บทที่ 5 การจัดหาเงินทุนระยะสั้นและระยะปานกลาง Short- Term and Intermediate-Term Financing
ตลาดการเงิน(Financial market) เป็นตลาดที่ทำให้เกิดช่องทางการเคลื่อนย้ายเงินออมของผู้ออม (Saving sector) ซึ่งมีเงินเกินความต้องการไปสู่ภาคธุรกิจหรือผู้ลงทุน (Investing sector) ซึ่งมีเงินไม่พอกับความต้องการ
ตลาดการเงิน (Financial market) แบ่งออกเป็น 1. ตลาดเงิน (Money market) 2. ตลาดทุน (Capital market)
ตลาดทุนแบ่งออกเป็น 2.1 ตลาดแรก (Primary market) 2.2 ตลาดรอง (Secondary market)
2.2 ตลาดรอง (Secondary market) เป็นตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ที่เคยผ่านการซื้อขายในตลาดแรกมาแล้ว เป็นตลาดที่ทำให้หลักทรัพย์มีการเปลี่ยนมือ เงินทุนก็จะหมุนเวียนระหว่างนักลงทุนด้วยกัน บริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ไม่ได้รับเงินทุน
ตลาดเงิน ตลาดทุน ตลาดแรก ตลาดรอง ตลาดการเงิน ตลาดเงิน ตลาดทุน ตลาดแรก ตลาดรอง ตลาด ทางการ ตลาดไม่เป็น ทางการ
การจัดหาเงินทุนแบ่งออกได้เป็น 3 ลักษณะ ตามระยะเวลาของการชำระคืน 1. การจัดหาเงินทุนระยะสั้น (Short term Financing) หมายถึงการจัดหาเงินทุนที่มีกำหนดชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ยภายในระยะเวลา 1 ปี 2. การจัดหาเงินทุนระยะปานกลาง (Intermediate Term Financing) หมายถึงการจัดหาเงินทุนที่มีกำหนดชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยภายในระยะเวลา 3–5 ปี 3. การจัดหาเงินทุนระยะยาว (Long Term Financing) หมายถึงการจัดหาเงินทุนที่มีกำหนดชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ยภายในระยะเวลาตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป.
การจัดหาเงินทุนระยะสั้น ธุรกิจสามารถจัดหาได้จาก การจัดหาเงินทุนระยะสั้น ธุรกิจสามารถจัดหาได้จาก 1. สินเชื่อทางการค้า (Trade Credit) 2. ตราสารพาณิชย์ (Commercial Paper) 3. เงินกู้ระยะสั้น (Short Term Loan).
2. ตราสารพาณิชย์ (Commercial Paper) เป็นการจัดหาเงินทุนระยะสั้นที่ไม่มีหลักประกัน ดังนั้นธุรกิจที่จะจัดหาเงินทุนโดยการออกตราสารพาณิชย์ได้จะต้องเป็น ธุรกิจขนาดใหญ่ ชื่อเสียงดี มีฐานะทางการเงินดี } น่าเชื่อถือ
3. เงินกู้ระยะสั้น แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ 3.1 เงินกู้ระยะสั้นที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (Unsecured Short Term Financing) 3.2 เงินกู้ระยะสั้นที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (Secured Short term Financing).
3.1 เงินกู้ระยะสั้นที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นการจัดหาเงินทุนที่มีกำหนดชำระคืนภายใน ระยะเวลา 1 ปี โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ 1. การกู้ยืมในวงเงินที่กำหนด (Line of Credit) 2. การกู้ยืมชนิดหมุนเวียน (Revolving Credit) 3. เงินกู้เฉพาะกรณี (Transaction Loans)
3.2 เงินกู้ระยะสั้นที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน 3.2 เงินกู้ระยะสั้นที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นการจัดหาเงินทุนระยะสั้น โดยมีหลักทรัพย์ ค้ำประกัน ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ 1. การกู้โดยใช้บัญชีลูกหนี้การค้า (Account Receivable Loans) 2. การกู้โดยใช้สินค้าคงเหลือ ( Inventory Loans)
1. การกู้โดยใช้บัญชีลูกหนี้การค้า (Account Receivable Loans) ใช้บัญชีลูกหนี้การค้าในการกู้ นำเงินที่ได้รับจากการกู้นั้นเป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ โดยเงินกู้นี้มีกำหนดชำระคืนภายใน 1 ปี แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ ก. การนำบัญชีลูกหนี้การค้าไปค้ำประกัน (Assignment of Account Receivable) ข. การนำบัญชีลูกหนี้การค้าไปขาย (Factoring of Account Receivable ).
2. การกู้โดยใช้สินค้าคงเหลือ (Inventory Loans) ใช้สินค้าคงเหลือของตนไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ นำเงินที่ได้รับจากการกู้นั้นเป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ กำหนดชำระคืนภายใน 1 ปี แบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ ก. Floating Lien ข. Trust Receipt Loans ค. Terminal Warehouse Receipt Loan ง. Field Warehouse Receipt Loans.
การจัดหาเงินทุนระยะปานกลาง เป็นการจัดหาเงินทุนที่มีกำหนดชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยภายในระยะเวลา 3-5 ปี
ธุรกิจสามารถจัดหาเงินทุนระยะปานกลางได้จาก 1. เงินกู้ระยะปานกลาง (Term Loans) 2. การจัดหาเงินทุนโดยการเช่าสินทรัพย์ (Lease Financing)
2. การจัดหาเงินทุนโดยการเช่าสินทรัพย์ (Lease Financing) เป็นการจัดหาเงินทุนระยะปานกลางวิธีหนึ่ง ลักษณะการเช่าสินทรัพย์ ผู้ให้เช่า (Lessor )เป็นเจ้าของสินทรัพย์ ผู้เช่า (Lessee )เป็น ผู้ใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ --> โดยจะจ่ายค่าเช่าเป็นงวด ๆ
การเช่าสินทรัพย์แบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ ก) Operating Lease ข) Financial Lease
ข้อดีของการเช่าสินทรัพย์ 1. การเช่าทำให้ธุรกิจได้รับเงินทุนเต็มจำนวน 2. การเช่าไม่มีข้อบังคับหรือเงื่อนไขมาก 3. การเช่าช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจ 4. การเช่ามีประโยชน์ทางด้านบัญชี
ข้อเสียของการเช่าสินทรัพย์ 1. ต้นทุนของการเช่าสูง 2. การเช่าจะมีปัญหาในเรื่องการปรับปรุงสินทรัพย์ 3. การเช่าจะมีปัญหาในเรื่องการล้าสมัยในกรณี ที่เป็นสัญญาเช่าลักษณะ Financial Lease