โครงงานด้านวิศวกรรม การศึกษาปริมาณการใช้น้ำในการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง
จัดทำโดย นายวรวุฒิ แหยมยินดี 5280100625 นายวรวุฒิ แหยมยินดี 5280100625 นางสาวหนึ่งฤทัย กรองทอง 5280100846
เสนอ ดร. วัชระ เสือดี อาจารย์สิโรจน์ ประคุณหังสิต ดร. วัชระ เสือดี ประธานกรรมการ อาจารย์สิโรจน์ ประคุณหังสิต กรรมการ อาจารย์ชวกร ลิ้วตระกูลไพบูลย์ กรรมการ
วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อเปรียบเทียบปริมาณการใช้น้ำระหว่างการปลูกข้าวแบบทั่วไปและการปลูกข้าวแบบนาเปียกสลับแห้ง 2. เพื่อเปรียบเทียบผลผลิตที่ได้จากการปลูกข้าวแบบทั่วไปและการปลูกข้าวแบบนาเปียกสลับแห้ง
ขอบเขตการวิจัย 1. ขอบเขตพื้นที่ การทดลองครั้งนี้จะดำเนินการทดลองในแปลง ของสถานีทดลองการบริหารจัดการน้ำด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ พื้นที่ ทดลอง 1,600 ม2 ภายในสถาบันพัฒนาการชลประทาน 2. ขอบเขตการวิจัย การทดลองครั้งนี้จะทดลองโดยจะปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการใช้น้ำที่เหมาะสม
ประโยชน์และคุณค่าของการวิจัย เป็นแหล่งข้อมูลทางด้านวิชาการที่ได้จากผลการศึกษาวิจัย โดยได้ทราบถึงการเจริญเติบโตการให้ผลผลิตของข้าวที่ปลูกแบบเปียกสลับแห้ง และการเพิ่มผลผลิตให้ภาคเกษตรกรรมใช้น้ำชลประทานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ระยะเวลาการดำเนินงานวิจัย วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 – วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556
การผลิตข้าวระบบ “เปียกสลับแห้ง แกล้งข้าว” การผลิตข้าวระบบ “เปียกสลับแห้ง แกล้งข้าว” มีความแตกต่างจากการปลูกข้าวนาดำแบบปกติ โดยในระยะเวลาตั้งแต่เริ่มเพาะปลูกได้มีการให้แปลงเพาะปลูก เปียกสลับกับแห้ง เพราะช่วงที่แห้งจะทำให้รากของต้นข้าวต้องการน้ำ รากจึงหนาและมีจำนวนมาก การทำเช่นนี้จะทำให้ต้นข้าวแข็งแรง ไม่เป็นโรค การเจริญเติบโตก็ดีขึ้นด้วย และที่สำคัญการปลูกแบบเปียกสับแห้งใช้น้ำน้อย ช่วยป้องกันเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และแก้ปัญหานาหล่ม ข้าวไม่ล้มตอนเกี่ยวรวมถึงลดน้ำต้นทุนอีกด้วย
ขั้นตอนการทำงาน
ประหยัดน้ำ 45.43 % จากการเก็บข้อมูลตามระยะเวลา การเก็บข้อมูลปริมาณน้ำในพื้นที่เพาะปลูก 1 ไร่ หรือ 1600 m2 การปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้งมีการใช้ปริมาณน้ำตลอดการเพาะปลูก มีค่าเท่ากับ 944.77 m3 การปลูกข้าวแบบปกติมีการใช้ปริมาณน้ำตลอดการเพาะปลูก มีค่าเท่ากับ 1731.2 m3 (เมื่อคิดเป็น 1 ไร่ หรือ 1600 m2) เมื่อคิดเป็น เปอร์เซ็นต์ แล้ว การปลูกแบบนาเปียกสลับแห้ง ประหยัดน้ำ 45.43 %
จบการนำเสนอ