การสอนแบบ Backward Design เป็นการจัดการเรียนการสอนที่วางแผนการคิดย้อนทาง ต้องกำหนดเป้าหมายหลักให้ชัดเจน ออกแบบกิจกรรมที่นำไป สู่ผลได้จริง และนักเรียนต้องได้รับความรู้ฝังแน่น ดำเนินการถอยหลังไปทีละ Step ตามลำดับบันไดสร้างความรู้ (Learning Hirachy)
ความรู้แบบฝังแน่น คืออะไร ความรู้แบบฝังแน่น คือ ความรู้ที่นำไปใช้ได้ ได้แก่ 1. ความคิดรวบยอด ( Definition ) 2. ความสัมพันธ์ (ความเชื่อมโยงของความคิดรวบยอด 2 อย่าง ขึ้นไป 3. กฎ หลักการ 4. กระบวนการ
ทำไมต้องทำ Backward Design ในประเทศไทย ทุกวันนี้ครูผู้สอนยังสอนแบบท่องจำ ให้ความรู้แบบฉาบฉวย ทำให้นักเรียนไม่มีความรู้จริง ไม่สามารถนำความรู้ไปใช้ได้ U.S.A. ได้เปรียบเทียบผลการสอบระดับชาติกับนักเรียนนานาชาติ ปรากฎว่า U.S.A. ไม่ติด 1 ใน 3 เลย จึงเริ่มทำวิจัย โดยสำรวจห้องเรียน 2,300 ห้องเรียน พบว่า
ตัวชี้คุณภาพเชิงบวก ในการเรียนการสอนมีการตั้งเป้าหมายความคิดระดับสูง 3 % ในการเรียนการสอนมีการตั้งจุดมุ่งหมายชัดเจน 4 % เขียนหรือใช้ Rubrics ในการประเมิน 0% ตัวชี้คุณภาพเชิงลบ ขณะสอนมีกิจกรรมอื่นแทรก(ไม่ค่อยสอน/เรียน ) 35 % นั่งทำใบงาน 52 % นักเรียนน้อยกว่าครึ่งสนใจเรียน 85 % จากนั้นก็ไปดู Portfolio นักเรียน พบว่าผลงานนักเรียน เป็นผลงานที่แสดงออกแบบพื้นๆมาก ไม่มีความคิดลึกซึ้ง
การทำแผนแบบ Backward Design เริ่มต้นจาก 1. ครูกำหนดผลการเรียนรู้แบบลึกซึ้ง ฝังแน่น 2. จัดบรรยากาศเชิงบวกในห้องเรียน 3. ใช้คำถาม ยั่วยุ ท้าทายให้สมองทำงาน 4. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้นักเรียนรู้จักการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ต้องมีการประเมินผลหลังการสอนและมีการพัฒนานักเรียนที่มีผลการเรียนต่ำ 5. ครูนำเสนอตัวอย่างชิ้นงานของนักเรียนตามแผนที่ครูสอน (ชิ้นงานต้องมี 3 Level คือ ชิ้นงานของนักเรียนที่มีผลการเรียนสูง กลาง ต่ำ )
เจตนาของ Backward Design 1. ต้องการทำให้แผนการสอนเป็นเหตุเป็นผล 2. นักเรียนมีความรู้แบบฝังแน่น เมื่อเราจะพยายามเปลี่ยนแปลงครู ก็จะมี แรงต้าน ***การเปลี่ยนแปลงทั้งหลายต้องเริ่มที่ Moral Purpose
Moral Purpose ความรับผิดชอบเชิงจริยธรรม 1. ครูต้องเพิ่มคุณภาพผลการเรียน 2. ลดช่องว่างเด็กเก่ง เด็กอ่อน 3. นักเรียนทุกคนต้องได้รับการเรียนที่ดีที่สุด
ข้อเสนอแนะ /แนวทางในการปฏิบัติ แนวคิดแบบ Backward Design มีประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอน แต่ครูต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง ศก.อาจไม่จำเป็นต้องใช้รูปแบบนี้ แต่ทำแบบเดิมที่มีอยู่ให้เข้มข้น ฝังแน่นขึ้นก็น่าจะถึงจุดหมายปลายทางเดียวกันได้ คือส่งเสริมนักเรียนให้รู้จักคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และนำความรู้ไปใช้ได้ ***
where there is an OPEN MIND, There will always be a new frontier.