Free Trade Area Bilateral Agreement FTA Free Trade Area Bilateral Agreement
FTA ; Free Trade Area เขตการค้าเสรี (Free Trade Area : FTA) หมายถึง การรวมกลุ่มเศรษฐกิจโดยมีเป้าหมายเพื่อลดภาษีศุลกากรระหว่างกันภายในกลุ่มลงให้เหลือน้อยที่สุด หรือเป็น 0% และใช้อัตราภาษีปกติที่สูงกว่ากับประเทศนอกกลุ่ม การทำเขตการค้าเสรีในอดีตมุ่งในด้านการเปิดเสรีด้านสินค้า (goods) โดยการลดภาษีและอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีเป็นหลัก แต่เขตการค้าเสรีในระยะหลังๆนั้น รวมไปถึงการเปิดเสรีด้านบริการ (services) และการลงทุนด้วย เขตการค้าเสรีที่สำคัญในปัจจุบัน คือ NAFTA และ AFTA และขณะนี้สหรัฐฯ อยู่ในระหว่างการเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรีในภูมิภาคอเมริกา (Free Trade Area of Americas : FTAA) โดยตั้งเป้าหมายที่จะให้การเจรจาเสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2548 ที่มา กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ http://www.dtn.moc.go.th/web/147/index_th.asp?G_id=147
FTA ; Free Trade Area เขตการค้าเสรี (Free Trade Area : FTA) เป็นการรวมกลุ่มเศรษฐกิจโดยมีเป้าหมายเพื่อลดภาษีศุลกากรระหว่างกันภายในกลุ่มให้เหลือน้อยที่สุด และเก็บภาษีสูงกับประเทศที่อยู่นอกกลุ่มที่มิได้มีการเปิดการค้าเสรีระหว่างกัน โดยจะมีลักษณะเป็นการเจรจาการค้าในแบบ “ทวิภาคี” (รายประเทศ) ไม่ใช่แบบ “พหุภาคี” (หลายประเทศ) เช่น WTO การทำเขตการค้าเสรี ในปัจจุบันจะมุ่งเสรีการบริการและการลงทุนด้วย ที่มา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (http://www.dbd.go.th)
FTA ; พันธมิตรการค้า หุ้นส่วนอนาคต หลังการประชุมเอเปคก่อให้เกิดการเจรจาทวิภาคีเพิ่มเติมมากมาย ความเชื่อของภาครัฐ เมื่อสินค้าส่งออกของไทยไปยังประเทศคู่สัญญาไม่ต้องเสียภาษี สินค้าไทยราคาจะต่ำลง ส่งผลให้ความต้องการซื้อมากขึ้น ภาคการผลิตจะขยายตัว เมื่อความต้องการซื้อมากขึ้น ราคาสินค้าจะปรับขึ้นเองตามกลไก FTA จะช่วยให้ภาคการผลิตปรับทิศทางสู่มาตรฐานมากขึ้น ความจริงที่ต้องเผชิญ ความได้เปรียบเสียเปรียบขึ้นอยู่กับการเจรจาของภาครัฐเท่านั้น เมื่อเปิดเสรี ประเทศคู่สัญญาสามารถนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายตัดราคาสินค้าท้องถิ่นได้ ถ้าหากรัฐขาดการเจรจาเพื่อการปกป้องที่ดี
FTA ; ไทยได้หรือเสีย บทความโดย วิษณุ บุญมารัตน์ สถาบันราชภัฎสวนดุสิต (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่ 5 เมษายน 2547 หน้า 15) “เป็นกับดักเศรษฐกิจที่สามารถเปลี่ยนโฉมหน้าการค้าระหว่างประเทศของไทยอย่างมากมายในอนาคตได้ หากกระทำไปด้วยความไม่รอบคอบ มองประโยชน์เพียงแค่ระยะสั้น โดยขาดการศึกษาให้รอบคอบ และรัดกุมทั้งผลดีผลเสียตลอดจนขาดการเปิดเผยผลการศึกษาต่อสาธารณชน” FTA อาจเป็นนโยบายการค้าที่รัฐเข้ามามีบทบาทแทรกแซงน้อยที่สุดโดยปล่อยให้เอกชนดำเนินการค้าระหว่างประเทศโดยปราศจากสิ่งกีดขวางและข้อจำกัดเสรีภาพทางการค้า เช่น การตั้งกำแพงภาษี การกำหนดโควต้าสินค้านำเข้า และการควบคุมอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ โดยรัฐจะไม่ควบคุมหรือกระทำการใดที่เป็นอุปสรรคกีดขวางการค้าระหว่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การค้าระหว่างประเทศดำเนินและขยายตัวไปอย่างกว้างขวาง ซึ่งจะช่วยจัดสรรทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดและเป็นผลดีกับสวัสดิการเศรษฐกิจและเกิดประโยชน์ต่อผู้ผลิตและผู้บริโภคส่วนรวม
FTA ; ไทยได้หรือเสีย ภายใต้หลักการ FTA น่าจะมีส่วนเกื้อกูลผลประโยชน์ให้ประเทศมหาอำนาจมากกว่าประเทศที่อ่อนแอกว่า เพราะโลกทุนนิยมไม่ได้มีความเท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ ประเทศอุตสาหกรรมใหม่ (Infant Industry) จะไม่สามารถแข่งขันกับประเทศที่มีความชำนาญและมีปริมาณการผลิตมากกว่าเพราะต้นทุนต่ำกว่าได้ ก่อให้เกิดปัญหากับอาชีพสงวนบางอย่างของคนไทยได้ ประเทศมหาอำนาจบางประเทศสร้างกฎหมายภายในและกำแพงการค้าต่างๆ ที่มีลักษณะคุ้มครองการค้าภายในประเทศตนเองเป็นกับดักอยู่แล้ว ในขณะที่ไทยไม่มีกฎหมายดังกล่าวอย่างเข้มข้น จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ตัวอย่าง FTA ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับจีน ตัวอย่าง FTA ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับญี่ปุ่น จะเกิดอะไรขึ้นบ้างถ้าประเทศไทยเจรจา FTAA กับอเมริกาสำเร็จ