การส่งเสริมพัฒนาการ เด็กวัยอนุบาล (3-6 ขวบ) หัดด้านสังคม เด็กวัยอนุบาล (3-6 ขวบ) เด็กวัยอนุบาล คือ เด็กที่มีอายุระหว่าง 3-6 ปี เป็นระยะที่เด็กมีการพัฒนาในทุกๆ ด้านเป็นอย่างมาก ฉะนั้นการส่งเสริมด้วยการให้โอกาส หรือกระตุ้นให้เด็กได้เล่นและฝึกทำกิจกรรมที่เหมาะสม จะทำให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์ อันเป็นรากฐานที่ช่วยให้เด็กมีพัฒนาการอย่างสมบูรณ์ ทั้งด้านร่างกาย สติปัญญาอารมณ์ จิตใจและสังคม สมตามความมุ่งหวังของ พ่อแม่ หัดให้เด็กตบมือหรือเคาะจังหวะตามเพลง หัดให้ร้องเพลงเด็กง่ายๆ และขยับตัวเต้นตาม จังหวะเพลง หัดให้ทักทายคนที่คุ้นเคย โดยไม่ต้องเตือน หัดให้พูด “ ขอบคุณ” และ “ขอโทษ” ตาม โอกาส โดยไม่ต้องเตือน หัดให้เล่นตามกฎเกณฑ์ เช่น มอญซ่อนผ้า วิ่งหยิบของ หัดให้เล่นเกมที่ใช้คำพูดเป็นหลัก เช่น ทาย ปัญหาอะไรเอ่ย หัดให้ท่องโคลงกลอนง่ายๆ และมีประโยชน์ เช่น เด็กเอ๋ยเด็กน้อย มีสลึงพึงบรรจบให้ ครบบาท หัดให้ขออนุญาตเมื่อต้องการใช้หรือเล่นสิ่งของ ที่มิใช่ของตน หัดให้ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านง่ายๆ เช่น เก็บผ้า เช็ดน้ำที่หก ล้างชาม เก็บของทิ้งในถังขยะ สิ่งที่ช่วยในการ ส่งเสริมพัฒนาการ 1. บรรยากาศในบ้านหรือโรงเรียนที่เป็นสุขเต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจและให้โอกาสแก่เด็กในการเรียนรู้และแสดงออก 2. ความสนใจและเอาใจใส่ รู้ว่าเด็กกำลังทำอะไรอยู่และให้กำลังใจ เมื่อเด็กทำได้ ด้วยการแสดงสีหน้าชื่นชม กล่าวชมเป็นคำพูด ตบมือ กอดรัด อุ้มชูเป็นส่วนช่วยให้เด็กเรียนรู้ว่า สิ่งที่เขาทำไปนั้นถูกต้อง ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจในตนเองและเกิดกำลังใจที่จะทำต่อไป 3. พ่อแม่ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีในการทำกิจวัตรประจำวัน เพราะเด็กวัยนี้ชอบเลียนแบบการกระทำของผู้ใหญ่มาก ด้วยความปรารถนาให้ท่านมีสุขภาพดี จาก กลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ โทร.(055) 411064
ฝึกความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อ หัดให้ช่วยตัวเอง ส่งเสริมปัญญาและภาษา หัดให้เด็กล้างมือ ล้างเท้า ด้วยตนเอง หัดให้เด็ก ล้างหน้าและอาบน้ำ ทำความสะอาด ตนเอง หัดให้เด็กใส่เสื้อ แต่งตัวเอง หัดให้เด็กติดกระดุม ถอดกระดุม รูดซิบเสื้อ และกางเกงเอง หัดให้เด็กรู้จักแปรงฟันเอง ให้เป็นเวลาจนเป็นนิสัย หัดให้กินข้าวเอง และรู้จักช่วยเหลือตนเองที่โต๊ะ อาหาร หัดให้เช็ดน้ำมูกเอง หัดไม่ปัสสาวะที่รดที่นอนตอนกลางคืน โดยการ : - ให้เด็กปัสสาวะก่อนนอน - ไม่ให้ดื่มน้ำมากก่อนนอน - ปลุกเด็กให้ลุกมาเข้าห้องน้ำก่อน ผู้ใหญ่เข้านอน - ชมเชยถ้าไม่ปัสสาวะที่นอน แต่ บังเอิญปัสสาวะ ไม่ดุว่าหรือทำโทษ สอนให้รู้จักส่วนต่างๆ ของร่างกายชี้ได้ถูกต้อง และรู้ว่าทำหน้าที่อะไร 10 อย่าง เช่น ตา หู สอนให้รู้จักสีและบอกชื่อได้ถูกต้องอย่างน้อย 4 สี สอนให้รู้จักนับเลข 1-10 และหยิบของตามจำนวน ที่บอกได้ สอนให้รู้จักรูปเรขาคณิต สอนให้รู้จักความแตกต่างของสิ่งของเล็ก-ใหญ่ สั้น- ยาว สอนให้รู้จักบอกชื่อจริงและนามสกุลของตนเอง สอนให้รู้จักญาติพี่น้องและคนรอบข้าง เช่น ปู่ ย่า ตำรวจ ครู แม่ค้า สอนให้รู้จักคำตรงข้าม เช่น ผู้หญิง-ผู้ชาย มืด-สว่าง ร้อน-เย็น สอนให้รู้จักคู่ของสิ่งของที่เกี่ยวข้องกัน เช่น จานกับ ช้อน หวีกับกระจก สอนให้รู้จักฟังนิทานและเล่าเรื่องได้ หัดให้เดินก้าวสลับเท้า ขึ้นและลงบันได หัดให้กระโดดไปข้างหน้าและถอยหลัง หัดให้เตะลูกบอล หัดให้เดินทรงตัวบนแผ่นไม้แผ่นเดียว ไปข้าง หน้าและถอยหลัง หัดให้หมุนสิ่งของที่เป็นเกลียว หัดให้ใช้นิ้วหัวแม่มือแตะนิ้วต่างๆ ของมือเดียวกัน หัดให้ปั้นดินเหนียวหรือดินน้ำมันเป็นรูปต่างๆ หัดให้ตัดกระดาษ โดยใช้กรรไกรเล็กๆ หัวป้าน สำหรับเด็ก หัดให้ระบายสีรูปให้อยู่ในขอบเขต หัดให้เขียนชื่อตนเอง โดยใช้กระดาษที่มีเส้น หัดให้วาดรูปง่ายๆ เช่น คน บ้าน ต้นไม้ อย่าง อิสระ เอกสารอ้างอิง ฝ่ายสุขภาพจิต กองส่งเสริมสุขภาพ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร