ของกรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต เรื่องแผนบริหารความต่อเนื่อง (Business Continuity Plan - BCP) ของกรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร 11 มิถุนายน 2556 Your slide title – Month 2013
ระเบียบวาระการประชุม ณ ห้องประชุมกรมส่งเสริมการเกษตร ชั้น 2 คณะทำงานการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต วันที่ 11 มิถุนายน 2556 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมกรมส่งเสริมการเกษตร ชั้น 2 ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ 1.1 หนังสือสำนักงาน ก.พ.ร. ด่วนที่สุด ที่ นร 1205.3/801 ลงวันที่ 11 เมษายน 2556 เรื่องการดำเนินการเตรียมความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต 1.2 คำสั่งกรมส่งเสริมการเกษตร ที่ 411/2556 ลงวันที่ 5 มิถุนายน 2556 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องเพื่อทราบ 2.1 ผลการตรวจรับรองคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐระดับพื้นฐาน (Certified FL) ประจำปี พ.ศ. 2556 ของกรมส่งเสริมเกษตร 2.2 แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย (พ.ศ.2556 – พ.ศ. 2561) ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องเพื่อพิจารณา 3.1 ร่างแผนบริหารความต่อเนื่อง (Business Continuity Plan - BCP) ของกรมส่งเสริมการเกษตร ระเบียบวาระที่ 4 เรื่องอื่นๆ (ถ้ามี) 2.3 แนวทางการจัดทำแผนบริหารความต่อเนื่อง (Business Continuity Plan )
ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ 1.1 หนังสือสำนักงาน ก.พ.ร. ด่วนที่สุด ที่ นร 1205.3/801 ลงวันที่ 11 เมษายน 2556 เรื่องการดำเนินการเตรียมความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2555 เห็นชอบกับแนวทางและมาตรการที่กำหนดให้หน่วยงานของรัฐทั้งระดับกรม จังหวัด สถาบันอุดมศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การมหาชน และรัฐวิสาหกิจ ดำเนินการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤตขององค์การ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานในภารกิจหลักหรืองานบริการที่สำคัญได้อย่างต่อเนื่อง แม้เกิดสภาวะวิกฤตตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และมอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.ร. เป็นหน่วยงานหลักในการสนับสนุนการดำเนินการให้แก่หน่วยงานของรัฐ จัดทำแผนบริหารความต่อเนื่องขององค์ ภายในเดือน มิ.ย. 2556 นำแผนบริหารความต่อเนื่องขึ้นบนเว็บไซต์ ภายในเดือน มิ.ย. 2556 ทดสอบ ซักซ้อม และปรับปรุงแผน ภายในเดือน ส.ค. 2556 โดยสำนักงาน ก.พ.ร. จะติดตามผลการดำเนินการบริหารความพร้อม ต่อสภาวะวิกฤตของหน่วยงานในเดือนกันยายน 2556 เพื่อจัดทำรายงานเสนอ ต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
1.2 คำสั่งกรมส่งเสริมการเกษตร ที่ 411/2556 ลงวันที่ 5 มิถุนายน 2556 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต 1.รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ฝ่ายบริหาร ประธานคณะทำงาน 2.ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร คณะทำงาน 3.ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตร คณะทำงาน 4.ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี คณะทำงาน 5.ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาเกษตรกร คณะทำงาน 6.ผู้อำนวยการศูนย์สารสนเทศ คณะทำงาน 7.ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนางานส่งเสริมการเกษตร คณะทำงาน 8.ผู้อำนวยการกองแผนงาน คณะทำงาน 9.ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ คณะทำงาน 10.ผู้อำนวยการกองคลัง คณะทำงาน 11.ผู้อำนวยการกองพัฒนาการเกษตรพื้นที่เฉพาะ คณะทำงาน 12.เลขานุการกรม คณะทำงาน 13.ผู้อำนวยการกลุ่มตรวจสอบภายใน คณะทำงาน 14.ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน คณะทำงาน 15.ผู้อำนวยการกองส่งเสริมวิศวกรรมเกษตร คณะทำงาน 16.ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร คณะทำงานและเลขานุการ 17.นางสาวรัตนาพร เลิศชู กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร คณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ 18.นายสุรศักดิ์ คำแท้ สำนักงานเลขานุการกรม คณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ
อำนาจหน้าที่คณะทำงานการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต ศึกษาทำความเข้าใจองค์การ พร้อมทั้งประเมินความเสี่ยง ที่คาดว่าอาจกระทบต่อการปฏิบัติภารกิจหลักหรืองานบริการที่สำคัญของกรมส่งเสริมการเกษตรในทุกๆ ด้าน ๒. กำหนดแนวทาง กลยุทธ์ในการสร้างความต่อเนื่อง และกำกับดูแลการจัดทำแผนบริหารความต่อเนื่องให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ที่กำหนดไว้ เพื่อให้กรมส่งเสริมการเกษตรสามารถดำเนินงานให้บริการกับผู้รับบริการ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในช่วงเกิดสภาวะวิกฤตหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ในระยะเวลาอันสั้น 3. ติดตาม ประเมินผล และให้ข้อเสนอแนะ เพื่อปรับปรุงและทบทวนแผนบริหารความต่อเนื่อง 4. สื่อสาร ทำความเข้าใจ ให้บุคลากรภายในหน่วยงาน มีความรู้ ความเข้าใจ เกิดความตระหนัก และมีความพร้อมเมื่อเกิดสภาวะวิกฤต โดยบุคลากรสามารถดำเนินการให้บริการในยามที่เกิดสภาวะวิกฤตหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ได้ 5. แต่งตั้งคณะทำงานย่อยเพิ่มเติมตามความเหมาะสม 6. ปฏิบัติงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามที่กรมส่งเสริมการเกษตรมอบหมาย
ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องเพื่อทราบ 2.1 ผลการตรวจรับรองคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐระดับพื้นฐาน (Certified FL) ประจำปี พ.ศ. 2556 ของกรมส่งเสริมเกษตร กรมเข้ารับการตรวจรับรองคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ระดับพื้นฐานจากสำนักงาน ก.พ.ร. เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2556 ก.พ.ร. แจ้ง กรมผ่านเกณฑ์การตรวจรับรองมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 97.06 มีข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาปรับปรุงจากผู้ตรวจประเมิน 2 ประเด็น ควรมีกระบวนการในการประเมิน และปรับปรุงวิธีการรับฟัง และเรียนรู้ความต้องการ ของผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ควรมีกระบวนการทบทวนแผนสำรองฉุกเฉิน อย่างสม่ำเสมอ คณะทำงานการรับฟังความคิดเห็น และข้อร้องเรียนดำเนินการ คณะทำงานการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤตดำเนินการ
2.2 แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย (พ.ศ.2556 – พ.ศ. 2561)
ส่งเสริมให้บุคลากรของส่วนราชการมีความเข้าใจที่ตรงกันเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมรับมือต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับหน่วยงานที่รับผิดชอบวิธีการและขั้นตอนในการให้ความช่วยเหลือ
สภาวะวิกฤต มีอะไรบ้าง 2.3 แนวทางการจัดทำแผนบริหารความต่อเนื่อง (Business Continuity Plan ) สภาวะวิกฤต มีอะไรบ้าง ไฟไหม้ น้ำท่วม ชุมนุมประท้วง / จลาจล ดินถล่ม แผ่นดินไหว ก่อการร้าย องค์กร / หน่วยงาน ไฟฟ้าดับในวงกว้าง ไฟป่า โรคระบาด พายุใต้ฝุ่น สึนามิ ระเบิด
ความเป็นมาการบริหารความต่อเนื่อง จากการที่ประเทศไทยเผชิญกับสถานการณ์อุทกภัยรุนแรง ในช่วงระหว่างเดือนกันยายน - เดือนธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา ได้พบว่าระบบและกลไกของรัฐหลายประการมีปัญหาโดยไม่สามารถดำเนินภารกิจในสภาวะวิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นไปโดยขาดระบบการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวเป็นบทเรียนอันสำคัญที่ทุกส่วนราชการต้องนำมาปรับกระบวนการทำงานใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการบริการประชาชน เพื่อให้มั่นใจว่าภารกิจหลักของราชการหรืองานบริการประชาชนที่สำคัญ สามารถดำเนินงานหรือให้บริการได้อย่างต่อเนื่องไม่สะดุดหยุดลงแม้ว่าจะประสบกับวิกฤตการณ์หรือภัยพิบัติต่าง ๆ Your slide title – Month 2013
วัตถุประสงค์การบริหารความต่อเนื่อง - เพื่อใช้เป็นแนวทางในการบริหารความต่อเนื่องของการ ปฏิบัติงานในสภาวะวิกฤต - เพื่อให้หน่วยงานมีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าในการรับมือ กับสภาวะวิกฤตหรือเหตุการณ์ฉุกเฉิน ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น - เพื่อลดผลกระทบจากการหยุดชะงักในการดำเนินงาน เช่น ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ การเงิน การให้บริการ สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน - เพื่อบรรเทาความเสียหายให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ Your slide title – Month 2013
มติ ค.ร.ม. เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2555 เห็นชอบกรอบแนวทางการดำเนินการเตรียมความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต หน่วงานที่ต้องดำเนินการ ส่วนราชการ สถาบันอุดมศึกษา จังหวัด อปท. องค์การมหาชน รัฐวิสาหกิจ จัดประชุมให้ความรู้เรื่อง “การบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต” คณะทำงานฯของส่วนราชการ จัดทำแผนบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต 6 ขั้นตอน หน่วยงานดำเนินตามแผนบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต รวมถึงติดตามประเมินผล ทบทวน ปรับปรุง สื่อสารสร้างความเข้าใจ ให้ครอบคลุมทั้งกระบวนการตามพันธกิจ และผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่างต่อเนื่อง หน่วยงานปรับปรุงแผนบริหารความต่อเนืองให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ 1. สร้างความรู้-เข้าใจ ให้ส่วนราชการ 2. การเตรียมความพร้อม ให้ส่วนราชการ 4 ขั้นตอน 3. ซักซ้อมแผนและนำไปปฏิบัติจริง 4. ส่งเสริมให้มีการบริหาร จัดการอย่างยั่งยืน โครงการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต โครงการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต
แนวทางการจัดทำการบริหารความพร้อม ต่อสภาวะวิกฤตตามมติครม. Your slide title – Month 2013
แนวทางการดำเนินการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต 6 ขั้นตอน 1. การบริหารโครงการจัดการความต่อเนื่อง (BCM Programme Management) เป็นขั้นตอนแรกของการบริหารความต่อเนื่อง ซึ่งเป็นขั้นตอนการจัดทำกรอบนโยบายและ โครงสร้างการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต กำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงลงมาถึงเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ โดยการวิเคราะห์โครงสร้างฯ อำนาจหน้าที่ของหน่วยงาน อำนาจ หน้าที่ของส่วนราชการ โครงสร้างการของส่วนราชการ ผู้บริหาร หัวหน้าทีมบริหารความต่อเนื่อง(กระบวนการสำคัญ) กระบวนการ/งาน ของส่วนราชการ โครงการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต
แนวทางการดำเนินการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต 6 ขั้นตอน 2. การศึกษาและทำความเข้าใจองค์กร (Understanding the Organization) วิเคราะห์ความเสี่ยง/ ภัยคุกคาม (Risk Assessment) จากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อองค์กร ชุมนุมประท้วง / จลาจล น้ำท่วม ไฟไหม้ ก่อการร้าย สภาวะที่จะส่งผลผลกระทบ ต่อส่วนราชการ ไฟฟ้าดับในวงกว้าง แผ่นดินไหว ระเบิด โรคระบาด พายุใต้ฝุ่น โครงการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต
แนวทางการดำเนินการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต 6 ขั้นตอน 2. การศึกษาและทำความเข้าใจองค์กร (Understanding the Organization) วิเคราะห์ความเสี่ยง/ ภัยคุกคาม (Risk Assessment) จากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรที่ใช้ในการปฏิบัติงานใน 5 ด้าน ดังนี้ ผลกระทบด้านอาคาร/สถานที่ปฏิบัติงานหลัก: เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สถานที่ปฏิบัติงานหลักของหน่วยงาน ได้รับความเสียหายและส่งผลให้บุคลากรไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติงานได้ในช่วงระยะแรก หรือระยะกลาง หรือระยะยาว ผลกระทบด้านวัสดุอุปกรณ์ที่สำคัญ/การจัดหาจัดส่งวัสดุอุปกรณ์ที่สำคัญ: เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ไม่สามารถใช้งานวัสดุอุปกรณ์ที่สำคัญ หรือไม่สามารถจัดหาจัดส่งวัสดุอุปกรณ์ที่สำคัญเพื่อนำไปใช้ในการปฏิบัติงานได้ ผลกระทบด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและข้อมูลที่สำคัญ: เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ไม่สามารถใช้ระบบงานเทคโนโลยี หรือระบบสารสนเทศ หรือเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญในการปฏิบัติงานได้ ผลกระทบด้านบุคลากรหลัก: เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บุคลากรหลักไม่สามารถมาปฏิบัติงานได้ ผลกระทบด้านคู่ค้า/ผู้ให้บริการ/ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ: เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คู่ค้า/ผู้ให้บริการแก่หน่วยงาน/ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียไม่สามารถที่จะให้บริการหรือส่งมอบงาน เพื่อให้หน่วยงานใช้ในการปฏิบัติงานได้ โครงการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต
ตัวอย่างการวิเคราะห์กระบวนการสร้างคุณค่าของหน่วยงาน งาน/กิจกรรม ศสท. / สสจ. ดำเนินการเกี่ยวกับกระบวนการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ (ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง) งานขึ้นทะเบียน งานออกใบรับรอง กผง. / ศสท. ดำเนินการเกี่ยวกับกระบวนการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืช งานรับแจ้งข้อมูลพื้นที่ความเสียหายด้านพืชของเกษตรกรผ่านระบบ online ศสท. ดำเนินการเกี่ยวกับกระบวนการขึ้นทะเบียนเกษตร งานขึ้นทะเบียนเกษตรผู้ปลูกพืชรายแปลง Your slide title – Month 2013
แนวทางการดำเนินการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต 6 ขั้นตอน 2. การศึกษาและทำความเข้าใจองค์กร (Understanding the Organization) การวิเคราะห์ความเสี่ยง/ ภัยคุกคาม (Risk Assessment) ตัวอย่างการวิเคราะห์ผลกระทบจากภัยต่อทรัพยากร 5 ด้าน กระบวนงาน ความเสี่ยงและภัยคุกคาม ผลกระทบ ด้านอาคาร/สถานที่ปฏิบัติงานหลัก ด้านวัสดุอุปกรณ์ที่สำคัญ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและข้อมูลที่สำคัญ ด้านบุคลากรหลัก ด้านคู่ค้า/ผู้ให้บริการ/ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ที่สำคัญ 1.ขึ้นทะเบียน ทพศ. อุทกภัย √ อัคคีภัย - ไฟดับในวงกว้าง โครงการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต
การวิเคราะห์ผลกระทบทางธุรกิจ (Business Impact Analysis – BIA) Your slide title – Month 2013
ระยะเวลาเป้าหมายในการฟื้นคืนสภาพ กระบวนการ/งาน ระดับผลกระทบ ระยะเวลาเป้าหมายในการฟื้นคืนสภาพ ๑ วัน ๑-๗วัน ๑ สัปดาห์ ๒ สัปดาห์ ๑ เดือน ดำเนินการเกี่ยวกับกระบวนการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ (ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง) สูง ดำเนินการเกี่ยวกับกระบวนการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืช ดำเนินการเกี่ยวกับกระบวนการขึ้นทะเบียนเกษตร ปานกลาง Your slide title – Month 2013
แนวทางการดำเนินการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต 6 ขั้นตอน 3. การกำหนดแนวทาง/กลยุทธ์ในการสร้างความต่อเนื่อง ของการดำเนินงาน (Determining BCM Strategy) ตัวอย่างแนวทาง/กลยุทธ์ในการเตรียมความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต แนวทาง/กลยุทธ์ในการเตรียมความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต ด้านอาคาร/สถานที่ปฏิบัติงานหลัก ด้านวัสดุอุปกรณ์ ที่สำคัญ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและข้อมูล ด้านบุคลากรหลัก ด้านคู่ค้า/ผู้ให้บริการ/ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ สรรหาและเตรียมการ อาคาร/สถานที่ปฏิบัติงานสำรอง สรรหาและเตรียมการ อาคาร/ สถานที่ปฏิบัติงานสำรอง กับภาคเอกชน อาทิ โรงแรม มูลนิธิ กำหนดแนวทางให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานที่บ้านได้ จัดเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์สำรอง ทำข้อตกลงกับหน่วยงานราชการหรือภาคเอกชน เพื่อขอยืมเครื่องมือและอุปกรณ์ ดำเนินจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ ผ่านกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างพิเศษ ประสานงานกับหน่วยงานเทคโนโลยี เพื่อจัดเตรียมและให้มีระบบงานเทคโนโลยี หรือระบบสารสนเทศสำรอง ปฏิบัติงานโดยไม่ใช้ระบบงานเทคโนโลยี (Manual) ไปก่อน แล้วจึงป้อนข้อมูลเข้าในระบบ เมื่อกลับคืนสู่สภาวะปกติ กำหนดให้มีบุคลากรหลักและบุคลากรสำรอง ทำงานทดแทนกันได้ ในสภาวะวิกฤต กำหนดแนวทางและกลุ่มบุคลากรที่สามารถขอให้ช่วยปฏิบัติงานชั่วคราว จากหน่วยงานราชการอื่น ๆ ในสังกัด หรือส่วนกลาง กำหนดให้มีคู่ค้า/ผู้ให้บริการสำรอง/ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อเรียกใช้บริการได้ในสภาวะวิกฤต พิจารณากระจายความเสี่ยง โดยมีคู่ค้า/ ผู้ให้บริการ มากกว่า 1 ราย สำหรับให้บริการแก่หน่วยงาน โครงการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต
แนวทางการดำเนินการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต 6 ขั้นตอน 4. การพัฒนาและเตรียมการตอบสนองต่อเหตุการณ์ในภาวะฉุกเฉิน (Developing and Implementing BCM Repose) เป็นขั้นตอนการจัดทำแผนบริหารความต่อเนื่อง (Business Continuity Plan - BCP) เพื่อเตรียมความพร้อมให้หน่วยงานสามารถตอบสนองต่อสภาวะฉุกเฉินที่ส่งผลให้การปฏิบัติงานของหน่วยงานต้องหยุดชะงัก หรือไม่สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวทางในการดำเนินการดังนี้ กำหนดโครงสร้างและทีมบริหารความต่อเนื่อง (จัดทำและบริหารแผนความต่อเนื่อง) กำหนดกระบวนการแจ้งเหตุฉุกเฉิน (Call Tree) กำหนดแนวทางการบริหารความต่อเนื่อง ภายใน 24 ชั่วโมง ภายใน 7 วัน ระยะเวลาเกิน 7 วัน รวบรวมข้อมูลและรายละเอียดไว้ในแผนบริหารความต่อเนื่อง โครงการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต
แนวทางการดำเนินการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต 6 ขั้นตอน 4.1 กำหนดโครงสร้างและทีมบริหารความต่อเนื่อง หัวหน้าทีมบริหารความต่อเนือง (หัวหน้าสำนักงาน...) ผู้ประสานงานทีมบริหารความต่อเนือง ทีมบริหารความต่อเนื่อง (ผอกอง/สำนัก) หัวหน้าทีมบริหารความต่อเนื่อง – ผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงาน ทีมบริหารความต่อเนื่อง – ผอ.กอง/สำนัก ผู้ประสานงานทีมบริหารความต่อเนื่อง - หน้าที่ในการติดต่อและประสานงานภายในหน่วยงานและให้การสนับสนุน โครงการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต
แนวทางการดำเนินการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต 6 ขั้นตอน 4.2 กำหนดโครงสร้าง Call Tree กระบวนการ Call Tree คือ กระบวนการแจ้งเหตุฉุกเฉินให้กับสมาชิกในคณะบริหารความต่อเนื่องและทีมงานบริหารความต่อเนื่องตามรายชื่อที่ปรากฏในตารางข้อมูลรายชื่อ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สามารถบริหารจัดการในการติดต่อบุคลากรของหน่วยงาน ภายหลังจากมีการประกาศสภาวะวิกฤต โครงการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต
แนวทางการดำเนินการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต 6 ขั้นตอน 4.3 กำหนด แนวทางการบริหารความต่อเนื่อง การกำหนดแนวทางการบริหารความต่อเนื่องในช่วงเกิดเหตุในระยะสั้น และ การกลับคืนในระยะกลาง การบริหารความต่อเนื่องและกอบกู้กระบวนการ แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนตามระยะเวลา ดังนี้ 4.3.1 การตอบสนองต่อเหตุการณ์ทันที ภายใน 24 ชั่วโมง 4.3.2 การตอบสนองต่อเหตุการณ์ในระยะแรก ภายใน 7 วัน 4.3.3 การตอบสนองต่อเหตุการณ์และกู้คือกระบวนการปฏิบัติงานในระยะเวลาเกิน 7 วัน โครงการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต
แนวทางการดำเนินการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต 6 ขั้นตอน 4.3.1 การตอบสนองต่อเหตุการณ์ทันที ภายใน 24 ชั่วโมง ติดตาม สอบถาม และประเมินเหตุฉุกเฉิน/วิกฤติ กับหน่วยงานที่รับผิดชอบในการบริหารจัดการตามแผนการจัดการอุบัติการณ์ (Incident Management Plan) ขององค์กร เพื่อประเมินความจำเป็นในการประกาศใช้แผนบริหารความต่อเนื่องของหน่วยงาน แจ้งเหตุฉุกเฉิน/วิกฤติ ตามกระบวนการ Call Tree ให้กับบุคลากรหลักและคณะบริหารความต่อเนื่องของหน่วยงาน เพื่อประชุม รับทราบ และประเมินความเสียหายและผลกระทบต่อการดำเนินงานและการให้บริการ และทรัพยากรสำคัญที่ต้องใช้ในการบริหารความต่อเนื่อง รวมทั้งการสรุปจำนวนและรายชื่อบุคลากรในหน่วยงานที่ได้รับบาดเจ็บ/เสียชีวิต พิจารณากระบวนงาน/งานที่มีความเร่งด่วน และส่งผลกระทบอย่างสูงต่อการดำเนินงานหรือให้บริการของหน่วยงาน เพื่อให้มีการจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้ในการบริหารความต่อเนื่องและทรัพยากรที่ได้รับความเสียหายจนไม่สามารถใช้ในการปฏิบัติงานได้ รายงานความเสียหายและความคืบหน้าให้คณะบริหารความต่อเนื่องขององค์กรและส่วนกลางให้ทราบและขออนุมัติดำเนินการในขั้นตอนต่อไป แจ้งเหตุฉุกเฉิน/วิกฤติ ตามกระบวนการ Call Tree ให้กับบุคลากรของหน่วยงาน เพื่อรับทราบขั้นตอนในการปฏิบัติต่อไป โครงการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต
แนวทางการดำเนินการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต 6 ขั้นตอน 4.3.2 การตอบสนองต่อเหตุการณ์ในระยะแรก ภายใน 7 วัน ติดตามสถานะภาพการกอบกู้คืนมาของทรัพยากรที่ได้รับผลกระทบ และประเมินความจำเป็นและระยะเวลาที่ต้องใช้ในการกอบกู้คืน ติดตามการจัดหาทรัพยากรที่ได้รับผลกระทบและจำเป็นต้องใช้ในการบริหารความต่อเนื่อง ได้แก่ สถานที่ปฏิบัติงานสำรอง วัสดุอุปกรณ์ที่สำคัญ เทคโนโลยีสารสนเทศและข้อมูลที่สำคัญ บุคลากรหลัก และคู่ค้า/ผู้ให้บริการที่สำคัญ/ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กำหนดให้ฝ่ายงาน/ส่วนงาน เจ้าของกระบวนการสำคัญที่ได้รับผลกระทบกลับมาดำเนินงานและให้บริการ (ชั่วคราว ตามแนวทางการบริหารความต่อเนื่อง) รายงานความคืบหน้าให้คณะบริหารจัดการวิกฤตขององค์กรและส่วนกลาง ตามที่ได้กำหนดไว้ โครงการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต
แนวทางการดำเนินการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต 6 ขั้นตอน 4.3.3 การตอบสนองต่อเหตุการณ์และกู้คือกระบวนการปฏิบัติงานในระยะเวลาเกิน 7 วัน ติดตามสถานะภาพการกู้คืนมาของทรัพยากรที่ได้รับผลกระทบ และประเมินระยะเวลาที่ต้องใช้ในการกลับมาดำเนินงานหรือให้บริการได้ตามปกติ ทรัพยากรที่ได้รับผลกระทบและเสียหายจนไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้อีก เป็นหน้าที่ของคณะบริหารความต่อเนื่องของหน่วยงานที่ต้องพิจารณาและจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นมาใช้เพื่อดำเนินงานและให้บริการได้ตามปกติทั้ง 5 ด้าน ดังนี้ ด้านอาคาร/สถานที่ปฏิบัติงาน - ซ่อมแซมและ/หรือก่อสร้างอาคารขึ้นใหม่ ด้านวัสดุอุปกรณ์ที่สำคัญ - ซ่อมแซมหรือจัดซื้อจัดจ้างวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือที่ได้รับความเสียหาย ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและข้อมูลที่สำคัญ - ประสานงานกับหน่วยงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการกู้คืนข้อมูลสารสนเทศ ด้านบุคลากรหลัก - สำรวจบุคลากรที่ได้รับผลกระทบและไม่สามารถกลับมาปฏิบัติงาน เพื่อสรรหาบุคลากรทดแทนชั่วคราว คู่ค้า/ผู้ให้บริการที่สำคัญ/ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย - สรรหาคู่ค้า/ผู้ให้บริการรายใหม่ สำหรับสินค้าและ/หรือบริการสำคัญที่ได้รับผลกระทบ ทดแทนคู่ค้า/ผู้ให้บริการที่ไม่สามารถกลับมาดำเนินงานได้อีก รายงานความคืบหน้าให้คณะบริหารจัดการวิกฤตขององค์กรและส่วนกลาง โครงการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต
แนวทางการดำเนินการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต 6 ขั้นตอน 5. การทดสอบ ปรับปรุง และทบทวนแผน (Exercising Maintaining and Reviewing) เพื่อให้แน่ใจได้ว่าการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต (BCM) ที่ได้จัดทำขึ้นสามารถใช้ได้จริง รวมทั้งเพื่อเตรียมความพร้อม ตลอดจนตรวจสอบความสามารถของบุคลากร และประสิทธิภาพของแผนในการตอบสนองต่อวิกฤติการณ์ โดยรูปแบบการทดสอบ เช่น Call Tree คือการซ้อมการแจ้งเหตุฉุกเฉินให้กับสมาชิกทีมงานที่เกี่ยวข้องตามผังรายชื่อทางโทรศัพท์ Your slide title – Month 2013
แนวทางการดำเนินการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต 6 ขั้นตอน 6. การปลูกฝัง BCM ให้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร (Embedding BCM in the Organization’s Culture) การทำให้ BCM ผสมกลมกลืนเข้าจนเป็นวัฒนธรรมองค์กร โดยเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและจิตวิทยาที่จะทำให้บุคลากรทุกคนได้ ซึมทราบและเข้าใจถึงความสำคัญของ BCM ตลอดจนบทบาทหน้าที่ที่ทุกคนพึงมีเพื่อให้การปฏิบัติภารกิจหรือการให้บริการประชาชนที่สำคัญสามารถดำเนินต่อไปได้ในยามที่เกิดเหตุวิกฤต Your slide title – Month 2013
ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องเพื่อพิจารณา 3.1 ร่างแผนบริหารความต่อเนื่อง (Business Continuity Plan - BCP) ของกรมส่งเสริมการเกษตร 1. ให้กอง/สำนักจัดตั้งคณะทำงานการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤตภายในหน่วยงาน 2. ให้กอง/สำนักการจัดทำรายงานการวิเคราะห์และส่ง กพร. ตามแบบฟอร์ม 1-15 ภายในวันที่ 24 มิถุนายน 2556 3. กพร. รวบรวมข้อมูลและจัดทำแผนบริหารความต่อเนื่อง (BCP) เพื่อเสนอคณะกรรมการ และนำขึ้นเว็บไซต์ต่อไป 30
ระเบียบวาระที่ 4 เรื่องอื่นๆ
จบการนำเสนอ Your slide title – Month 2013
ความหมาย ความสำคัญ การเตรียมความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต การบริหารความต่อเนื่อง หรือ Business Continuity Management (BCM) คือ องค์รวมของกระบวนการบริหารซึ่งชี้บ่งภัยคุกคามต่อองค์กร และผลกระทบของภัยคุกคามนั้นต่อการดำเนินธุรกิจ และให้แนวทางในการสร้างขีดความสามารถให้องค์กรมีความยืดหยุ่น เพื่อการตอบสนองและปกป้องผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และกิจกรรมที่สร้างมูลค่าที่มีประสิทธิผล หากเกิดสภาวะวิกฤตหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆขึ้นอาจส่งผลกระทบให้หน่วยงานไม่สามารถดำเนินงาน หรือให้บริการได้ตามปกติ ดังนั้น จึงเป็นความจำเป็นที่หน่วยงานต้องจัดทำแผนความต่อเนื่อง (Business Continuity Plan -BCP) เพื่อเตรียมพร้อมรับภัย Your slide title – Month 2013