ปัญหาการใช้อนุประโยคเสริมประโยคหลัก

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
John Rawls  John Rawls is the most famous American social contract theorist argued that “Justice is fairness” He Thought human natural have a appropriate.
Advertisements

โดย ครูวาสนา ขีดสร้อย โรงเรียนพิริยาลัยจังหวัดแพร่ อ.เมือง จ.แพร่
Adjective โดย…...
Moment in Life บางขณะของชีวิต.
Are you a student ? Yes, I am or No , I’m not .
ข้อแตกต่างระหว่าง กับ ผู้ชนะ ผู้แพ้.
ครั้งที่ 9 บทที่ 2 25 มิถุนายน 2553
Pronouns Pronouns (คำสรรพนาม) คือ คำที่ใช้แทนที่คำนาม
Exercise 4: Page 41.
Doctor’s Orders. Take up to start doing a particular job or activity. Take up เริ่มต้นดำเนินการ.
Wh-Question.
Question Tag MRS.NITTAYA PROMJAN UDOMDARUNEE SCHOOL.
Object pronouns Aj. Ramita Temtae
Unit 10 As Good As It Gets M ฟังการโฆษณาสินค้า 2. อ่านบทความเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง 3. พูดอภิปรายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ที่มีชื่อติดอันดับโลก.
Indirect Question without Question Word.
Question Tag Question Tag
Will และ Be Going To.
Question Tag Question Tag ตอนที่2 ครูรุจิรา ทับศรีนวล
Kangaroo Joe รายวิชา อ ชั้น ม.2 ครูจินฑนา ร้อยแก้ว โรงเรียนวัง ไกลกังวล ตอน 6 Unit 15.
Tell me about your family
Present Continuous.
 How do we improve the test?  Why do we have to improve the test?
Part of Speech Conjunction.
English for everyday use
ครูรุจิรา ทับศรีนวล.
ว เคมีพื้นฐาน พันธะเคมี
ครูรุจิรา ทับศรีนวล Dates and plans ตอนที่ 4. ครูรุจิรา ทับศรีนวล Dates and plans Dates and plans Dates and plans.
Indirect Question word
Passive Voice By Witchuma Singhaphukam No.40 Soytreemook Boutoom No.41
ครูรุจิรา ทับศรีนวล “Room service”. “Room service”
ครูรุจิรา ทับศรีนวล “Edinburgh” ตอนที่ 1 ครูรุจิรา ทับศรีนวล.
กลุ่ม rraid. What's your name. คุณชื่ออะไร = Miss Bangon Buntanoom How old are you. - คุณอายุเท่าไหร่ = Ages 36 Years What you have finished your course.
ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปึที่ 4 Grammar & Reading ครูรุจิรา ทับศรีนวล.
จัดทำโดย 1. นางสาวจตุพร คงทรัพย์ เลขที่ นางสาวทิพวรรณ คะวิสูญ เลขที่ นางสาวสุภาวดี บทนอก เลขที่ นางสาวสุภลักษณ์ สีสุกอง เลขที่ 36.
Unit 4. Opera HouseAustralia FujiyamaJapan.
Present Continuous Tense
Pronoun คือ คำที่ใช้แทนคำนาม แบ่งออกเป็น
Verb to have (have, has)
By T’ Sumana Hanlamyuang. 1. First conditional or real condition ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1 ใช้เมื่อต้องการ แสดงเงื่อนไขที่ตั้งไว้ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะ.
These examples show that the subject is doing the verb's action.
แบบฝึกหัด Relative clauses
D 2 E 1 S E M N G ม. I G I T Grammar A L 4.0.
D I G I T A L 4.0 Pronoun ENG M.1 Sem. 1 Grammar
Mrs. Rattanaporn Lawsawas Ban Huaybong School, Nakhonsawan
คำเทศนาหัวข้อที่ 3: ประกาศข่าวดี SERMON 3: PREACHING GOOD NEWS
Modals-Ability By T’Sumana Hanlamyuang.
By T’Sumana Hanlamyuang
Part 1: By the Power of the Gospel
1. นี่เป็นสิ่งที่พระเยซูทรงทำ พระองค์ทรงรักษาทุกคน ที่เจ็บป่วยให้หายดี
ชัยเมศร์ อมรพลสมบูรณ์
สุขสันต์วันครบรอบคริสตจักร 19 ปี คริสตจักรเรมากรุงเทพฯ
Adjective Clause (Relative Clause) An adjective clause is a dependent clause that modifies head noun. It describes, identifies, or gives further information.
การประเมินความจำเป็นด้านสุขภาพ Health Needs Assessment - HNA
อย่ากลัวสิ่งใดเลย Fear Nothing. อย่ากลัวสิ่งใดเลย Fear Nothing.
Reported Speech Statements
Direct Speech Vs Indirect Speech
Modals-Certainly (must, can't)
ตอนที่ 3: ท่านเป็นผู้ชอบธรรมได้อย่างไร?
ผลการดำเนินงานโครงการทัศนศึกษาต่างประเทศ (มาเลเซีย-สิงคโปร์)
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.
1 ยอห์น 1:5-7 5 นี่เป็นเรื่องราวซึ่งเราได้ยินจากพระองค์และประกาศแก่ท่าน คือพระเจ้าทรงเป็นความสว่าง ในพระองค์ไม่มีความมืดเลย 6 ถ้าเราอ้างว่ามีสามัคคีธรรมกับพระองค์แต่ยังดำเนินในความมืด.
“ความเชื่อที่นำสู่ชัยชนะ”
ที่มาและหน่วยงานกาชาดต่างๆ
การสร้างประโยคง่ายๆจากคำศัพท์
“สติปัญญาในการเลือกคู่ครอง” “Wisdom in Choosing a Spouse”
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.
แล้วไงเกี่ยวกับความจริง What About Truth?
1. พระเยซูทรงต้องการให้เราเป็น เหมือนพระองค์
บทที่ 2 การวัด.
Help please me. I want to go home
ใบสำเนางานนำเสนอ:

ปัญหาการใช้อนุประโยคเสริมประโยคหลัก ปัญหาการใช้อนุประโยคเสริมประโยคหลัก (Complementation) อย่างถูกต้อง แบ่งออกเป็นปัญหาใหญ่ 7 ปัญหาดังนี้ 11/19/2018

ปัญหาการใช้อนุประโยคเสริมประโยคหลัก 1. ปัญหาการใช้โครงสร้างแบบ The reason … is that …. 2. ปัญหาการใช้ in order to 3. ปัญหาการใช้คำเชื่อม as 4. ปัญหาเกี่ยวกับคำถามที่อยู่ในประโยคบอกเล่า 5. ปัญหาการใช้โครงสร้างประโยคเกี่ยวกับเหตุและผล 6. ปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างซึ่งใช้ gerunds 7. ปัญหาการผันกริยาที่สองในอนุประโยค ที่มีคำกริยามากกว่าหนึ่งคำ แบบฝึกหัดท้ายเรื่อง 11/19/2018

1. ปัญหาการใช้โครงสร้างแบบ The reason … is that …. โครงสร้างอีกอย่างหนึ่งที่มักจะเป็นปัญหาเสมอสำหรับคนไทยทั่ว ๆ ไปในการเขียนภาษาอังกฤษ คือ reason for going The most important thing is that …. major effect, etc. มีบ่อยครั้งที่คนไทยละคำ that และ/หรือ กริยา BE ดังจะเห็นในประโยคต่อไปนี้ (1) The most important thing you will have a chance to know generous people. The most important thing is that you will have a chance to know generous people. (2) The second effect it damages the brain. The second effect is that it damages the brain. (3) The one thing that will happen there will be a lack of food. The one thing that will happen is that there will be a lack of food. (4) The answer I got school is the place that gives you knowledge. The answer I got was that school is the place that gives you knowledge.   11/19/2018 < Main Menu

1. ปัญหาการใช้โครงสร้างแบบ The reason … is that …. (ต่อ) ปัญหานี้คงเกิดเนื่องมาจากว่า โครงสร้างแบบนี้ในภาษาไทยไม่ต้องใช้คำที่ตรงกับ that และ BE โดยตรง ตัวอย่างเช่น ถ้าแปลประโยคที่ (1) เป็นภาษาไทยตรงตัวจะออกมาในลักษณะนี้คือ สิ่ง ที่ สำคัญ ที่สุด (คือ) คุณ จะ มี โอกาส รู้จัก กับ คน ใจดี thing that important most (be) you will have chance know with people generous ที่ใส่คำว่า “คือ” ในวงเล็บก็เพราะว่าในภาษาไทยอาจไม่ต้องใส่ก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพูด ถ้าพูดโดยหยุดระหว่าง “ที่สุด” และ “คุณ” นอกจากนี้จะเห็นได้ชัดว่าไม่ต้องใส่คำที่ตรงกับ that และในภาษาไทยคำที่เทียบกับ BE (คือ) ใส่ก็ได้ ไม่ต้องใส่ก็ได้ แต่ในภาษาอังกฤษถ้ามีประโยค ที่ขึ้นต้นด้วย The reason for (doing something), The most important thing, The major effect, The principal cause, etc. จะต้องมีกริยา BE ตามวลีเหล่านี้ แล้วต้องมีคำ that นำอนุประโยค ซึ่งระบุว่า reason, thing, effect, cause, etc. คืออะไร   11/19/2018 < Main Menu

1. ปัญหาการใช้โครงสร้างแบบ The reason … is that …. (ต่อ) The reason that … (BE) because …. โครงสร้างอีกอย่างหนึ่งที่คล้ายคลึงกับโครงสร้างที่อธิบายข้างต้นนี้ และมักจะเป็นปัญหาเช่นเดียวกัน คือโครงสร้างซึ่งอนุประโยคที่นำด้วย that ตามหลังคำนามทันที คำนามที่ปรากฏบ่อยในรูปแบบนี้ คือ reason, explanation, excuse ปัญหาที่พบบ่อยคือ ผู้เขียนละกริยา BE ดังในประโยคต่อไปนี้ (5) The reason that I took it this year because I didn’t take it last year. The reason that I took it this year was because I didn’t take it last year. (6) The reason that we didn’t get the house right away because it was so hard to find. The reason that we didn’t got the house right away was because it was so hard to find. (7) The excuse that he gave that he didn’t have enough time. The excuse that he gave was that he didn’t have enough time.  11/19/2018 < Main Menu

1. ปัญหาการใช้โครงสร้างแบบ The reason … is that …. (ต่อ) The reason that … (BE) because …. ปัญหานี้คงเกิดเนื่องมาจากว่าโครงสร้างภาษาไทยที่ใช้ในกรณีนี้ไม่มีกริยา BE ดังจะเห็นได้จากการเทียบภาษาไทยตรงตัวกับประโยคที่ (5) เหตุ ที่ เอา ปี นี้ ก็ เพราะ (ว่า) ไม่ ได้ เอา ปี ที่แล้ว reason that take year this adverb-auxiliary because (that) not did take year last ไม่มีคำแปลใน ภาษาอังกฤษ   แต่ในภาษาอังกฤษ โครงสร้างที่ขึ้นต้นด้วยคำนาม reason, excuse, explanation ตามด้วย อนุประโยคที่นำด้วย that จะต้องมีกริยา BE หลังอนุประโยคนั้น จะละไม่ได้เป็นอันขาด 11/19/2018 < Main Menu

2. ปัญหาการใช้ in order to โครงสร้างอีกโครงสร้างหนึ่งที่ใช้บ่อยคือ มีประโยคหลักที่บอกว่าได้กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว ต่อจากนั้นมีอนุประโยคซึ่งบอกเหตุผลที่ได้กระทำสิ่งนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยคือผู้เขียนหาวิธีเชื่อม อนุประโยคกับประโยคหลักที่เหมาะสมไม่ได้ ดังจะเห็นในประโยคต่อไปนี้ (1) I went to the information division for finding out the way to go into town. I went to the information division in order to find out the way to go into town. (2) She drove me to the bank for changing money. She drove me to the bank in order to change the money. (3) Mary took the oral contraceptives regularly for prevent pregnancy. Mary took the oral contraceptives regularly in order to prevent pregnancy. ที่หลายคนใช้คำว่า for ในกรณีเช่นนี้อาจเพราะว่าเขาเทียบกับคำว่า “เพื่อ” ในภาษาไทย ซึ่งในบางกรณี “เพื่อ” ก็แปลว่า for อย่างในประโยค “เขาทำเพื่อแม่” (She did it for her mother.) แต่ในกรณีที่ต้องการที่จะ บอกเหตุผล ถึงแม้ว่าจะใช้ “เพื่อ” ในภาษาไทย จะใช้ for ในภาษาอังกฤษไม่ได้ ต้องใช้ to หรือin order to 11/19/2018 < Main Menu

3. ปัญหาการใช้คำเชื่อม as โครงสร้างแรกคือกรณีที่ใช้กับคำกริยา เช่น define, regard หรือ treat ในกรณีเช่นนี้ผู้เขียนหลายคน มีแนวโน้มที่จะใช้กริยา BE แทนที่จะใช้คำเชื่อม as ดังในประโยคต่อไปนี้ (1) We can define good mental health is an absence of mental illness. We can define good mental health as an absence of mental illness. (2) They all regarded John F. Kennedy is a dynamic leader. They all regarded John F. Kennedy as a dynamic leader (3) Her boss treated Mary is a child. Her boss treated Mary as a child.   ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นเพราะในกรณีเช่นนี้ภาษาไทยจะใช้คำว่า “คือ” หรือ “เป็น” ไม่ใช่ “อย่าง” ดังนั้นเวลาเขียนภาษาอังกฤษ ใช้ BE แทนที่จะใช้ as 11/19/2018 < Main Menu

3. ปัญหาการใช้คำเชื่อม as (ต่อ) โครงสร้างที่สองที่เกิดปัญหาเกี่ยวกับการใช้ as คือ กรณีที่ใช้คำกริยาเช่น perform, act หรือ serve ในกรณีนี้ผู้เขียนอาจละคำว่า as หรือใช้กริยา BE แทน เช่น (4) Women have less time to perform good household workers. Women have less time to perform as good household workers. (5) Santi acted master of ceremonies at the reception. Santi acted as master of ceremonies at the reception. (6) Narumon served is president of the club for two years. Narumon served as president of the club for two years. ในกรณีเช่นนี้ภาษาไทยมักมีความหมายว่า “ทำหน้าที่เป็น” ผู้เขียนจึงไม่ทราบว่าในภาษาอังกฤษควรใช้ คำใดแน่ ในกรณีที่ใช้กับคำกริยาประเภท perform, act หรือ serve มักจะใช้คำว่า as ขยาย   11/19/2018 < Main Menu

4. ปัญหาเกี่ยวกับคำถามที่อยู่ในประโยคบอกเล่า ผู้เขียนหลายคนมีปัญหาในการเรียงคำในประโยคบอกเล่าที่มีคำถาม ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า embedded question ปัญหาใหญ่ที่ผิดคือเอาทั้ง WH question word (who, what, when, where, why, how) และกริยาช่วย ไว้หน้าประธาน ดังในประโยคต่อไปนี้ (1) Old people have to be careful about what are they going to do. Old people have to be careful about what they are going to do. (2) Some people choose carefully what are they going to eat. Some people choose carefully what they are going to eat. (3) I really want to see how are the boys going to do. I really want to see how the boys are going to do. (4) I am concerned about how am I going to make myself survive. I am concerned about how I am going to make myself survive. 11/19/2018 < Main Menu

4. ปัญหาเกี่ยวกับคำถามที่อยู่ในประโยคบอกเล่า (ต่อ) ปัญหาเกิดขึ้นเพราะผู้เขียนเรียงคำถามตามลำดับของประโยคคำถามธรรมดา ซึ่งจะเห็นชัดถ้าแยก embedded question ออกจากประโยค (5) What are they going to do? (6) What are they going to eat? (7) How are the boys going to do? (8) How am I going to make myself survive?   ประโยค (5) – (8) เป็นประโยคคำถามที่ถูกต้องถ้าเป็นประโยคต่างหาก แต่เมื่อเข้ามาเป็นอนุประโยค ในประโยคบอกเล่า ต้องเรียงลำดับใหม่โดยเอาประธานมาใส่ระหว่าง WH question word และ กริยาช่วย 11/19/2018 < Main Menu

5. ปัญหาการใช้โครงสร้างประโยคเกี่ยวกับเหตุและผล โครงสร้างประโยคเกี่ยวกับเหตุและผล (causative construction) ที่เป็นที่นิยมใช้ในภาษาอังกฤษคือ โครงสร้างซึ่งส่วนแรกของประโยคเป็นเหตุและส่วนหลังเป็นผล คำที่ใช้ในโครงสร้างนี้ที่มักจะเกิดปัญหา คือคำ make ปัญหานี้อาจวิเคราะห์ในสองประเด็น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของกลุ่มคำที่ตามหลัง make ประเด็นแรก คือกรณีที่ make ตามด้วยคำนามและคำกริยา ดังในประโยคต่อไปนี้ (1) Drinking a glass of milk every day makes the body grows. Drinking a glass of milk every day makes the body grow. (2) Climbing stairs rapidly makes the heart beats faster. Climbing stairs rapidly makes the heart beat faster. ปัญหาอาจเกิดขึ้นเพราะผู้เขียนเข้าใจผิดว่า คำนามที่ตามหลัง makes (body, heart) เป็นประธาน ของกริยาที่ตามมา (grow, beat) จึงผันคำกริยานั้นเหมือนในประโยคธรรมดา ปัญหาก็อยู่ทีว่าในกรณี เช่นนี้ไม่อาจถือว่า body และ heart เป็นประธานของอนุประโยค แต่ควรถือว่าเป็นกรรมของ ประโยคหลัก เมื่อเป็นเช่นนี้ไม่ควรผันคำกริยาที่ตามมา 11/19/2018 < Main Menu

5. ปัญหาการใช้โครงสร้างประโยคเกี่ยวกับเหตุและผล (ต่อ) ประเด็นที่สอง คือกรณีซึ่ง make ตามด้วยคำสรรพนามและคำนาม ดังในประโยคต่อไปนี้ (3) Alcohol can make our addicts. Alcohol can make us addicts. (4) Associating with bad people made their criminals. Associating with bad people made them criminals. ปัญหาอาจอยู่ที่ว่าผู้เขียนถือว่าคำนาม (addicts, criminals) เป็นกรรมตรงของคำกริยา make แล้วใช้คำ สรรพนามในรูป possessive (our, their) เพื่อที่จะขยายคำนามดังกล่าว แต่ในกรณีเช่นนี้คำสรรพนามเป็น กรรมตรงของ make และด้วยเหตุนี้ ควรจะปรากฏในรูป objective (us, them) แทนที่จะเป็นรูป possessive ส่วนคำนามนั้น (addicts, criminals) ถือว่าเป็น object complements หรืออีกนัยหนึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ขยาย กรรมตรงและทำให้ประโยคสมบูรณ์ โครงสร้างนี้เทียบกับโครงสร้างภาษาไทยที่มีความหมายว่า “ทำให้” แต่ในกรณีที่คำสรรพนามตามด้วย คำนามจะต้องใช้คำ “เป็น” ตามมา เช่น -  (การดื่ม) เหล้าอาจทำให้เราเป็นผู้ติดยาเสพติด - การคบกับคนชั่วทำให้เขา (กลาย) เป็นอาชญากร 11/19/2018 < Main Menu

5. ปัญหาการใช้โครงสร้างประโยคเกี่ยวกับเหตุและผล (ต่อ) ข้อแตกต่างระหว่าง cause และ make ในภาษาอังกฤษอาจใช้กริยา BE หรือ become ใน causative construction เดียวกัน แต่ส่วนมากจะใช้กับคำว่า cause ไม่ใช่ make ดังในประโยค (5) Alcohol can cause us to be (หรือ become) addicts. (6) Associating with bad people caused them to be (หรือ become) criminals.   ควรสังเกตความแตกต่างระหว่างการใช้ make และ cause ในกรณีนี้ถ้าใช้ make แล้ว โดยปกติจะไม่ใช้ be(หรือ become) แต่จะใช้กรรมตรงและ object complement ติดกัน แต่ในกรณีที่ใช้ cause จะวางกรรมตรงและ object complement ติดกันไม่ได้ ต้องใช้คำ Be (หรือ become) คั่น 11/19/2018 < Main Menu

6. ปัญหาโครงสร้างซึ่งใช้ gerunds Gerund เป็นกริยาในรูป –ing ที่ทำหน้าที่เป็นคำนามอยู่ในตำแหน่งต่าง ๆ ของประโยค เช่น ประธาน กรรมตรง กรรมของบุพบท ปัญหานี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อใส่ gerund ในตำแหน่งกรรมตรงหรือกรรมของบุพบท ยิ่งถ้าใช้โครงสร้างของประโยคที่ซับซ้อนมากขึ้น ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะใช้ gerund และบุพบทที่นำหน้าไม่ถูกต้อง ดังในประโยคต่อไปนี้ (1) No one can avoid from born, old, and died. No one can avoid being born, growing old, and dying. (2) Thai people can immigrate to the U.S.A. by many methods -- for example getting married or apply green card. Thai people can immigrate to the U.S.A. by many methods for example by getting married or by applying for a green card. (3) They had the feeling that wanting to live in society and doing something for society. They had the feeling of wanting to live in society and do something for society. 11/19/2018 < Main Menu

6. ปัญหาโครงสร้างซึ่งใช้ gerunds (ต่อ) 1.  ใช้คำบุพบทผิด 2.  ไม่ได้ใช้รูป gerund ในกรณีที่ควรใช้ 3.  โครงสร้างประโยคไม่ parallel เพราะอาจใช้คำหนึ่งในรูป gerund แล้วใช้คำซึ่งอยู่ในระดับเดียวกัน ในอีกรูปหนึ่ง ปัญหาในประโยคที่ ผิด (1) คือ ไม่ควรใช้คำบุพบท from และควรใช้รูป gerund สำหรับคำที่ตามมา กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ รูป gerund ของ born, old และ died ควรเป็นกรรมตรงของคำกริยา avoid แต่ถ้าจะ ทำให้โครงสร้าง parallel จะต้องทำให้องค์ประกอบทั้งสามอย่างเข้ารูป gerund ที่ถูกต้อง ถ้าวิเคราะห์อย่างละเอียดจะเห็นว่า รูป infinitive ของกริยา born คือ to be born ไม่ใช่ to born ส่วนคำว่า old ก็ไม่ใช่กริยาแต่เป็นคุณศัพท์ ถ้าจะให้ parallel กับ to be born จะต้องหากริยานำหน้า old ซึ่งในที่นี้ก็เป็น grow คำว่า die ไม่มีปัญหาในการทำเป็น gerund เพียงแต่เติม ing หลังจากเปลี่ยน ie เป็น y เหมือนกริยาธรรมดา ประโยคที่ถูกต้องจึงเป็นประโยคที่ (1) 11/19/2018 < Main Menu

6. ปัญหาโครงสร้างซึ่งใช้ gerunds (ต่อ) ในประโยคที่ ผิด (2) ควรใส่บุพบท by ไว้หลัง for example แล้ว gerunds ที่ตามมาจะเป็น กรรมของบุพบท ผู้เขียนได้ทำกริยา get เป็นรูป gerund ที่ถูกต้องแล้ว แต่ไม่ได้ใช้กริยา apply ในรูป gerund เหมือนกัน ซึ่งทำให้โครงสร้างใหม่ parallel โครงสร้างที่ถูกต้องควรจะเป็นประโยคที่ (2) ในประโยคที่ ผิด (3) อาจเลือกทำโครงสร้างที่ถูกต้องได้สองวิธี แต่จะต้องเลือกวิธีใดวิธีหนึ่ง ปัญหาเกิดขึ้นเพราะผู้เขียนเอาทั้งสองวิธีนี้มาใช้ปนกัน วิธีที่หนึ่งคือการใช้ gerund ซึ่งดูเหมือนว่าผู้ เขียนต้องการที่จะใช้วิธีนี้ เพราะมีคำกริยาสองคำในรูป gerund (wanting, doing) แต่ถ้าจะใช้ โครงสร้างแบบ gerund จะขึ้นต้นอนุประโยคด้วยคำว่า that ไม่ได้ ต้องใช้คำบุพบท ซึ่งในที่นี้ควรเป็น of แต่ยังมีปัญหาอีกอย่างหนึ่งคือคำว่า doing ไม่ควรใช้รูป gerund เพราะไม่ได้อยู่ในระดับเดียว กับคำว่า wanting (อีกนัยหนึ่งไม่ parallel กับ wanting) แต่อยู่ในระดับเดียวกัน live ดังนั้น ควรใช้ do ไม่ใช่ doing ประโยคที่ถูกต้องจึงเป็นประโยคที่ (3) 11/19/2018 < Main Menu

6. ปัญหาโครงสร้างซึ่งใช้ gerunds (ต่อ) ใช้ that แทนโครงสร้างที่มี gerund นอกจากจะใช้ gerund แล้วยังมีทางเลือกอีกอย่างหนึ่ง คือใช้คำว่า that นำหน้าอนุประโยค (อย่างที่ผู้เขียนได้ทำไว้แล้ว) แต่จะตามด้วย gerund ไม่ได้ ต้องใส่ประธานหลัง that และผันกริยา want ให้สอดคล้องกับประธานนั้น ซึ่งในที่นี้ประธานที่เหมาะสมคือสรรพนาม they นั่นเอง ประโยค ที่เหมาะสมจึงออกมาในลักษณะต่อไปนี้คือ (4) They had the feeling that they wanted to live in society and do something for society. สรุปได้ว่า ในกรณีที่ต้องการใช้ gerund ต้อง 1) พิจารณาว่าเป็นกรรมตรงหรือกรรมของบุพบท ถ้าเป็นกรณีที่สองให้เลือกบุพบทที่เหมาะสม 2) ใช้องค์ประกอบต่าง ๆ ในรูปเดียวกัน ถ้าองค์ประกอบ แรกใช้รูป gerund ให้ใช้รูป gerund กับองค์ประกอบอื่นเช่นกัน 3) ใช้รูป gerund เฉพาะกับคำ ที่อยู่ในระดับเดียวกับ (parallel กับ) gerund คำแรก ถ้าทำตามขั้นตอนนี้คงช่วยให้ใช้ gerunds คล่องขึ้น 11/19/2018

7. ปัญหาการผันกริยาที่สองในอนุประโยคที่มีคำกริยามากกว่าหนึ่งคำ ปัญหาการผันกริยาที่สองในนุประโยคที่มีคำกริยามากกว่าหนึ่งคำ เป็นอีกกรณีหนึ่งซึ่งผู้เขียนใช้รูปต่างกัน สำหรับองค์ประกอบของประโยคที่อยู่ในระดับเดียวกัน แทนที่จะใช้รูปเดียวกัน การทำเช่นนี้ทำให้โครงสร้างไม่ parallel ขอให้ศึกษาประโยคต่อไปนี้ซึ่งผู้เขียนผันกริยาที่พิมพ์ด้วยตัวหนาผิด (1) We had to kneel down and slowly crawled through. We had to kneel down and slowly crawl through. (2) She told me that it was a good opportunity for me to come to America and continued my studies. She told me that it was good opportunity for me to come to America and continue my studies. (3) My greatest ambition this year is getting into college and can get good grades in the first semester. My greatest ambition this year is getting into college and getting good grades in the first semester. 11/19/2018 < Main Menu

7. ปัญหาการผันกริยาที่สองในอนุประโยคที่มีคำกริยามากกว่าหนึ่งคำ ในประโยคที่ ผิด (1) คำว่า crawl อยู่ในระดับเดียวกับ kneel ไม่ใช่ระดับเดียวกับ had ดังนั้นควรปรากฏในรูปเดียวกับ kneel (infinitive) ไม่ใช่รูปเดียวกับ had (อดีตกาล) ประโยคที่ ผิด(2) ก็คล้ายกัน คำว่า continue อยู่ในระดับเดียวกับ come ไม่ใช่ told จึงควรปรากฏในรูป infinitive ไม่ใช่อดีตกาล ส่วนประโยคที่ ผิด(3) get good grades อยู่ในระดับเดียวกับ getting into college ถ้าใช้รูป gerund กับองค์ประกอบแรก ควรใช้รูปเดียวกันกับองค์ประกอบที่สอง 11/19/2018 < Main Menu

Exercises Exercise 10-1 : The reason that … (BE) because …. Exercise 10-2 : การใช้ in order to และคำเชื่อม as Exercise 10-3 : embedded questions Exercise 10-4 : causative constructions Exercise 10-5 : ใช้ that แทนโครงสร้างที่มี gerund Exercise 10-6 : การผันกริยาที่สองในอนุประโยคที่มีคำกริยามากกว่าหนึ่งคำ 11/19/2018 < Main Menu