เงินสวัสดิการ โดย นางสาวจิราวดี รวดเร็ว 441031182 นางสาวจิราวดี รวดเร็ว 441031182 นางสาวณัฐธิดา เขียวมณีนัย 441031183 นางสาวพิมพ์จันทร์ วงศ์วรชาติ 441031193 นางสาววาสนา ทองสุวรรณ 441031199 นางสาวสุทธิลักษณ์ พิทักษ์วงศ์ 441031205 วิชาเอก ภาษาไทย คณะศึกษาศาสตร์
เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2523 ข้าราชการหรือลูกจ้างประจำ บุตรชอบด้วยกฎหมาย (ไม่รวมบุตรบุญธรรม) ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ (คนที่ 1 ถึง 3 ) คู่สมรส บิดาหรือมารดา รวมทั้งข้าราชการบำนาญและกองหนุนมีเบี้ยหวัด มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลตามหลักเกณฑ์ และอัตราดังนี้ ผู้ที่เข้ารับการรักษา ในสถานพยาบาลของทางราชการ ให้เบิกได้เต็มจำนวน ยกเว้น (ก) ค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการรักษาโรค รวมทั้งค่าซ่อมแซม ให้เบิกตามที่กระทรวงการคลัง กำหนด (ข) ค่าห้องและค่าอาหาร เบิกตามที่กระทรวงการคลังกำหนด (ไม่เกินวันละ 150 บาท) ผู้ที่เข้ารับการรักษาพยาบาล ในสถานพยาบาลเอกชน ประเภทผู้ป่วยใน เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ดังนี้ (ก) ค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการรักษาโรค รวมทั้งค่าซ่อมแซม ค่าห้อง และค่าอาหารให้เบิกได้เช่นเดียวกับสถานพยาบาลของทางราชการ (ข) ค่ารักษาพยาบาลประเภทอื่น ๆ ให้เบิกได้ครึ่งหนึ่งของจำนวนที่ได้จ่ายไป จริง แต่ไม่เกิน 3,000 บาท
เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร ตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร พ.ศ. 2523 ข้าราชการหรือลูกจ้างประจำ ข้าราชการบำนาญและทหารกองหนุน มีเบี้ยหวัดที่ชอบด้วยกฎหมาย มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของ บุตรชอบด้วยกฎหมาย (ไม่รวมบุตรบุญธรรม) มีสิทธิได้รับสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรคนที่ 1 ถึง คนที่ 3 ได้ตามหลักเกณฑ์ประเภทและอัตรา ดังนี้ สถานศึกษาของทางราชการ บุตรที่ศึกษาในสถานศึกษาของทางราชการ ในหลักสูตรระดับไม่สูง กว่าอนุปริญญาหรือเทียบเท่า แยกต่างหากจากหลักสูตรปริญญาตรี ให้ได้รับเงิน บำรุงการศึกษา เต็มจำนวน ที่ได้จ่ายไปจริง สถานศึกษาของเอกชน (1) บุตรต้องศึกษาในหลักสูตรระดับไม่สูงกว่ามัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า ให้ได้รับ เงินค่าเล่าเรียนตามจำนวนจริง (2) บุตรที่ศึกษาในระดับสูงกว่ามัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่าแต่ไม่สูงกว่าอนุปริญญา หรือเทียบเท่า และแยกต่างหากจากหลักสูตรปริญญาตรี ให้ได้รับเงินค่าเล่าเรียนไม่เกินครึ่งหนึ่งของจำนวนจริง
เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการช่วยเหลือบุตร ตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการช่วยเหลือบุตร พ.ศ. 2521 ข้าราชการ หรือลูกจ้างประจำซึ่งมีบุตรชอบด้วยกฎหมาย และบุตรซึ่งบิดามารดาได้ยกให้ผู้อื่นไปแล้ว และมีอายุไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ ไม่บรรลุนิติภาวะโดยการสมรส และไม่เป็นผู้รับ เงินเพิ่มพิเศษสำหรับบุตรตามระเบียบการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษ สำหรับราชการซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ประจำอยู่ในต่างประเทศ มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือบุตรเป็นรายเดือน สำหรับบุตรคนที่ 1 ถึง 3 โดยให้รับห้าสิบบาทต่อบุตรหนึ่งคน และถ้าคู่สมรสฝ่ายที่เป็นสามีเป็นผู้มีสิทธิรับเงินช่วยเหลือบุตรเพียงฝ่ายเดียว หากหย่ากัน ฝ่ายที่ปกครองบุตรเป็นผู้มีสิทธิรับเงิน
เงินค่าเช่าบ้านข้าราชการ เรื่องเงินค่าเช่าบ้านข้าราชการนี้ ได้เคยมีการปรับปรุงหลักการบางประการ เกี่ยวกับเงินค่าเช่าบ้านข้าราชการ โดยพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ พ.ศ. 2522 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2522 เป็นต้นไป แต่เนื่องจากมีปัญหาบางประการ จึงได้มีการตราพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2522 ให้เลื่อนการใช้พระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ พ.ศ. 2522 ไปก่อน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2522 เพื่อปรับปรุงให้ เหมาะสมยิ่งขึ้น ดังนั้น ในระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2522 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2523 ให้เบิกจ่ายค่าเช่าบ้านตามหลักการและ อัตราค่าเช่าบ้าน ตามพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ พ.ศ. 2517 ไปก่อน โดยให้เบิกจ่ายตามอัตราเงินเดือนสุทธิที่ปรับปรุงใหม่ แต่ถ้าเงินเดือนสุทธิที่ปรับปรุงใหม่ ไม่ตรงกับบัญชีท้าย พระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการดังกล่าว ก็ให้เบิกในอัตราที่ใกล้เคียง แต่ไม่เกินอัตราเงินสุทธิที่ได้รับ ตัวอย่างเช่น อัตราเงินเดือน 8,475 บาท ก็ให้เบิกค่าเช่าบ้านในอัตราสำหรับเงินเดือน 8,160 บาท ซึ่งจะมีสิทธิเบิกได้เดือนละ 1,700 บาท เป็นต้น
จบแล้วครับ ขอขอบคุณที่ตั้งใจฟังนะครับ