สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับผู้รับผิดชอบ การจัดการรายบุคคลในโรงพยาบาล (Case Manager และ Case Management Unit)
บทบาทหน้าที่ของผู้จัดการระบบจัดการรายบุคคล( Case Manager) 1.ประเมินปัญหาและความต้องการของผู้รับบริการอย่างรอบด้านผ่านข้อมูลเบื้องต้นที่รับส่งต่อจากหน่วยงาน การสัมภาษณ์เพิ่มเติมและการลงเยี่ยมบ้าน 2.บริหารจัดการให้เกิดการเข้าถึงข้อมูลของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายนโยบาย 3.รู้จักแหล่งบริการต่างๆ มีทำเนียบแหล่งบริการและบุคคลที่สามารถติดต่อได้และประสานกับบุคลากรของหน่วยงาน ทั้งภายใน ภายนอก และระดับจังหวัด เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับการช่วยเหลือให้เข้าถึงบริการได้สะดวก 4.สนับสนุนและสร้างกลไกให้เกิดการ update ข้อมูล เช่น จัดให้มี case conference กับทีมสหวิชาชีพเพื่อวางแผน และติดตามให้ความช่วยเหลือ 5.กระตุ้นให้บุคลากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ เห็นความสำคัญและประโยชน์ของการมีระบบการจัดการรายบุคคล และการทำงานแบบเครือข่ายอย่างเป็นระบบ
โจทย์ ผู้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการรายบุคคล และหน่วยงานรับผิดชอบการจัดการรายบุคคล ควรมีสมรรถนะอย่างไรบ้าง?
สมรรถนะที่จำเป็น การทำงานกับวัยรุ่น ทักษะการจัดการรายบุคคล 4 หลักการสื่อสารเพื่อเปิดเผยผลเลือด การจัดการปัญหายาเสพติด ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเอชไอวีด้านการรักษาและป้องกัน 1 ความเข้าใจด้านสุขภาวะทางเพศ ความเข้าใจในระบบการทำงานและนโยบายที่เกี่ยวข้อง 5 ความเข้าใจเรื่องจริยธรรมและความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความสามารถในการประสานเชื่อมโยงบริการ 3 การเก็บและบันทึกข้อมูลและจัดการให้เกิดการไหลเวียน แหล่งสนับสนุนบริการในชุมชน/เครือข่ายส่งต่อ พัฒนาการเด็กตามวัย (0-18 ปี) การดูแลสุขภาพจิตทั้งเด็กและผู้ใหญ่ 6 การให้การปรึกษาแบบคู่ มีความรู้เรื่องสิทธิเด็กและการปกป้องคุ้มครองเด็ก 2 มีประสบการณ์โดยตรงในการให้บริการผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS
วิเคราะห์ ๑. สมรรถนะที่มีอันดับคะแนนสูงสุด และ ต่ำสุด หรือไม่มีคะแนน ๒.ใช้เกณฑ์อะไรในการเลือกลำดับสมรรถนะ ๓. สมรรถนะที่เลือกมีผลต่อการทำงานจัดการ เป็นรายบุคคลอย่างไรบ้าง ๔. ยังมีสมรรถนะอื่น ๆ ที่จำเป็นอีกหรือไม่
สมรรถนะของผู้จัดการระบบการจัดการรายบุคคล (Case Manager) 1 สมรรถนะของผู้จัดการระบบการจัดการรายบุคคล (Case Manager) 1. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ HIV/AIDS การป้องกันและการดูแลรักษา 2. มีประสบการณ์โดยตรงในการให้บริการผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ 3. มีความรู้ความเข้าใจเรื่องพัฒนาการเด็กตามวัย 4. มีความรู้เรื่องสิทธิเด็กและการปกป้องคุ้มครองเด็ก 5. มีทักษะในการสื่อสารการเปิดเผยผลเลือด 6. มีทักษะในการประสานงาน เชื่อมโยงบริการ 7. รู้จักและเข้าใจบริการในเครือข่ายบริการทางสังคมอื่นที่เกี่ยวข้อง 8. การดูแลสุขภาพจิตทั้งเด็กและผู้ใหญ่