิต ( ) เรื่อง ความปลอดภัยในการใช้ยา ของนักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตร วิชาชีพปีที่ 1 อาจารย์สายวรุณ ใจเฉื่อย วิทยาลัยเทคโนโลยีเมืองชลบริหารธุรกิจ (MBAC) ต. บางพระ อ. ศรีราชา จ. ชลบุรี
ปัญหาการวิจัย ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาและวิกฤติ ด้านคุณภาพการศึกษา ทั้งทางด้านผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน และการนำความรู้ความสามารถไปใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ ทำให้เกิดปัญหาทั้งในด้านการเรียนและ การดำรงชีวิตอยู่ในสังคมโดยเฉพาะการรู้จักใช้ยา ซึ่งเป็น ปัจจัยสี่ที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตที่มนุษย์ใช้ในการ บำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บ แต่ถ้าใช้ยาโดยขาดความรู้ ความเข้าใจ ยาก็อาจทำอันตรายถึงชีวิตได้ จากปัญหา ดังกล่าวทำให้เห็นว่าการศึกษามีส่วนสำคัญที่จะแก้ไข ปัญหาด้วยการให้ความรู้ ความเข้าใจแก่เยาวชน จากเหตุผลข้างต้น เป็นเหตุให้ผู้วิจัยมีความสนใจ และตระหนักถึงความสำคัญของการจัดกระบวนการเรียนรู้ ในการพัฒนาศักยภาพผู้เรียน จึงต้องการพัฒนาการ จัดการเรียนรู้ในรูปแบบเดิมสู่วิธีการสอนโดยใช้แผนผัง ความคิด
วัตถุประสงค์ของ การวิจัย 1. เพื่อพัฒนาวิธีการสอนโดยใช้แผนผัง ความคิด วิชาครอบครัวศึกษาและความ ปลอดภัยในชีวิต ( ) เรื่อง ความ ปลอดภัยในการใช้ยา ของนักเรียนชั้น ปวช.1 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนก่อนและหลังการใช้วิธีการสอนโดยใช้ แผนผังความคิด วิชา ครอบครัวศึกษาและ ความปลอดภัยในชีวิต ( ) เรื่อง ความปลอดภัยในการใช้ยา สำหรับนักเรียน ชั้น ปวช. 1
ตารางสรุป ผลการวิจัย นำผลที่ได้จากการทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยที่กลุ่ม ตัวอย่างสัมพันธ์กัน (t-test dependent samples) ไม่มีกลุ่มควบคุม (one group) มาวิเคราะห์ว่านวัตกรรมการสอนนี้มีคุณภาพหรือไม่ จากการแทน ค่าในสูตร (t.) และนำผลจากการคำนวณไปเปรียบเทียบกับตารางค่าวิกฤติ ของ t ที่ระดับ.01 ดังนี้ สูตรคำนวณ t = df=N-1 แทนค่าในสูตร t= t คำนวณ =9.83 ค่า t เปิดตารางแบบ 1-tail ระดับ.01 ณ df = 43 ได้เท่ากับ ดังนั้น ค่า t ที่คำนวณได้ มากกว่า ค่าวิกฤติของ t ตาราง ที่ระดับ นัยสำคัญ.01 แสดงว่า Posttest น้อยกว่า Pretest จากการใช้นวัตกรรมนี้อย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 งานวิจัยจึงถือว่า เป็นไปตามสมมติฐาน สรุปว่านวัตกรรม ( วิธีการสอนโดย ใช้แผนผังความคิด ) นี้ ใช้ได้
ตารางเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน กลุ่มตัวอย่าง NXSDtp ก่อนเรียน * *.000 หลังเรียน **P<.01(t.43= 2.423) จากตาราง พบว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชา ครอบครัวศึกษาและความปลอดภัยในชีวิต เรื่องความปลอดภัยในการใช้ยา ของนักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 1 หลังเรียนด้วยวิธีการ สอนโดยใช้แผนผังความคิดสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ.01
สรุป ผลการวิจัย สรุปได้ว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา ครอบครัวศึกษาและความปลอดภัยในชีวิต ( ) เรื่องความปลอดภัยในการใช้ยา ของนักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 1 หลังเรียนด้วยวิธีการสอนโดยใช้แผนผัง ความคิดสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งเป็นไปตาม สมมติฐานที่ตั้งไว้
1. ควรเพิ่มเวลาในการจัดการเรียนการสอนให้ มากกว่านี้ เพื่อให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและแสดง ความสามารถสร้างแผนผังความคิดได้ด้วยตนเอง เพราะ หากผู้เรียนไม่เข้าใจ และไม่สามารถสร้างแผนผัง ความคิดได้ ผู้เรียนอาจเกิดความสับสนและท้อแท้ในการ เรียนได้ ผลกระ ทบ 2. ก่อนลงมือสอนควรมีการปฐมนิเทศผู้เรียน เกี่ยวกับขั้นตอนต่าง ๆ ของการสอนโดยใช้กิจกรรม แผนผังความคิด เพื่อให้ผู้เรียนเล็งเห็นความสำคัญและ ประโยชน์ที่จะได้รับ และมีความกระตือรือร้นในการเรียน
1. สามารถนำวิธีการสอนโดยใช้แผนผัง ความคิดไปปรับใช้กับผู้เรียนระดับชั้นอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลการวิจัยที่เชื่อถือได้และมีความ เที่ยงตรงมากขึ้น 2. สามารถนำวิธีการสอนโดยใช้แผนผัง ความคิดไปใช้สอนในรูปแบบอื่น ๆ เช่น บทเรียน สำเร็จรูป บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นต้น ประโยชน์ที่ได้จากการ ศึกษาวิจัย
สวัสดีค่ะ