ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น
ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น (ASEAN-Japan Comprehensive Economic Partnership-AJCEP) ผู้นำลงนาม Framework for ASEAN-Japan Comprehensive Partnership เมื่อปี 2003 เริ่มเจรจาเมษายน 2005 / เจรจามาแล้ว 7 รอบ (ล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน 2550) กำหนดเจรจาให้เสร็จในปี 2007 คาดว่า ความตกลงจะมีผลบังคับใช้ได้ในปี 2008
สาระสำคัญของการเจรจาความตกลง AJCEP 4 Pillars คือ การเปิดเสรี กฎเกณฑ์ทางการค้า การอำนวยความสะดวกทางการค้า และความร่วมมือ การเปิดเสรีได้แก่ การเปิดตลาดสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน กฎเกณฑ์ทางการค้า เช่น กฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า การอำนวยความสะดวกทางการค้า เช่น พิธีการศุลกากร การค้าไร้กระดาษ ความร่วมมือ เช่น SMEs, ICT, HR เป็นต้น Single Undertaking – จะต้องตกลงในทุกเรื่องของการเจรจาก่อนที่จะสรุปผลการเจรจา
เป้าหมายของไทยในการเจรจา AJCEP ไทยมีความตกลงทวิภาคี (JTEPA) กับญี่ปุ่นแล้ว ดังนั้น การเจรจาภายใต้ AJCEP คือ การเจรจาที่จะต้องมีมูลค่าเพิ่ม (Value-added) มากกว่าความตกลง JTEPA คือ จะต้องได้ประโยชน์เพิ่มเติมจากความตกลง JTEPA หากความตกลง AJCEP มีผลบังคับใช้ คาดว่า จะทำให้ประเทศในอาเซียนเป็นฐานการผลิต (Production Network) ของญี่ปุ่นมากขึ้น และไทยอาจได้รับประโยชน์ในเรื่องกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า โดยสามารถใช้วัตถุดิบจากประเทศอาเซียนในการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปญี่ปุ่น รวมทั้งส่งออกวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิตในประเทศอาเซียนอื่นๆ
การเจรจาการเปิดตลาดสินค้า ขณะนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ตกลง Modality การเปิดตลาดได้ในหลักการแล้ว โดยภายใต้ AJCEP อาเซียนและญี่ปุ่นจะดำเนินการเปิดตลาดตาม Modality จะมีการแลกเปลี่ยนรายการสินค้า ในเดือนมิถุนายน 2550 ก่อนการเจรจารอบที่ 8
(Tariff reduction to 0-5%) Japanese Proposal 96.8% 99% 100% Coverage Target (Trade Volume) 92% 88% 90% Normal Track (Tariff elimination within 10 years) Sensitive List (Tariff reduction to 0-5%) Highly Sensitive List (other commitments) Exclusion Immediate elimination 10 year elimination ・No more than 50% tariff rate (including no more than 20% tariff rate and tariff reduction by 10-50 %) Tariff reduction to 0-5% within 10 years (with particular safety-net measures for 2% (TV) at maximum) 5 year elimination ญี่ปุ่นยกเลิกภาษีสินค้าในกลุ่ม NT เป็นจำนวน 92% (ของมูลค่าการนำเข้าจากอาเซียน – TV) ภายใน 10 ปี โดยแบ่งเป็น ยกเลิกทันที 88% ยกเลิกภายใน 5 ปี – 90 % ยกเลิกภายใน 10 ปี – 92 % สินค้าในกลุ่ม Sensitive List มีจำนวน 4.8% ของ TV โดยลดภาษีเหลือ 0-5% ภายใน 10 ปี โดยภายใต้ Sensitive List จะมีรายการสินค้าภายใต้มาตรการ Safety-Net ไม่เกิน 2% โดยอาจเป็นการให้โควตากับสินค้าเหล่านั้น สินค้าในกลุ่ม Highly Sensitive List มีจำนวน 2.2% ของ TV โดยภาษีจะไม่เกิน 50% และอาจมีเงื่อนไขอื่นๆ (เช่น อาจมีการเจรจาใหม่ภายใน x ปี ข้างหน้า) สินค้าในกลุ่ม Exclusion มีจำนวน 1%
(Tariff reduction to 0-5%) ASEAN 6 Proposal 93.8% ≤99% 100% Coverage Target (Trade Volume) 90% Normal Track (Tariff elimination within 10 years) Sensitive List (Tariff reduction to 0-5%) Highly Sensitive List (other commitments) Exclusion Immediate elimination (as provided in bilaterals) ・No more than 50% tariff rate (as provided in bilaterals) Tariff reduction to 0-5% within 10 years อาเซียนนำสินค้ามาลด/ยกเลิก ภาษีในกลุ่ม Normal Track จำนวน 90% ของ TL ภายในระยะเวลา 10 ปี กลุ่มอื่นๆ ได้แก่ Sensitive List / Highly-Sensitive List / Exclusions จะใช้ตามความตกลงทวิภาคี เปรียบเทียบ modality ของอาเซียนและญี่ปุ่น อาเซียนมีกลุ่มสินค้า NT 90% ขณะที่ญี่ปุ่นมี 92% และลดภาษีทันที 88% [ ญี่ปุ่นลด/ยกเลิก มากกว่าอาเซียนในฐานะทีเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ] ภายใต้ AJCEP ญี่ปุ่นจะเปิดตลาดสินค้าให้กับอาเซียนเพิ่มขึ้นกว่าความตกลงทวิภาคี [ แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นสินค้าใด ] แต่ภายใต้ Modality นี้ อาเซียน (ไทย) จะไม่เปิดตลาดให้ญี่ปุ่นไปมากกว่าความตกลงทวิภาคี
การเจรจาเปิดเสรีการค้าบริการและการลงทุน จะไม่มีการเปิดเสรีเพิ่มเติมไปจากความตกลงทวิภาคี โดยข้อบทจะเป็นแบบ Minimalist Approach จะตั้งคณะกรรมการเพื่อหารือเรื่องแนวทางการเจรจาการเปิดตลาดและขยายความร่วมมือในอนาคต
ความร่วมมือในสาขาต่างๆ การส่งเสริมบรรยากาศทางธุรกิจ ทรัพย์สินทางปัญญา เทคโนโลยีสารสนเทศ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (HR) วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม การท่องเที่ยว การขนส่งและระบบ Logistics มาตรฐานการยอมรับร่วมกัน ความร่วมมือด้านการเงิน ความปลอดภัยทางอาหาร SPS TBT อื่นๆ ตามแต่ความสนใจของแต่ละฝ่าย ญี่ปุ่นจะมีงบประมาณสำหรับการดำเนินการภายใต้ AJCEP อีก 52 ล้านเหรียญ US$
การดำเนินการต่อไป จะมีการประชุมเจรจารอบที่ 8 ในเดือนมิถุนายน 2550 คณะทำงานในเรื่องต่างๆ เช่น การค้าบริการ/การลงทุน / กฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า / การระงับข้อพิพาท / ความร่วมมือฯ จะเริ่มหารือในเดือนมิถุนายน 2550