แนะนำการเขียนโปรแกรมภาษา C Introduction to C Programming Language
แนะนำภาษา C ภาษา C เป็นภาษาระดับสูง แต่มีขีดความสามารถพิเศษเหนือกว่าภาษาระดับสูงอื่น กล่าวคือสามารถทำงานในระดับต่ำได้เช่นเดียวกับภาษาระดับต่ำ จึงสามารถใช้เขียนโปรแกรมระบบปฏิบัติการ หรืองานทั่วไป เช่น ใช้เขียนโปรแกรมที่มีการคำนวณมากๆ ทางด้านคณิตศาสตร์ หรือทางด้านธุรกิจ ภาษา C มีลักษณะเป็นภาษาโครงสร้าง(Structure programming) คือ เมื่อโปรแกรมถูกประมวลผล ประโยคคำสั่งในโปรแกรมจะถูกจัดให้มีลำดับการทำงานตามคำสั่ง เช่น คำสั่ง if-else,while หรือ do while เป็นต้น
ประวัติของภาษาซี C มีต้นกำเนิดมาจากภาษาคอมพิวเตอร์ยูนิกซ์(UNIX) นำเอาภาษาเครื่องมาใช้ในการพัฒนาโปรแกรมอื่นๆ และพัฒนาเป็นระบบปฏิบัติการ(OS) และได้สร้างภาษาบี(B) ขึ้นมา เพื่อช่วยให้การเขียนโปรแกรมทำได้ง่ายขึ้น ต่อมา Dennis Ritchie จาก Bell Lab ได้นำภาษานี้มาพัฒนาต่อและใช้ชื่อว่า C เพราะเป็นภาษาต่อจาก B ในยุคนั้นจะทำงานบนยูนิกซ์เป็นส่วนมาก
ประวัติของภาษาซี ภาษา BCPL ภาษา B ภาษา C Basic Combined Programming Language บนเครื่อง PDP-7 (UNIX) พ.ศ. 2513 พ.ศ. 2515 โดย เดนนิช ริทชี่
Dennis Ritchie ผู้ให้กำเนิดภาษา C ประวัติของภาษาซี Dennis Ritchie ผู้ให้กำเนิดภาษา C
จากภาษา C สู่ C++ ภาษา C ได้มีการพัฒนาต่อโดยใช้แนวคิดโปรแกรมเชิงวัตถุ หรือ OOP(Object Oriented Programming) เกิดภาษาใหม่เรียกว่า “ซี พลัส พลัส” (C++) ภาษาซียังเป็นต้นฉบับให้กับอีกหลายๆ ภาษาในปัจจุบันเช่น Java, C# (อ่านว่าซีชาร์ป)
ภาษา C มีประโยชน์อย่างไร
ส่วนประกอบของโปรแกรม
ส่วนประกอบของเทอร์โบซี โปรแกรม editor มีหน้าที่สำหรับสร้างหรือแก้ไข source file โปรแกรม compilor มีหน้าที่แปล source file เป็น object file โปรแกรม linker มีหน้าที่ link object file ให้ได้เป็น executable file
Editor ของภาษา C
Editor ของภาษา C Main Menu Editor
ส่วนประกอบของโปรแกรม
ส่วนประกอบของโปรแกรม
ส่วนประกอบของโปรแกรม
ส่วนประกอบของโปรแกรม
กฎเกณฑ์การเขียนคำสั่ง (Rules) ใช้อักษรตัวเล็กในการเขียนโปรแกรม ประกอบด้วยส่วนย่อย ๆ โดยใช้ปีกกา “{ }” เป็นตัวกำหนดขอบเขต ฟังก์ชั่นแรกต้องเป็น main() เสมอ ใช้เครื่องหมาย ; (semi colon) เป็นตัวกำหนดการสิ้นสุดของคำสั่ง ใช้เครื่องหมาย , (comma) เป็นตัวคั่นตัวแปรและพารามิเตอร์ต่างๆ ใช้เครื่องหมาย /* */ เป็นการกำหนดข้อความ ที่ไม่ต้องการให้คอมไพเลอร์ปฏิบัติงาน กราบเรียนท่านอาจารย์ และสวัสดีเพื่อนๆ
ตัวอย่างโปรแกรม # include <stdio.h> main () { printf(“This is my first C Program.”); } เป็นโปรแกรมสั่งพิมพ์ข้อความ “This is my first C Program.”
โปรแกรมแรก ลองเปิด TC ขึ้นมาแล้วเขียนโปรแกรม ดังนี้ กด CTRL + F9 เพื่อ Run เมื่อ Run เสร็จ กด ALT + F5 เพื่อดูผลการ Run
อธิบาย Header File ฟังก์ชั่น main เริ่มทำงานเป็นที่แรก ฟังก์ชั่น printf ส่งข้อมูลไปที่หน้าจอ
โครงสร้าง (Structure) ของภาษาซี บรรทัด #include<stdio.h> ทำหน้าที่บอกคอมไพล์ของภาษา C ให้นำแฟ้ม stdio.h จากคลังชุดคำสั่งซึ่งคอมไพล์ไว้แล้วมาทำการแปลรวมกับคำสั่งต้นฉบับ บรรทัด main() แสดงถึงการนิยามฟังก์ชันชื่อ main เป็นจุดเริ่มต้นการทำงานของโปรแกรม เครื่องหมายวงเล็บปีกกา {} ทำหน้าที่บอกจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการทำงานของฟังก์ชัน main ตามลำดับ เมื่อจบการทำงานของ main ก็ถือว่าจบการทำงานของโปรแกรม
ฟังก์ชั่นกับ Header File สำหรับภาษา C เราสามารถสร้างฟังก์ชั่นเองได้ แต่ไม่จำเป็นต้องสร้างเองเสมอไป เราสามารถยืมคนอื่นได้ (หรือจากระบบ) หากดึงจากที่อื่นจะต้อง #include ตัว Header File ของฟังก์ชั่นที่จะใช้ไว้ที่ต้นโปรแกรม เราสามารถดูได้ว่าแต่ละ Header File มีฟังก์ชั่นอะไรบ้างโดยกดปุ่ม CTRL+F1
ทดลอง Header File ส่วนการดึง Header File การเรียกใช้ Header File
แบบฝึกหัด 1. ให้แสดงชื่อและนามสกุลของนักศึกษาด้วยฟังก์ชั่น printf ตามตัวอย่างที่กำหนดให้ต่อไปนี้ 2. จากนั้นให้แสดงสาขาวิชา และคณะ ตัวอย่าง Name : Chanida Kumpeng Name : Chanida Kumpeng Major : Information Technology Faculty : Science and Technology
สรุปเนื้อหาท้ายบท