วิจัย เรื่อง การประเมินผลการดำเนินงานประกันคุณภาพภายใน ของสำนักงานประกันคุณภาพและงานวิจัย วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยา ปีการศึกษา 2556
ประวัติผู้วิจัย นางสุภาวรัตน์ ภุมมาลี ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานฝ่ายประกันคุณภาพ วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยา
วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อศึกษาประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และปัจจัยที่สนับสนุนการดำเนินงาน ประกันคุณภาพภายใน ของสำนักงานประกันคุณภาพและงานวิจัย วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยา ปีการศึกษา 2556
ประชากร ที่ใช้คือ ผู้บริหาร ครู และบุคลากร วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยา จำนวน 107 คน เครื่องมือ ที่ใช้ในการวิจัย ใช้แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในฯ วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติ ความถี่ , ค่าร้อยละ การหาค่าเฉลี่ย ( x ) และ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา เนื่องจากการประกันคุณภาพภายในเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารการศึกษาที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และจากผลการประกันคุณภาพภายในของวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยา ในปีการศึกษา 2556 ยังมีบางมาตรฐานที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ผู้วิจัยซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานประกันคุณภาพ จึงมีแนวความคิดที่จะวิเคราะห์ปัจจัยที่จะส่งผลให้การประกันคุณภาพภายในของทางวิทยาลัย มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานการประกันคุณภาพภายใน ของหน่วยงานต้นสังกัด
กรอบแนวคิดการวิจัย
ด้านประสิทธิภาพการดำเนินงานประกันคุณภาพภายใน ผลการวิจัย ด้านประสิทธิภาพการดำเนินงานประกันคุณภาพภายใน (ตัวอย่าง) ข้อ ประเด็น ระดับความคิดเห็น ด้านประสิทธิภาพการดำเนินงานประกันคุณภาพภายใน X S.D. ระดับ 1 การจัดหน่วยงานรับผิดชอบงานประกันคุณภาพ 4.17 0.68 มาก 2 การกำหนดแผนปฏิบัติงานประกันคุณภาพ 4.08 0.61 3 การจัดบุคลากรรับผิดชอบด้านงานประกันคุณภาพ 4.21 0.64 4 สถานที่สำหรับหน่วยงานประกันคุณภาพ 4.04 0.67 5 งบประมาณในการสนับสนุนการดำเนินงานประกันคุณภาพเพียงพอ 3.75 0.90 6 เครื่องมือ อุปกรณ์ สนับสนุนงานประกันคุณภาพเพียงพอ 3.71 0.93
สรุปผลการวิจัย ประชากร. ประชากรส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 57. 01 สรุปผลการวิจัย ประชากร *ประชากรส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 57.01 *อายุประชากรส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 31-40 ปี ร้อยละ 31.77 รองลงมาคือ 41-50 ปี ร้อยละ 29.90 *บทบาทหน้าที่ในการปฏิบัติงานส่วนใหญ่เป็น ครู ร้อยละ 74.76 รองลงมาคือ บุคลากร ร้อยละ 16.83 *วุฒิการศึกษาสูงสุดส่วนใหญ่เป็น ระดับปริญญาตรี ร้อยละ 74.76 รองลงมาคือ ระดับปริญญาโท ร้อยละ 14.95 *ประสบการณ์การทำงานส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 17-25 ปี ร้อยละ 40.18 รองลงมาคือ 1-8 ปี ร้อยละ 33.64
สรุปผลการวิจัย ประสิทธิภาพการดำเนินงานประกันคุณภาพภายใน สรุปผลการวิจัย ประสิทธิภาพการดำเนินงานประกันคุณภาพภายใน *ผลการวิจัย พบว่า โดยรวมของประสิทธิภาพการดำเนินงานประกันคุณภาพภายใน อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 4.03 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน .73 *เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่าอยู่ในระดับมากทุกข้อ จากทั้งหมด 10 ข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ประเด็นคำถามที่ว่า การจัดบุคลากรรับผิดชอบด้านงานประกันคุณภาพ มีค่าเฉลี่ย 4.21 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน .64 ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ประเด็นคำถามที่ว่า เครื่องมือ อุปกรณ์ สนับสนุนงานประกันคุณภาพเพียงพอ มีค่าเฉลี่ย 3.71 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน .93
สรุปผลการวิจัย ประสิทธิผลการดำเนินงานประกันคุณภาพภายใน สรุปผลการวิจัย ประสิทธิผลการดำเนินงานประกันคุณภาพภายใน *ผลการวิจัย พบว่า โดยรวมของประสิทธิผลการดำเนินงานประกันคุณภาพภายใน อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 3.91 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน .69 *เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่าอยู่ในระดับมากทุกข้อ จากทั้งหมด 10 ข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ประเด็นคำถามที่ว่า วิทยาลัย มีการสรุปและจัดทำรายงานการประเมินตนเอง(SAR)ส่งต้นสังกัด เป็นประจำทุกปี มีค่าเฉลี่ย 4.19 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน .72 ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ประเด็นคำถามที่ว่า วิทยาลัย มีการปรับปรุงแก้ไข จุดอ่อน เพื่อให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด มีค่าเฉลี่ย 3.80 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน .72
สรุปผลการวิจัย ปัจจัยที่สนับสนุนการดำเนินงานประกันคุณภาพภายใน สรุปผลการวิจัย ปัจจัยที่สนับสนุนการดำเนินงานประกันคุณภาพภายใน *ผลการวิจัย พบว่า โดยรวมของปัจจัยที่สนับสนุนการดำเนินงานประกันคุณภาพภายใน อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 3.73 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน .70 * เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่าอยู่ในระดับมากทุกข้อ จากทั้งหมด 10 ข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ประเด็นคำถามที่ว่า วิทยาลัย มีการกำหนดนโยบายด้านการประกันคุณภาพภายในไว้อย่างชัดเจน มีค่าเฉลี่ย 3.94 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน .59 ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ประเด็นคำถามที่ว่า มีบุคลากรในการดำเนินงานประกันคุณภาพอย่างเพียงพอ มีค่าเฉลี่ย 3.52 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน .79
ข้อเสนอแนะ *ควรมีการจัดอบรมให้ความรู้ ให้บุคลากรและครู ได้รับความรู้เกี่ยวกับการประกันคุณภาพภายในอย่างสม่ำเสมอ * ควรศึกษาการประเมินผลการ ดำเนินงานการประกันคุณภาพภายในของทางวิทยาลัย เป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำผลมาปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น