โดย นางสาววิมลรัตน์ ยอดคำแปง การพัฒนาทักษะการพิมพ์หนังสือราชการ โดยใช้แบบฝึกทักษะ ของนักศึกษา ระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ชั้นปีที่ 1 ห้อง 1 (ปวส.1/1) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 วิทยาลัยอาชีวศึกษาจันทร์รวี โดย นางสาววิมลรัตน์ ยอดคำแปง

วัตถุประสงค์การวิจัย เพื่อพัฒนาทักษะการพิมพ์หนังสือราชการ โดยใช้แบบฝึกทักษะ ของ นักศึกษาระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ชั้นปีที่ 1 ห้อง 1 (ปวส.1/1) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 วิทยาลัยอาชีวศึกษาจันทร์รวี เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนการสอน เรื่อง การ พิมพ์หนังสือราชการ โดยใช้แบบฝึกทักษะ ของนักศึกษาระดับชั้น ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ชั้นปีที่ 1 ห้อง 1 (ปวส.1/1) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 วิทยาลัยอาชีวศึกษาจันทร์รวี

กรอบแนวคิดในการวิจัย ตัวแปรต้น การจัดการเรียน การสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะ ตัวแปรตาม การพัฒนาทักษะการพิมพ์หนังสือราชการ ความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนการสอน เรื่อง การพิมพ์หนังสือราชการ โดยใช้แบบฝึกทักษะ

ประชากรกลุ่มตัวอย่าง นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ชั้นปีที่ 1 (ปวส.1) จำนวน 2 ห้องเรียน ซึ่งประกอบด้วย ปวส.1/1 และ ปวส.1/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวนนักศึกษาทั้งหมด 43 คน (ข้อมูลจากฝ่ายทะเบียน วิทยาลัยอาชีวศึกษาจันทร์รวี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559) กลุ่มตัวอย่าง นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ชั้นปีที่ 1ห้อง 1 (ปวส.1/1) จำนวนนักศึกษาทั้งหมด 21 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบ วิธีเจาะจง (Purposive Sampling)

ตารางที่ 1 แสดงการเปรียบเทียบทักษะการพิมพ์หนังสือราชการ ของนักศึกษาก่อนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ

แผนภูมิ แสดงค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนทดสอบ ก่อนเรียน และหลังเรียน เรื่อง การพิมพ์หนังสือราชการ โดยใช้แบบฝึกทักษะ

ตารางที่ 2 แสดงผลการศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการเรียน เรื่อง การพิมพ์หนังสือราชการ โดยใช้แบบฝึกทักษะ รายการประเมิน (S.D) ระดับความพึงพอใจ 1. แบบฝึกทักษะเข้าใจง่าย 4.05 0.80 มาก 2. แบบฝึกทักษะฝึกกิจกรรมได้สะดวกและง่าย 4.00 0.84 3. แบบฝึกทักษะเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจได้ดี 4.19 0.81 4. แบบฝึกทักษะช่วยในการพัฒนาทักษะการพิมพ์ ได้ถูกต้อง แม่นยำมากขึ้น 3.67 0.73 5. แบบฝึกทักษะใช้ในการทบทวนความรู้และฝึกทักษะได้ดี 4.43 6. แบบฝึกทักษะทำให้นักศึกษาทราบข้อบกพร่องของตนเอง 7. แบบฝึกทักษะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้และการฝึกกิจกรรม 0.74 8. นักศึกษาสนุกสนานกับการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ 0.77 9. นักศึกษาชอบการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ 3.90 0.83 10. นักศึกษาชอบเรียนวิชาเครื่องใช้สำนักงานการและการพิมพ์เอกสาร 3.95 0.92 รวม 4.02  

สรุปผลการวิจัย 1. การเปรียบเทียบทักษะการพิมพ์หนังสือราชการ ของนักศึกษา ก่อนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะ พบว่า ในภาพรวมนักศึกษามี ทักษะการพิมพ์หนังสือราชการ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน มีความ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 มีค่าเท่ากับ 1.729 2. นักศึกษามีความพึงพอใจ เรื่อง การพิมพ์หนังสือราชการ โดยใช้ แบบฝึกทักษะโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และนักศึกษามีความพึงพอใจ ระดับมากในทุกรายการ

ผลการวิจัยที่ค้นพบในครั้งนี้ เป็นไปตามสมมติฐานที่ กำหนด ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการพัฒนาทักษะการพิมพ์หนังสือ ราชการ โดยใช้แบบฝึกทักษะ มีทักษะการพิมพ์หนังสือ ราชการหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ รวมถึงความพึงพอใจต่อการเรียน อยู่ในระดับมาก

ข้อเสนอแนะสำหรับการนำผลการวิจัยไปใช้ 1. ครูผู้สอนควรสร้างแบบฝึกทักษะ เรื่อง การพิมพ์หนังสือราชการ ที่มี ประสิทธิภาพไปใช้ในการจัดการสอนนอกเหนือจากการสอนตามปกติ เพื่อให้ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น 2. ครูผู้สอนต้องอธิบายให้นักศึกษาเกิดความเข้าใจในกระบวนการเรียน การสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะ ก่อนทำการใช้แบบฝึกทักษะ เพื่อให้นักศึกษาเกิด ความเข้าใจและปฏิบัติตาม ข้อเสนอแนะสำหรับการทำวิจัยครั้งต่อไป 1. ควรมีการวิจัยถึงรูปแบบกระบวนการเรียนการสอนด้วยวิธีต่างๆ ที่ เหมาะสมในการพัฒนาทักษะ เนื้อหาของบทเรียน เน้นประโยชน์ของผู้เรียนเป็น สำคัญและนำมาปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอน