PAST SIMPLE TENSE.

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
การใช้ Past Simple Tense
Advertisements

บทที่ 4 ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
Present Simple Tense สื่อประกอบการเรียนการสอนวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเซนต์หลุยส์ ฉะเชิงเทรา ปีการศึกษา 2553.
Present Simple Tense.
Are you a student ? Yes, I am or No , I’m not .
Do you like hip-hop music?
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง What are you doing?
4.Suwatganee Kamprapan P.6/1 Sirilak Boons wan Teacher
Verb to be : is,am,are Positive ประโยคบอกเล่า โครงสร้าง = ประธานเอกพจน์ + is……… He ,She ,It + is………… He is a man. He is handsome. He is six years old.
Present Simple Tense สื่อประกอบการเรียนการสอนวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนประถมสาธิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ปีการศึกษา 2550 นวัตถกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชานวัตถกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา.
PERFECT TENSE.
ความแตกต่างด้านไวยากรณ์
Question Tag.
ครั้งที่ 8 บทที่ 2 22 มิถุนายน 2553
ครั้งที่ 2 บทที่ 1 8 มิถุนายน 2553
ครั้งที่ 9 บทที่ 2 25 มิถุนายน 2553
ครั้งที่ 3 บทที่ 1 11 มิถุนายน 2553
ครั้งที่ 7 บทที่ 2 21 มิถุนายน 2553
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ผู้จัดทำ นางสาวนารี เหลืองแสงรุ้ง
Present Simple Tense วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
BY DR.CHARUK SINPARU.
Question Tag MRS.NITTAYA PROMJAN UDOMDARUNEE SCHOOL.
วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน อ ชั้น ม. 2
Present Simple Tense สื่อประกอบการเรียนการสอนวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนอุดมดรุณี อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ปีการศึกษา 2553.
Welcome to the English Lesson…
ยินดีต้อนรับสู่ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง Auxiliary Verbs.
Present Simple Tense By Aranya Chaichana
Mr.Boonsorn Pratomwong
ประวัติส่วนตัว + วิธีการสอนภาษาอังกฤษ เสนอ อาจารย์ วิราษ ภูมาศรี
Present Perfect.
Active and Passive Active and Passive กรรมวาจก.
Indirect Question without Question Word.
Question Tag Question Tag
Kru Srithong Bovornkosolchit
Subject + Verb1 + Completion
Question Tag Question Tag ตอนที่2 ครูรุจิรา ทับศรีนวล
Present Continuous Tense
Question Tag คำถามที่ขึ้นต้นด้วยคำบอกเล่า (จะเป็นข้อความบอกรับหรือปฏิเสธก็ได้) เสียตอนหนึ่งก่อนแล้วตามด้วยกริยาช่วยและสรรพนาม เป็นรูปคำถาม ย่อๆซึ่งเรียกกันว่า.
Helping Auxiliary Verbs.
Present Continuous.
The PERFECT CONTINUOUS Tenses. Tenses Perfect continuous STRUCTUER : have + been + -ing (present participle) Meaning : รูปประโยค perfect continuous ใช่กล่าวถึง.
Present Perfect Progressive
ครูรุจิรา ทับศรีนวล.
โครงสร้างหลักของประโยคเงื่อนไข จะประกอบไปด้วย
Events can happen in the
Question Tag Question Tag ตอนที่3 ครูรุจิรา ทับศรีนวล
แปลเพลง I’m not the only one (ฉันไม่ใช่คนเดียวของเธอ)
Indirect Question word
Simple Tenses.
PASSIVE VOICE.
โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ
Have you ever….? Have you ever…? ตอนที่1.
Passive Voice By Witchuma Singhaphukam No.40 Soytreemook Boutoom No.41
Passive Voice by (Kru Aom).
( past progressive Tense)
Unit 4. Opera HouseAustralia FujiyamaJapan.
TENSE Present Simple Tense ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นจริง เกิดขึ้นเป็นประจำหรือ ปกติวิสัย ความจริงตลอดไป และมักมี adverb of frequency ( คำกริยา วิเศษณ์ที่บอกเวลา.
Present Continuous Tense
These examples show that the subject is doing the verb's action.
D 2 E 1 S E M N G ม. I G I T Grammar A L 4.0.
คำชี้แจง: สื่อการสอนชุดนี้ จะแสดงเมื่อคลิกเมาส์ลงบนสไลด์เท่านั้น ทั้งนี้เพื่อต้องการให้ผู้เรียนสามารถควบคุมการเรียนรู้สื่อด้วยตนเองได้ว่าจะเลือกเรียนหัวข้อเรื่องใด.
By T’Sumana Hanlamyuang
Present Simple Tense.
Reported Speech Statements
Direct Speech Vs Indirect Speech
Present Simple Tense.
1 E 1 S E M N G Adverb of frequency
Conditional sentences
ชุดการสอนภาษาอังกฤษ.
ใบสำเนางานนำเสนอ:

PAST SIMPLE TENSE

ความหมายของ Present Simple Tense 1. Present Tense (เพร็ซซึนซ เท็นซ) = เหตุการณ์ปัจจุบัน 2. Past Tense (พาสท เท็นซ) = เหตุการณ์ในอดีต 3. Future Tense (ฟิลเชอร์ เท็นซ) = เหตุการณ์ในอนาคต ซึ่ง Tense ที่เราจะศึกษากันในวันนี้เป็น Present Tense (เหตุการณ์ปัจจุบัน) ในรูปของ Present Simple Tense ซึ่งเป็น Tense พื้นฐานที่นักเรียนจำเป็นต้องศึกษาเพื่อใช้เป็นแนวทางในการศึกษา Tense อื่นๆในระดับสูงต่อไป

โครงสร้างของ Present Simple Tense Subject + Verb1 ประธาน + กริยาช่องที่ 1 กรณีแรก หาก Subject (ประธาน) เป็น Singular Subject (เอกพจน์ มีหนึ่งเดียว) *V1จะต้องเติม S Subject V1+s V. to be V. to have He, She, It เขา, เธอ,มัน ประธานมีหนึ่งเดียว จะต้องเติม S ใน V1 ประธาน เดิน ไปโรงเรียน V1 ใช้คำว่า (walk) + s He walks to school. She walks to school. It walks to school. ประธาน เป็น นักเรียน V. to beใช้คำว่า is He is a student. She is a student.  ประธาน เป็น สุนัข It is a dog. ประธาน มี ปากกา 1 ด้าม V.to haveใช้คำว่า has He has a pen. She has a pen. ประธานมีหาง 1 หาง It has a tail.

Past Simple Tense ใช้แสดงถึงเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตและได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยมีโครงสร้างประโยคดังนี้ หลักการใช้ Past Simple Tense 1. ใช้แสดงถึงการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและสิ้นสุดลงแล้ว โดยจะระบุเวลาไว้อย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น - Mark arrived at 7 o'clock yesterday. - Joe bought a new car last week. - The train stopped five minutes ago. - They studied French last term.

2. ใช้แสดงถึงการกระทำที่เป็นนิสัยหรือเกิดขึ้นเป็นประจำในอดีต แต่ไม่ได้เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน มักมี adverbs of frequency ที่แสดงความบ่อยรวมอยู่ในประโยคเช่น always, usually, often, every........เป็นต้น และต้องมีคำบอกเวลาในอดีตแสดงไว้ด้วย ตัวอย่างเช่น - It often rained last week. - He always played tennis last year. - They swam every evening last year. 3. ใน Past Simple Tense สามารถใช้ used to +คำกริยาช่องที่ 1 (เคย) แสดงถึงการกระทำที่กระทำอยู่ หรือที่เป็นอยู่เป็นประจำในอดีต ตัวอย่างเช่น - Sam used to travel to Japan on business. - She used to work here. - They used to live in Chiang Mai.

หลักการลียนคำกริยาให้เป็น Past Tense การเปลี่ยนรูปคำกริยาเป็น past tense มี 2 วิธี คือ 1, การเติม ed ที่ท้ายคำกริยาช่องที่ 1 (Regular Verb) 2. คำกริยาที่เปลี่ยนรูปใหม่ ( Irregular Verb) หลักการเติมเติม ed ที่ท้ายคำกริยามีดังนี้ 1.คำกริยาโดยทั่วไปเมื่อเปลี่ยนเป็นคำกริยาช่องที่ 2 ให้เติม ed ได้เลย เช่น clean - cleaned 2. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย e อยู่แล้ว ให้เติม d ได้ทันทีเช่น like - liked 3. คำกริยาที่เป็นพยางค์เดียว มีสระตัวเดียว ตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่มตัวสะกดตัวท้ายอีกหนึ่งตัวก่อน แล้วจึงเติม ed เช่น stop - stopped 4. คำกริยาที่มี 2 พยางค์ ออกเสียงเน้นหนักพยางค์หลังให้เพิ่มตัวสะกดตัวท้ายอีกหนึ่งตัวก่อน แล้วจึงเติม ed prefer - preferred 5. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย yและหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วจึงเติม ed

การทำเป็นประโยคคำถาม 1 การทำเป็นประโยคคำถาม 1. ให้สังเกตว่าในประโยคมีกริยาช่วยหรือไม่ ถ้ามีให้นำกริยาช่วยมาวางไว้หน้าประโยคและใส่ เครื่องหมาย ?(question mark)ดังนี้ - He was in the bathroom five minutes ago. Was he in the bathroom five minutes ago? Yes, he was./No,he wasn't. 2. ถ้าในประโยคนั้นไม่มีกริยาช่วย ให้ใช้ did มาช่วย ( ประธานทุกตัวใช้ did) โดยนำ did มาวางไว้หน้าประโยค ตามด้วยประธานและกริยาต้องอยู่ในรูปเดิม( ช่องที่ 1) ท้ายประโยคใส่เครื่องหมาย?(question mark) Cathy lived with her parents. Did Cathy live with her parents? Yes, she did. / No, she didn't.

การทำให้เป็นประโยคปฏิเสธ 1 การทำให้เป็นประโยคปฏิเสธ 1. ถ้าในประโยคมีกริยาช่วยให้ใส่ not หลังกริยาช่วยนั้น เช่น I was tired. I was not tired หรือ I wasn't tired. 2. ถ้าไม่มีกริยาช่วยให้ใช้ did มาช่วย (ประธานทุกตัวใช้ did) แล้วใส่ not หลัง did และกริยาช่องที 2 ต้องเปลี่ยนเป็นกริยาช่องที่ 1 Ben danced yesterday. Ben did not(didn't) dance yesterday. Angela saw the denteist last week. Angela did not (didn't) see the dentist last week.

BYE...BYE