โดย ดร. ประพนธ์ ผาสุขยืด สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม ที่มา ... ที่ไป ... ของการทำ KM ในหน่วยราชการ โดย ดร. ประพนธ์ ผาสุขยืด สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม เอกสารประกอบการประชุมวิชาการจัดการความรู้ ครั้งที่ 17 เรื่อง “การจัดการความรู้ในวงราชการไทย”
พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 หมวด 3 มาตรา 11 “ส่วนราชการมีหน้าที่พัฒนาความรู้ในส่วนราชการ เพื่อให้มีลักษณะเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ โดยต้องรับรู้ข้อมูลข่าวสารและสามารถประมวลผลความรู้ในด้านต่างๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติราชการได้อย่างถูกต้อง รวดเร็วและเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั้งต้องส่งเสริมและพัฒนาความรู้ความสามารถ สร้างวิสัยทัศน์และปรับเปลี่ยนทัศนคติของข้าราชการในสังกัดให้เป็นบุคลากรที่มีประสิทธิภาพและมีการเรียนรู้ร่วมกัน ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติราชการของส่วนราชการให้สอดคล้องกับการบริหารราชการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามพระราชกฤษฎีกานี้”
ประเด็นการประเมินผล การปฏิบัติราชการ ประสิทธิผล คุณภาพ ประสิทธิภาพ 60 % 20 % 10 % 10 % มิติที่ 1 มิติที่ 2 มิติที่ 3 มิติที่ 4 ประสิทธิผล ตามยุทธศาสตร์ คุณภาพ การให้บริการ ประสิทธิภาพ การปฏิบัติราชการ การพัฒนาองค์กร การจัดการสารสนเทศ (Information Management) 5% การบริหารความรู้ (Knowledge Management) 5% การบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management) 10%
หน่วยให้คำปรึกษา (สคส., สถาบันเพิ่มฯ, บริษัทที่ปรึกษา, etc) กพร. หน่วยงานราชการ TRIS ส่งนโยบายเรื่อง KM รับนโยบาย ให้คำแนะนำ จัดทำแผน KM รับแผน KM รับผลประเมิน ดำเนินการตามแผน ประเมินหน่วยงาน ได้รับรางวัล
KM
คำถามแรก ที่ต้อง “ตีให้แตก” Basic Questions คำถามแรก ที่ต้อง “ตีให้แตก” .... ทำไปทำไม? .... ทำแล้วได้อะไร? .... ไม่ทำได้ไหม?
.... อะไร คือ อุปสรรค ที่สำคัญ ? Basic Questions เมื่อตัดสินใจว่าจะทำ ต้อง ถาม ต่อไปว่า .... อะไร คือ ปัจจัยหลัก ? .... อะไร คือ อุปสรรค ที่สำคัญ ?
บันไดสี่ขั้นที่ปิดกั้นการพัฒนา ไม่เพียร ไม่ทำ 4 ไม่ปรับ ไม่เรียน 3 ไม่เปิด ไม่รับ 2 ไม่พูด ไม่คุย 1
“ถึงการเรียนรู้จะเป็นสิ่งที่สำคัญ และก้าวเดินผ่านช่องประตูนั้น” แต่นั่นก็เป็นเพียงการชี้ว่าประตูอยู่ที่ไหน สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ ความกล้าที่จะเปิดประตู และก้าวเดินผ่านช่องประตูนั้น” Learning is only the beginning of the journey, the important thing is that you must walk to start the real journey.
ถ้าอยากจะก้าวไปข้างหน้า ต้องกล้าพอที่จะสาวเท้าก้าวออกไป You have to start walking, if you want to go forward.
ปัจจัยแห่งความสำเร็จ 1. ผู้นำ ...สร้างวัฒนธรรม ...นำสู่วิสัยทัศน์ 2. ระบบ และโครงสร้าง ...กระบวนการและทีมงานสนับสนุน 3. ผู้ปฏิบัติงาน ...ดำเนินการ ...ผลักดัน ...สานต่อ
เรื่องเล่า...ความสำเร็จ 1. ความสำเร็จ ที่ว่านี้ คืออะไร? 2. อะไรเป็น ปัจจัยที่ทำให้สำเร็จ? 3. ความสำเร็จนี้มีผลต่อ “หัวปลาใหญ่” ขององค์กรอย่างไร?