Subject + Verb1 + Completion

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
โดย ครูวาสนา ขีดสร้อย โรงเรียนพิริยาลัยจังหวัดแพร่ อ.เมือง จ.แพร่
Advertisements

การใช้ Past Simple Tense
บทที่ 4 ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
Present Simple Tense สื่อประกอบการเรียนการสอนวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเซนต์หลุยส์ ฉะเชิงเทรา ปีการศึกษา 2553.
Present Simple Tense.
Are you a student ? Yes, I am or No , I’m not .
Do you like hip-hop music?
4.Suwatganee Kamprapan P.6/1 Sirilak Boons wan Teacher
Verb to be : is,am,are Positive ประโยคบอกเล่า โครงสร้าง = ประธานเอกพจน์ + is……… He ,She ,It + is………… He is a man. He is handsome. He is six years old.
Present Simple Tense สื่อประกอบการเรียนการสอนวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนประถมสาธิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ปีการศึกษา 2550 นวัตถกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชานวัตถกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา.
PERFECT TENSE.
ประโยคใดเป็น present simple และประโยคใดเป็น present continuous
ความแตกต่างด้านไวยากรณ์
Question Tag.
ครั้งที่ 2 บทที่ 1 8 มิถุนายน 2553
ครั้งที่ 9 บทที่ 2 25 มิถุนายน 2553
ครั้งที่ 3 บทที่ 1 11 มิถุนายน 2553
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
Wh-Question.
ผู้จัดทำ นางสาวนารี เหลืองแสงรุ้ง
Present Simple Tense วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
BY DR.CHARUK SINPARU.
Question Tag MRS.NITTAYA PROMJAN UDOMDARUNEE SCHOOL.
วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน อ ชั้น ม. 2
Present Simple Tense สื่อประกอบการเรียนการสอนวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนอุดมดรุณี อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ปีการศึกษา 2553.
Welcome to the English Lesson…
ยินดีต้อนรับสู่ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง Auxiliary Verbs.
Present Simple Tense By Aranya Chaichana
Mr.Boonsorn Pratomwong
PAST SIMPLE TENSE.
ประวัติส่วนตัว + วิธีการสอนภาษาอังกฤษ เสนอ อาจารย์ วิราษ ภูมาศรี
Indirect Question without Question Word.
Question Tag Question Tag
Kru Srithong Bovornkosolchit
Question Tag Question Tag ตอนที่2 ครูรุจิรา ทับศรีนวล
Tell me about your family
Question Tag คำถามที่ขึ้นต้นด้วยคำบอกเล่า (จะเป็นข้อความบอกรับหรือปฏิเสธก็ได้) เสียตอนหนึ่งก่อนแล้วตามด้วยกริยาช่วยและสรรพนาม เป็นรูปคำถาม ย่อๆซึ่งเรียกกันว่า.
Helping Auxiliary Verbs.
Question words ครูรุจิรา ทับศรีนวล ครูรุจิรา ทับศรีนวล.
Present Continuous.
 How do we improve the test?  Why do we have to improve the test?
Part of Speech Conjunction.
ครูรุจิรา ทับศรีนวล.
โครงสร้างหลักของประโยคเงื่อนไข จะประกอบไปด้วย
Events can happen in the
Question Tag Question Tag ตอนที่3 ครูรุจิรา ทับศรีนวล
ครูรุจิรา ทับศรีนวล Dates and plans ตอนที่ 4. ครูรุจิรา ทับศรีนวล Dates and plans Dates and plans Dates and plans.
แปลเพลง I’m not the only one (ฉันไม่ใช่คนเดียวของเธอ)
Indirect Question word
Simple Tenses.
ครูรุจิรา ทับศรีนวล Dates and plans Dates and plans ตอนที่ 2.
PASSIVE VOICE.
โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ
Word Search Game Brush your hair Brush your teeth Do homework
TENSE Present Simple Tense ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นจริง เกิดขึ้นเป็นประจำหรือ ปกติวิสัย ความจริงตลอดไป และมักมี adverb of frequency ( คำกริยา วิเศษณ์ที่บอกเวลา.
Present Continuous Tense
Pronoun คือ คำที่ใช้แทนคำนาม แบ่งออกเป็น
Verb to have (have, has)
By T’Sumana Hanlamyuang
D 2 E 1 S E M N G ม. I G I T Grammar A L 4.0.
คำชี้แจง: สื่อการสอนชุดนี้ จะแสดงเมื่อคลิกเมาส์ลงบนสไลด์เท่านั้น ทั้งนี้เพื่อต้องการให้ผู้เรียนสามารถควบคุมการเรียนรู้สื่อด้วยตนเองได้ว่าจะเลือกเรียนหัวข้อเรื่องใด.
Modals-Ability By T’Sumana Hanlamyuang.
Present Simple Tense.
Reported Speech Statements
Direct Speech Vs Indirect Speech
Modals-Certainly (must, can't)
Present Simple Tense.
1 E 1 S E M N G Present Progressive
1 E 1 S E M N G Adverb of frequency
บทที่ 2 การวัด.
ใบสำเนางานนำเสนอ:

Subject + Verb1 + Completion Affirmative Sentence Subject + Verb1 + Completion คำกริยาสำคัญของ tense นี้ คือ คำกริยาช่องที่ 1 ประธานของประโยคเป็นเอกพจน์ คำกริยาต้องเติม s หรือ es ประธานของประโยคเป็นพหูพจน์ คำกริยาไม่ต้องเติม s หรือ es

ตัวอย่างประโยค She teaches mathematics to student. He studies foreign languages at school. My father works in a restaurant. Bob sleeps eight hours a night. Tom and Susan are a husband and a wife. I wash my hair twice a week.

กฎการเติม s หรือ es หลังคำกริยา etc. work - works , live - lives 2.  คำกริยาที่ลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, x, z และ o ให้เติม es etc. go - goes , watch - watches 3.  คำกริยาที่ลงท้ายด้วย y ให้เปลี่ยน y เป็น I แล้วเติม es etc. cry - cries, study - studies

Negative Sentence โครงสร้างประโยคปฏิเสธของ Simple Present Tense จะใช้ do not (don’t) และ does not (doesn’t) มาช่วยกริยาแท้ของประโยค กริยาแท้ที่ตามหลัง do not และ does not จะเป็นกริยาช่องที่ 1 เสมอ ประธานพหูพจน์ + do not + infinitive + ………………       ประธานเอกพจน์ + does not + infinitive + ……………

do not / does not ในภาษาพูดนิยมใช้รูปย่อ ตัวอย่างประโยค Mark does not work on Sunday. Frank does not go out in the evening. They do not watch TV. I do not drink coffee. do not / does not ในภาษาพูดนิยมใช้รูปย่อ (Contraction) แต่ในภาษาเขียนหรือภาษาทางการนิยมใช้รูปเต็ม

Does + ประธานเอกพจน์ + infinitive + ……………? Interrogative Sentence 1. Yes – No Questions โครงสร้างประโยคคำถามของ Simple Present Tense ก็ใช้ do และ does มาช่วยกริยาแท้ของประโยค โดยวางไว้หน้าประธาน Do + ประธานพหูพจน์ + infinitive + ……………? Does + ประธานเอกพจน์ + infinitive + ……………? Rose : Do you play tennis? Tom : No, I don’t. Linda : Does Mark wear glasses? David : Yes, he does.

Wh - Questions ประโยคคำถามประเภทนี้จะขึ้นต้นประโยคด้วยคำแสดงคำถาม เช่น what when where how เป็นต้น การเรียงคำในประโยคคำถามประเภทนี้ Question Word + do + ประธานพหูพจน์ + infinitive + ………? Question Word + does + ประธานเอกพจน์ + infinitive + ……? Who does he stay with? How much does it cost to fly to America? How do Frank and his brother go to work? What do they do? Where does Bob work? When do they go to bed? Why do your parents get up early?

- The earth goes round the sun. การนำไปใช้ 1.ใช้กับเหตุการณ์ที่กระทำซ้ำๆเป็นประเพณีและเป็นนิสัย 2.ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นจริงเสมอ            - He visits his family every weekend. - Ethiopians celebrate Christmas on 7 January. - He goes to bed at 9 o’clock every night. - The earth goes round the sun. - The sun rises in the east and sets in the west. - The sun shines by day; the moon shines by night. 

3.ใช้กับความสามารถ (ability) 4.ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะกับการเดินทางจะมีข้อความบอกอนาคตไว้ชัดเจน He plays the guitar very well. That man speaks English as well as he speaks his own language. - John gets back to the South tonight. - We take the examination next week. - He leaves London next year.

- We can’t begin until he arrives. 5.ใช้แทน Future Tense หลังคำ if, unless, in case ในประโยคเงื่อนไขและคำ when, until, as soon as, before, after - We shall go out when the rain stops. - We can’t begin until he arrives. I've got my tennis things in case we have time for a game tomorrow.

see(พบ), hear(ได้ยิน), feel(รู้สึก), taste(รับรส), smell(ได้กลิ่น) 6.คำกริยาบางคำ เราจะไม่ใช้รูป Present continuous tense ถึงแม้ว่าจะใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นหรือดำเนินอยู่ในปัจจุบันแล้วก็ตาม verb to be – I am late now. ซึ่งแบ่งออกเป็น 6 ชนิดคือ 6.1 กริยาที่บ่งภาวะที่บังคับไม่ได้ ได้แก่ see(พบ), hear(ได้ยิน), feel(รู้สึก), taste(รับรส), smell(ได้กลิ่น)

6.2 กริยาที่แสดงความนึกคิด เช่น 6.3 กริยาที่แสดงความชอบและความไม่ชอบ เช่น forget (ลืม) remember (จำ) notice (สังเกต) realize (ตระหนัก) consider (พิจารณา) believe (เชื่อ) doubt (สงสัย) agree (เห็นด้วย) know (รู้) understand (เข้าใจ) think (คิด) prefer (ชอบ) forgive (ยกโทษ) trust (ไว้ใจ) distrust (ไม่ไว้ใจ) like (ชอบ) dislike (ไม่ชอบ) love (รัก) hate (เกลียด) detest (ชิงชัง)

possess (เป็นเจ้าของ) have (มี) own (เป็นเจ้าของ) belong to (เป็นของ) 6.4 กริยาที่แสดงความปรารถนา เช่น 6.5 กริยาที่แสดงความเป็นเจ้าของ เช่น wish (ปรารถนา) want (ต้องการ) desire (ปรารถนา) possess (เป็นเจ้าของ) have (มี) own (เป็นเจ้าของ) belong to (เป็นของ)

6.6 กริยาเฉพาะบางคำ เช่น be (เป็น อยู่ คือ) appear (ปรากฏ) seem (ดูเหมือน) mean (หมายความว่า) please (พอใจ) displease (ไม่พอใจ) suffice (พอเพียง) consist of(กอปรด้วย) contain (กอปรด้วย) hold (บรรจุ) fit (เหมาะสม คู่ควร) suit (เหมาะสม) differ (แตกต่าง) depend (ขึ้นอยู่กับ) resemble (ดูเหมือน) deserve(สมควรได้รับ) refuse (ปฏิเสธ) result (ส่งผลให้)

Adverb Of Frequency คำแสดงความถี่ ใช้แสดงความถี่ หรือความบ่อยของการกระทำใน Simple Present Tense often(บ่อยๆ) sometimes(บางครั้ง) usually(โดยปกติ) generally(โดยปกติ) normally(โดยปกติ) frequently(บ่อยๆ) rarely(แทบจะไม่เคย นานๆ ครั้ง) always (เสมอๆ) seldom(นานครั้ง) scarcely(แทบจะไม่เคย นานๆ ครั้ง) hardly(แทบจะไม่เคย) never(ไม่เคย) in general(โดยปกติ) now and again, from time to time (บางครั้งบางคราว) occasionally(บางโอกาส) as a rule(ตามกฎ) once a week(สัปดาห์ละครั้ง) once a month(เดือนละครั้ง) twice a week(2 ครั้งต่อสัปดาห์) every day (ทุกวัน) every other day (วันเว้นวัน)   

ตัวอย่างการใช้ I always brush my teeth before I go to bed.         I always brush my teeth before I go to bed. I usually have toast for breakfast. I often go to the park with my dog. I sometimes drinks tea. I rarely smoke cigars. I seldom have a chance to go to the theatre. I never work on the weekend.

The student often talks in class. ตำแหน่งของคำแสดงความถี่ หรือความบ่อย (Adverbs of Frequency)        ตำแหน่งของคำแสดงความถี่ มักจะอยู่ระหว่างประธานและคำกริยาแท้ของประโยค ยกเว้นเมื่อคำกริยาแท้เป็น verb to be จะวางไว้หลัง verb to be เสมอดังรายละเอียดต่อไปนี้ 1. ในประโยคบอกเล่า             ในประโยคบอกเล่าคำแสดงความถี่ หรือความบ่อย จะอยู่หน้ากริยาแท้ Subject + adverbs of frequency + main verb (เมื่อไม่ใช่ verb to be)            The student often talks in class.     Subject + main verb (verb to be) + adverbs of frequency             She is always late for her morning class.            

Subject + do/does not + adverbs of frequency + main verb 2. ในประโยคปฏิเสธ             ในประโยคปฏิเสธตำแหน่งของคำแสดงความถี่ หรือความบ่อย ก็ยังคงยึดหลักเช่นเดียวกับประโยคบอกเล่า คือ ให้วางคำแสดงความถี่ หรือความบ่อยไว้หลังคำแสดงปฏิเสธ (not) Subject + do/does not + adverbs of frequency + main verb             The manager does not often drive his car to work.           Bob is not usually happy at work.

3. ในประโยคคำถาม             ในประโยคคำถามตำแหน่งของคำแสดงความถี่ หรือความบ่อย จะอยู่หลังประธานของประโยค Do/Does + Subject + adverbs of frequency + main verb Verb to be + Subject + adverbs of frequency + …             Do your sons sometimes travel by train?             Does your father usually walk to the office?           Is your brother often late for work?

เกร็ดการใช้ 1. การใช้แบบให้ดูเป็นทางการในการเขียนจดหมายเลือกใช้ 1. การใช้แบบให้ดูเป็นทางการในการเขียนจดหมายเลือกใช้ Present simple เพราะต้องการให้ดูเป็นทางการ • We write to advise you . . . • I look forward to hearing from you. 2. การเล่าเรื่องในการแสดงละคร อาจเห็น Present simple ในบทย่อ บทเล่า ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องผ่านมาหลายร้อยปีแล้วก็ตาม เพราะมีคำจำพวก In Act I (ในละครองค์ที่ 1) จึงเสมือนว่าเป็นจริงตลอดกาลได้ • In Act I, Hamlet meets the ghost of his father.

3. ในการพากย์กีฬาในการพากย์ นิยมใช้ Present simple ทั้งเป็นการสร้างภาพ ให้ดูตื่นเต้นเหมือนเล่าเรื่อง • Smith passes to Dan, Dan to Barnes, Barnes to Lucas - and Harris intercepts . . . Harris to Simms, nice ball - and Simms shoots! 4. ประกาศวิธีใช้การ กับการสาธิตการใช้งานใช้ Present simple กับประกาศวิธีใช้การ การสาธิตการใช้งาน หรือพูดวิธีปฏิบัติ • First I put a lump of butter into a frying pan and light the gas; then while the butter's melting I break three eggs into a bowl, like this . . .

Exam.

1. A carpenter ……….. a lot of tools. a. is b. was c. has d. have

A : ……….. you like to walk ? B : Yes, I walk after school in the park. a. Are b. Do c. Does d. Did

3. A : What color …………. your school bag ? B : It’s black. a. is b. was c. has d. have

4. We ………. to the restaurant once a week. a. went b. are c. to go d. go

5. Dang always ……….. to school by car. a. go b. goes c. going d. went

6. Somchai sometimes ……….. on his table. a. sleeps b. sleep c. is sleeping d. slept

7. We usually …………. by bus. a. travel b. travels c. traveled d. traveling

8. Smith doesn’t …………… English. a. teach b. teaches c. teaching d. taught

9. They …………. twice a week. a.go swimming b.going swimming c.swam d.swiming

10. The students ……. their homework everyday. a. has to b. have to c. has to do d. have to do

11. Mary ……….. have enough money. a. doesn’t b. don’t c. isn’t d. hasn’t

A : ….. the bus stop near the stadium ? B : No, it doesn’t. a. Is b. Are c. Does d. Do

13. Susan ……. a problem with this computer. a. don’t have b. doesn’t have c. don’t has d. doesn’t has

14. What time…… she …. to the office ? a. does, comes back b. does, come back c. do, comes back d. do, come back

15. I …………. like to drive fast. a. am not b. haven’t c. don’t d. doesn’t

16. An actor ……….. in movies. a. star b. to star c. is star d. stars

17. We ……….. action films. a. do like b. don’t like c. doesn’t like d. doesn’t likes

18. A : How ……….. those shoes fit ? B : They ………. too tight. a. do, are b. do, is c. does, are d. does, is

19. A : I have a headache. B : You ……….. a doctor. a. can’t see b. should see c. may see d. shouldn’t see

20. A : Where does Anna live ? B : She …………. in Chicago a. live b. lived c. lives d. is living

21. I ………… play in class room. a. didn’t b. isn’t c. doesn’t d. don’t

22. We ………… sleep in the class room. a. don’t b. doesn’t c. isn’t d. was not

23. Susan ………… come to school by bus. a. does b. don’t c. doesn’t d. isn’t

24. Andy ………… coffee. a. don’t drinks b. doesn’t drinks c. doesn’t drink d. could drink

25. They ………… go to sleep late. a. don’t b. aren’t c. does not d. does

26. Mother ………… buy food everyday. a. isn’t b. don’t c. isn’t d. doesn’t

27. He ………… swim in the river. a. does b. doesn’t c. could d. don’t

28. Malee ………… speak English well. a. do not b. can c. doesn’t d. don’t

29. The doctors ………… grow rice. a did b. don’t c. doesn’t d. aren’t

30. The dog ………… to the market with Kanda. a. don’t go b. doesn’t goes c. don’t goes d. doesn’t go

Reference http://www.board.esanupdate.com/index.php?topic=3106.0

Members Khwanruthai Pohsed No. 1 Kaywalee Inplub No.17 Thunyaporn Pinphoo No.20 Orapan Srichun No.21 Worawut Butrmatra No.25