ภาษาที่ใช้ในการเขียนเว็บไซต์
PHP PHP ย่อมาจาก PHP Hypertext Preprocessor แต่เดิมย่อมาจาก Personal Home Page Tools PHP เป็นภาษาตัวแปลสคริปต์ หมายความว่า language engine เรียกใช้สคริปต์ที่เขียนขึ้นโดยไม่มีขั้นตอนกลางในการคอมไพล์ หรือไปเป็นรูปแบบไบนารี เราสามารถเขียนได้จากโปรแกรม Editor ทั่วไป รูปแบบการเขียน PHP เขียนได้ 4 แบบ 1.การเขียนโค้ดในรูปแบบภาษา SGML 2. การเขียนโค้ดเพื่อใช้ร่วมกับภาษา XHTML หรือ XML 3. การเขียนโค้ดในรูปแบบ JavaScript 4. การเขียนโค้ดในรูปแบบ ASP
JAVA Java หรือ Java programming language คือภาษาโปรแกรมเชิงวัตถุ ( OOP : Object-Oriented Programming) โปรแกรมที่เขียนขึ้นถูกสร้างภายในคลาส ดังนั้นคลาสคือที่เก็บเมทอด (Method) หรือพฤติกรรม (Behavior) ซึ่งมีสถานะ (State) และรูปพรรณ (Identity) ประจำพฤติกรรม (Behavior) พัฒนาโดย เจมส์ กอสลิง และวิศวกรคนอื่นๆ ที่บริษัท ซัน ไมโครซิสเต็มส์ ตั้งชื่อตามต้นโอ๊กใกล้ที่ทำงานของ เจมส์ กอสลิง แล้วภายหลังจึงเปลี่ยนไปใช้ชื่อ "จาวา" ซึ่งเป็นชื่อกาแฟแทน จุดเด่นของภาษา Java อยู่ที่ผู้เขียนโปรแกรมสามารถใช้หลักการของ Object-Oriented Programming มาพัฒนาโปรแกรมของตนด้วย Java ได้
โครงสร้าง ภาษา Java (Java Structure) Comment คือข้อความที่แทรกเข้าไปในโปรแกรม แต่ไม่มีผลต่อการทำงานของโปรแกรม Keyword คือคำที่ถูกกำหนดไว้ใช้เองแล้วในภาษา Java ไม่สามารถนำมาใช้ในการตั้งชื่อภายใน โปรแกรมได้ Identifiers คือชื่อที่ผู้เขียนตั้งขึ้นมา เพื่อใช้แทนอะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็น method ,ตัวแปร หรือ class ชื่อที่ถูกต้องควรประกอบด้วย ตัวอักษร ,ตัวเลข ,_,$ และจะต้องขึ้นต้นด้วย ตัวอักษรเท่านั้น Separators คืออักษร หรือ เครื่องหมายที่ใช้แบ่งแยกคำในภาษา -- เครื่องหมาย () ใช้สำหรับ 1. ต่อท้ายชื่อ method ไว้ให้ใส่ parameter 2. ระบุเงื่อนไขของ if ,while,for ,do 3. ระบุชื่อชนิดข้อมูลในการ ทำ casting เครื่องหมาย [ ] ใช้สำหรับ 1. กำหนดตัวแปรแบบ Array 2. กำหนดค่า index ของตัวแปร array
เครื่องหมาย ; ใช้เพื่อปิดประโยค เครื่องหมาย , ใช้สำหรับ แยกชื่อตัวแปรในประโยค เครื่อง หมาย . ใช้สำหรับ 1. แยกชื่อ package,subpackage และชื่อ class 2. ใช้เพื่อเรียกใช้ ตัวแปร หรือ method ของ Object
ASP.net คือ เทคโนโลยีในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับเว็บเพจ พัฒนาโดย บริษัท ไมโครซอฟต์ มีจุดเด่นในการใช้พัฒนาและจัดการแอพพลิเคชั่นบนเว็บเซิร์ฟเวอร์ ะทำงานในลักษณะของโปรแกรมแปลภาษา (Interpreter) ที่ใช้ในการตีความเว็บเพจที่เขียนขึ้นมาโดยใช้ภาษา VBScript, Jscript/JavaScript หรือ Perl ประกอบด้วยส่วนที่เป็นการเขียนแบบ ASP (เริ่มต้นด้วย <% และปิดด้วย %> ซึ่งบราวเซอร์) โครงสร้างเว็บไซต์ ASP.NET -โครงสร้างการเก็บไฟล์ของเว็บไซต์แบบ ASP.NET มี folder ที่มีชื่อเฉพาะถูกกำหนดไว้แล้ว - ไฟล์ assembly (ไฟล์นามสกุล .dll) ต้องถูกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ Bin - เราอาจเก็บไฟล์ฐานข้อมูลแบบ access ไว้ในโฟลเดอร์ App_Data หรือ โฟลเดอร์ที่อยู่ภายนอกเว็บไซต์ก็ได้
HTML คือ ภาษาที่ใช้ในการเขียนเว็บเพจ ย่อมาจากคำว่า Hypertext พัฒนามาจากภาษา SGML (Standard Generalized Markup Language) โดย นาย Tim Berners – Lee เป็นภาษามาตรฐานที่ใช้พัฒนาเอกสารในรูปแบบของเว็บเพจบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การเรียกใช้เอกสารเหล่านี้ทำได้โดยการใช้โปรแกรมเว็บบราวเซอร์ (Web Browser) เช่น Mosaic , Opera , Nescape navigator , Internet Explorer ฯลฯ
โครงสร้างภาษา HTML โครงสร้างของภาษา HTML ประกอบไปด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนหัว (Head) และส่วนเนื้อหา (Body) โดยทั้ง 2 ส่วนนี้ต้องเขียนอยู่ระหว่างแทก <HTML>…</HTML> ดังนี้<html> <head> <title>...</title> </head> <body> ... ... </body> </html> แทกที่เขียนเป็นส่วนหัวนั้นต้องเขียนอยู่ระหว่างแทก <HEAD>…</HEAD> ประกอบด้วยแทก<TITEL>…</TITEL>และ<META> แทกที่เขียนเป็นส่วนเนื้อหาต้องเขียนอยู่ระหว่างแทก <BODY>…</BODY> ประกอบไปด้วยแทกต่าง ๆ มากมาย
จัดทำโดย นางสาว จันทนา นาบำรุง ชั้น ม. 4/1 เลขที่ 5 นางสาว จันทนา นาบำรุง ชั้น ม. 4/1 เลขที่ 5 นางสาว จันทนี นาบำรุง ชั้น ม. 4/1 เลขที่ 6 นางสาว ญาณีนาถ อุทัยอัน ชั้น ม. 4/1 เลขที่ 8