IP ADDRESS
คณะผู้จัดทำ น.ส.สิรดา อินทร์ติยะ เลขที่ 31 น.ส.สิรดา อินทร์ติยะ เลขที่ 31 น.ส.สุดารัตน์ ฉุยฉาย เลขที่ 38 น.ส.อรชร เสาวนาม เลขที่ 55
ความหมายของ IP address IP Address คือหมายเลขประจำเครื่องที่ต้องกำหนดให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องและ อุปกรณ์ทุกชิ้นในเครือข่ายเน็ตเวิร์ค โดยมีข้อแม้ว่าหมายเลข IP Address ที่จะกำหนดให้กับคอมพิวเตอร์ จะต้องไม่ซ้ำซ้อนกัน ซึ่ง IP Address จะเป็นตัวอ้างอิงชื่อที่อยู่ของคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง ตัวอย่างเช่น หากคอมพิวเตอร์ A ต้องการส่งไฟล์ข้อมูลไปให้คอมพิวเตอร์ B คอมพิวเตอร์ A จะต้องรู้จักหรือมองเห็นคอมพิวเตอร์ B เสียก่อน โดยการอ้างอิงหมายเลข IP Address ของคอมพิวเตอร์ B ให้ถูกต้อง จากนั้นจึงอาศัยโปรโตคอลเป็นตัวรับส่งข้อมูลระหว่างทั้ง 2 เครื่อง
รูปแบบของ IP address IP Address จะประกอบไปด้วยตัวเลขจำนวน 4 ชุด ระหว่างตัวเลขแต่ละชุดจะถูกคั่นด้วยจุด " . " เช่น 192.168.0.1 โดยคอมพิวเตอร์จะแปลงค่าตัวเลขทั้ง 4 ชุดให้กลายเป็นเลขฐาน 2 ก่อนจะนำค่าที่แปลงได้ไปเก็บลงเครื่องทุกครั้ง IP Address จะประกอบด้วยตัวเลข 2 ส่วน คือ 1.ส่วนที่ใช้เป็นหมายเลขเครือข่าย (Network Address) 2.ส่วนที่ใช้เป็นหมายเลขเครื่อง (Host Address)
การแบ่งขนาดของเครือข่าย ไอพีเวอร์ชัน 4 ทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็น Class ชนิดต่างๆ เพื่อจุดประสงค์ในการใช้งาน ต่างๆกัน ดังต่อไปนี้ Class A คือ address สำหรับเครือข่ายขนาดใหญ่ ใช้ไบต์แรก (8 bit) เป็น Network number และให้บิตแรก เป็น 0 จึงมี Network number ระหว่าง 0 - 127 (126 เครือข่าย) ส่วน Host number ใช้ 3 ไบต์ (24 บิต) จึงมีคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายได้ถึง 16,777,124 เครื่อง หมายเลข IP Address จะอยู่ในช่วง 0.0.0.0 ถึง 127.255.255.255 มีไว้สำหรับจัดสรรให้กับองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อภายในเครือข่ายจำนวนมากๆ
Class B คือ address สำหรับเครือข่ายขนาดกลาง ใช้ 2 ไบต์แรก (16 bit) เป็น Network number และให้ 2 บิตแรก เป็น 10 จึงมี Network number เท่ากับ 2 ยกกำลัง (16-2) หรือ 16,382 เครือข่าย ส่วน Host number ใช้ 2 ไบต์ (16 bit) มีคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายได้ 65,534 เครื่อง หมายเลข IP Address จะอยู่ในช่วง 128.0.0.0 ถึง 191.255.255.255 มีไว้สำหรับจัดสรรให้กับองค์กรขนาดกลาง สามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายได้ถึง 65,534 เครื่อง
Class C คือ address สำหรับเครื่องข่ายขนาดเล็ก (น้อยกว่า 256 เครื่อง) ใช้ 3 ไบต์แรก (24 bit) เป็น Network number และให้ 3 บิตแรกเป็น 110 จึงมี Network number เท่ากับ 2 ยกกำลัง (24-3) หรือ 2,097,152 เครือข่าย ส่วน Host number ใช้ 1 ไบต์ (8 bit) มีคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายได้ 254 เครื่อง หมายเลข IP Address จะอยู่ในช่วง 192.0.0.0 ถึง 223.255.255.255 มีไว้สำหรับจัดสรรให้กับองค์กรขนาดเล็กและใช้กับคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ต Class D จะกำหนดให้ 4 บิตแรก เป็น 1110 หมายเลข IP Address จะอยู่ในช่วง 224.0.0.0 ถึง 239.255.255.255 สำหรับหมายเลข IP Address ของ Class นี้มีไว้เพื่อใช้ในเครือข่ายแบบ Multicast เท่านั้น
Class E จะกำหนดให้ 5 บิตแรก เป็น 11110 หมายเลข IP Address จะอยู่ในช่วง 240.0.0.0 ถึง 254.255.255.255 สำหรับหมายเลข IP Address ของ Class นี้ จะเก็บสำรองไว้ใช้ในอนาคตปัจจุบันจึงยังไม่ได้มีการนำมาใช้งาน
ความสำคัญ หมายเลข IP Address (ไอพีแอดเดรส)มีความสำคัญกับการเชื่อมต่อระบบ Network หรือเครือข่าย Internet เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องที่เชื่อมต่ออยู่ในอินเตอร์เน็ตต้องมีแอดเดรส (address) ซึ่งเหมือนกับบ้านต้องมีเลขที่บ้านเพื่อที่จะบอกได้ว่าเป็นบ้านไหน IP address ที่เราใช้กันทุกวันนี้ ช่วยทำให้ง่ายแก่การตรวจสอบเช็คหมายเลขของแต่ละเครื่อง ทำให้เกิดความถูกต้องแม่นยำ และเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและมีหมายเลขซ้ำกัน
ประเภทของ IP Address แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ 1. Public IP Address หมายเลข IP Address"Public IP" ของแต่ละเครื่องบนเครือข่ายInternet จะไม่ซ้ำกันโดยในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะจ่ายหมายเลข IP Address มาใช้ชั่วคราว 1 IP ซึ่งPublic IP Address จะเปลี่ยนไปทุกครั้งทีมีการเชื่อมต่อใหม่ เพื่อบอกความเป็นตัวตนของเครื่องนั้น
2. Private IP Address หมายเลข IP Address"Private IP" คือหมายเลขที่ใช้กำหนด ขึ้นมาเอง เพื่อการสื่อสารภายใน ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ภายในเท่านั้น
โดยสามารถกำหนดได้ 2 รูปแบบ คือ - กำหนดแบบ Dynamic วิธีนี้คอมพิวเตอร์ หรือ DHCP Server จะทำหน้าทีกำหนดหมายเลข IP และจ่ายเลขIPให้กับระบบคอมพิวเตอร์ในกรุ๊ปนั้น หรือเรียกการจ่ายไอพีแบบนี้ว่า (Automatic Private IP Address) - กำหนดแบบ Static เป็นวิธีการกำหนดไอพีแอดแดรสแบบคงที่ โดยผู้ติดตั้งระบบ ทำหน้าที่กำหนด หมายเลข IP Address ให้แต่ละเครื่อง เพื่อไม่ให้กำหนด IP ซ้ำกัน แต่เมื่อมีการติดต่อในเครือข่าย Internet ก็จะได้รับหมายเลข ไอพี แอดเดรส "Public IP Address"จากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต เราสามารถเช็คไอพี (Check IP) แบบ "Private IP" บนเครื่อง ได้โดย
คลิกปุ่ม Start > Run > พิมพ์ cmd วรรค /k วรรค ipconfig
จะได้ผลลัพธ์ออกมาดังรูป
แหล่งที่มา http://www.d-sign8.com/board/index.php?topic=3398.0 http://www.ku.ac.th/magazine_online/ip.html http://kampol.htc.ac.th/web1/subject/com_network/sheet/ipaddress.htm http://www.correct.go.th/plan/Ipaddress.htm http://www.pyo.nu.ac.th/di-tec/Manuals/wireless.pdf
ขอบคุณค่ะ