การแสดงภาพสามมิติ จัดทำโดย ด.ญ.ญาณตา สมาภาคย์ เลขที่24 ด.ญ.ญาณตา สมาภาคย์ เลขที่24 ด.ญ.ปิยธิดา เทพฝอย เลขที่ 29 ด.ญ.อรวรรณ อินทรสุวรรณ์ เลขที่ 36 ด.ญ.อัจจิมา พุมมาจันทร์ เลขที่ 37 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/13 โรงเรียนโพธาวัฒนาเสนี จังหวัดราชบุรี
รูปภาพแสดงการมองหน้าจอสามมิติผ่านแว่นตาสามมิติ การแสดงภาพสามมิติ รูปภาพแสดงการมองหน้าจอสามมิติผ่านแว่นตาสามมิติ
การถ่ายภาพ 3 มิติ การถ่ายภาพสามมิติ หรือ 3-D imaging หมายถึง เทคนิคใดก็ได้ที่สามารถเก็บข้อมูลภาพเป็นสามมิติหรือที่สามารถสร้างภาวะลวงตาให้เห็นความลึกของภาพนั้นได้ ภาพสองมิติอื่นๆ สร้างได้ด้วยวิธีทำเป็นภาพ 2 ภาพที่มีความแตกต่าง การสร้างภาพ3 มิติประดิษฐ์ขึ้นครั้งแรกโดยเซอร์ ชาร์ล วีทสโตน เมื่อ พ.ศ. 2381
เทคนิคการแสดงภาพ ๓ มิติ เป็นการนำภาพ ๒ มิติมาแสดงผล โดยมีเทคนิคการแสดงภาพที่ทำให้ตาข้างซ้ายและตาข้างขวามองเห็นภาพของวัตถุเดียวกันในมุมมองที่แตกต่างกัน ส่งผลให้สมองตีความเป็นภาพที่มีความลึก ตัวอย่างเทคนิคการแสดงภาพ ๓ มิติ มีดังนี้
การแสดงภาพแบบแอนะกลิฟ (anaglyph) เป็นการฉายภาพสำหรับตาซ้ายและตาขวาที่มีโทนสีที่แตกต่างกันลงบนฉากรับภาพเดียวกัน โทนสีที่ใช้มักจะเป็นสีแดงและน้ำเงิน
การแสดงภาพแบบแอ็กทิฟชัตเตอร์ (active shutter)
การแสดงภาพแบบแอ็กทิฟชัตเตอร์ (active shutter) ต้องแสดงภาพสำหรับตาซ้ายและตาขวาสลับกันไปจนครบ 120 ภาพ ใน 1 วินาที ตาข้างซ้ายและขวาจึงเห็นข้างละ 60 ภาพใน 1 วินาที ซึ่งเป็นความถี่ขั้นต่ำที่ทำให้ไม่รู้สึกว่าภาพสั่น การฉายภาพลักษณะนี้ต้องใช้แว่นตาแอ็กทิฟชัตเตอร์ช่วยในการมองเห็นภาพ
การแสดงภาพแบบพาราแลกซ์บาร์เรีย (paralax barrier)
การแสดงภาพแบบพาราแลกซ์บาร์เรีย (paralax barrier) มีชั้นกรองพิเศษ ทีเรียกว่า ‘พาราแลกซ์บาร์เรีย’ ในการแบ่งภาพให้ตาแต่ละข้างที่มองผ่านชั้นกรองนี้เห็นภาพที่แตกต่างกัน แล้วสมองจะรวมภาพจากตาซ้ายและตาขวาที่มีมุมมองต่างกันนี้ให้เป็นภาพเดียวกัน ทำให้เรามองเห็นเป็นภาพ ๓ มิติ
ตัวอย่างภาพ 3 มิติ
THE END FOR PRESENT.