เพื่อก่อให้เกิดการปฏิรูปประเทศไทย เสียงสะท้อน จากคนไทย คนหนึ่ง เพื่อก่อให้เกิดการปฏิรูปประเทศไทย
ความแตกต่างระหว่าง ประเทศที่พัฒนาแล้ว กับ ประเทศด้อยพัฒนา
การไม่เคยเสียเอกราชให้ใคร ไม่ได้อยู่ที่ การไม่เคยเสียเอกราชให้ใคร
สามารถดูได้จากประเทศ ญี่ปุ่น เยอรมัน แม้จะแพ้สงครามโลก แต่ก็กลับมายิ่งใหญ่ในเศรษฐกิจโลก
ความเก่าแก่ของอารยธรรมของประเทศนั้นๆ ไม่ได้อยู่ที่ ความเก่าแก่ของอารยธรรมของประเทศนั้นๆ
สามารถดูได้จากประเทศ อินเดีย อียิปต์ ซึ่งมีอารยธรรม มานานกว่า 3,000 ปี แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังยากจน
ในขณะที่ประเทศเกิดใหม่ เช่น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ที่เป็นประเทศเล็กๆ ไม่มีศักยภาพอะไรเลย เมื่อ 100 ปีที่แล้ว แต่วันนี้กลับพัฒนาจนกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ที่ร่ำรวยได้
และความแตกต่างระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้ว กับประเทศด้อยพัฒนา ก็ไม่ได้อยู่ที่ทรัพยากรของประเทศอีกนั่นล่ะ
ญี่ปุ่น ที่มีพื้นที่เกษตรกรรมน้อยมาก 80% ของพื้นที่เป็นภูเขา ไม่เหมาะในการทำเกษตรกรรม แต่ญี่ปุ่นกลับเป็นประเทศที่ส่งออกอาหาร และ สินค้าเกษตรที่สำคัญของโลก
สวิสเซอร์แลนด์ อากาศหนาวจัดจนใน 1 ปี ทำการเกษตรได้เพียง 4 เดือนและ ไม่มีการทำไร่โกโก้เลย แต่กลับทำช็อคโกแลตส่งออกรายใหญ่ของโลก และยังนำเอาความซื่อสัตย์ ความตรงเวลา ความมีระเบียบของคน มาใช้ประโยชน์ จนได้รับการยอมรับให้เป็นธนาคารของโลก
สีผิว และ เผ่าพันธุ์ก็ไม่ใช่เหตุผลอีกแหละ เพราะเมื่อแรงงานที่เคยเกียจคร้านในประเทศของตนย้ายไปอยู่และหากินในประเทศที่เจริญแล้วกลับกลายเป็นแรงงานที่ขยันด้วยซ้ำไป
แล้วอะไร ที่ทำให้แตกต่าง ?
สิ่งที่แตกต่าง คือ ทัศนคติ ที่ฝังรากลึกมานานปี ผ่านระบบการศึกษา และ การอบรมปลูกฝัง
จากการวิเคราะห์พฤติกรรมของคนในประเทศที่พัฒนาแล้ว พบว่าคนส่วนใหญ่ดำเนินชีวิตอยู่บนหลักปรัชญา ได้แก่
ใช้จริยธรรมนำทางชีวิต (Ethics as the basic principle) ความซื่อสัตย์ (Integrity) ความรักในงาน (Work Loving) ความรับผิดชอบในหน้าที่ (Responsibility) จิตใจมุ่งมั่น สู่ความเป็นที่หนึ่ง ( Will of super action) การเคารพต่อกฏระเบียบ (Respect to the law and rules) การเคารพต่อสิทธิของผู้อื่น (Respect to the rights of other citizens) การตรงต่อเวลา (Punctuality) การออมและความสนใจในการลงทุน (Strive for saving and investment)
แต่น่าเสียดายที่ ในประเทศด้อยพัฒนา มีคนเพียงจำนวนน้อยที่ใช้หลักปรัชญาเหล่านี้ในการดำเนินชีวิต
ประเทศไทยของเรายังเป็นประเทศด้อยพัฒนา ไม่ใช่เพราะเราขาดทรัพยากร หรือมีภัยธรรมชาติเป็นปัญหา แต่เพราะเราขาดทัศนคติ และแรงผลักดันที่สอดคล้องไปตามหลักปรัชญาการดำเนินชีวิตที่กล่าวมา
ปรมาจารย์ ขงจื๊อ (551-479 ปีก่อนปีคริสตกาล) สอนไว้ว่า ปรมาจารย์ ขงจื๊อ (551-479 ปีก่อนปีคริสตกาล) สอนไว้ว่า 530123 หากเจ้าวางแผนไว้ 1 ปี .............. จงปลูกข้าว หากเจ้าวางแผนไว้ 10 ปี .............. จงปลูกต้นไม้ หากเจ้าวางแผนไว้ 100 ปี ............... จงให้ความรู้ แก่บุตรหลาน 530123
ถ้าคุณไม่ส่งต่อเมลล์นี้ คุณจะไม่ล้มป่วย คุณจะไม่ทะเลาะกับแฟน คุณจะไม่ถูกไล่ออกจากงาน คุณจะไม่ถูกสาปแช่งใดๆ
ให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในอนาคต แต่ถ้าคุณรักประเทศไทย และอยากเห็นประเทศไทยของเราเปลี่ยนเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ขอให้เริ่มจากตัวคุณเอง พัฒนาสังคมใกล้ตัวคุณ จากที่บ้าน ที่ทำงาน และอย่าลืมช่วยกันส่งข้อความนี้ต่อให้คนรอบข้างคุณให้มากที่สุด หวังว่าจะได้เป็นส่วนช่วยผลักดันให้คนไทยได้คิด วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา เพื่อนำประเทศไทยไปสู่ การปฏิรูปประเทศไทย ให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในอนาคต