ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทำวิจัย บทที่ 1 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทำวิจัย BC428 Research in Business Computer
ความหมายของการวิจัย การวิจัย หมายถึง การค้นคว้าเพื่อหาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนตามหลักวิชา R = Recruitment & Efficiency E = Education & Efficiency S = Science & Stimulation E = Evaluation & Environment A = Aim & Attitude R = Result C = Curiosity H = Horizon BC428 Research in Business Computer
การวิจัยคือ... การวิจัยเป็นเรื่องของการศึกษาค้นคว้าเพื่อพิสูจน์หรือหาคำตอบหรือข้อเท็จจริง การวิจัย คือ กระบวนการค้นคว้าหาความรู้ที่เชื่อถือได้ การวิจัย หมายถึง การแสวงหาความรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งด้วยวิธีการเชิงวิชาศาสตร์ การวิจัย คือ การสืบเสาะค้นหาความจริง หรือการค้นหาใหม่ในศาสตร์ของแขนงที่สนใจและที่เกี่ยวข้อง การวิจัย หมายถึง การศึกษาค้นคว้า เพื่อให้ได้มาซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ BC428 Research in Business Computer
ประเภทของงานวิจัย แบ่งตามสาขาวิชา แบ่งตามประโยชน์ของการวิจัย สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ สาขาสังคมศาสตร์ สาขามนุษยศาสตร์ แบ่งตามประโยชน์ของการวิจัย การวิจัยพื้นฐานหรือการวิจัยบริสุทธิ์ การวิจัยประยุกต์ การวิจัยเชิงปฏิบัติการ BC428 Research in Business Computer
แบ่งตามระเบียบวิธีวิจัย การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์ การวิจัยเชิงพรรณนา การวิจัยเชิงทดลอง แบ่งตามลักษณะข้อมูล การวิจัยเชิงปริมาณ การวิจัยเชิงคุณภาพ BC428 Research in Business Computer
ขั้นตอนการวิจัย การกำหนดปัญหาหรือหัวข้อของการวิจัย ที่มาของปัญหาหรือหัวข้อของการวิจัย อาจจะมาจากประสบการณ์หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน 2. กำหนดวัตถุประสงค์ของการวิจัย การเขียนวัตถุประสงค์จะต้องเขียนเป็นประโยคบอกเล่า เช่น เพื่อศึกษา...... เพื่อทราบ....... BC428 Research in Business Computer
3. การทบทวนเอกสารหรือแนวคิด Literature review หมายถึงการศึกษาถึงเอกสาร ผลงานวิจัย หรือแนวคิดต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะค้นข้อมูลต่าง ๆ ได้จากที่ไหน??? 4. การตั้งสมมติฐานการวิจัย คาดคะเนคำตอบของการวิจัยที่จะศึกษาไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะลงมือทำจริง โดยการใช้ความรู้ต่าง ๆ ที่ได้ทำการศึกษาค้นคว้า กำหนดประชากรและกลุ่มตัวอย่าง วิธีการสุ่มตัวอย่างทางสถิติในการเลือกกลุ่มตัวอย่างของการศึกษาแทนประชากร BC428 Research in Business Computer
6. การสร้างเครื่องมือสำหรับเก็บรวบรวมข้อมูล โดยส่วนใหญ่เครื่องมือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ แบบสอบถาม 7. การเก็บรวบรวมข้อมูล ต้องทดลองเก็บข้อมูลก่อน(Pretest หรือ Pilot test) ลงมือเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจริง 8. การวิเคราะห์ข้อมูล - การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา - การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงอนุมาน 9. การสรุปผลการวิจัย เป็นการแสดงคำตอบของคำถามในการวิจัยครั้งนี้ 10. การเขียนรายงานการวิจัย จะมีทั้งหมด 5 บท คือ บทที่ 1 บทนำ บทที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูล บทที่ 2 เอกสารหรือผลงานวิจัย บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ที่เกี่ยวข้อง บทที่ 3 กระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูล BC428 Research in Business Computer
ขั้นตอนการวิจัย กำหนดปัญหา หรือหัวข้อการวิจัย กำหนดวัตถุประสงค์ ทบทวนเอกสารหรือแนวคิด ตั้งสมมติฐาน กำหนดประชากรและกลุ่มตัวอย่าง สร้างเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล เก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล สรุปผลการวิจัย เขียนรายงานการวิจัย BC428 Research in Business Computer
ลักษณะงานวิจัยที่ดี ไม่มีความเอนเอียง มีเครื่องมือและวิธีเก็บข้อมูลที่เที่ยงตรงและเชื่อถือได้ ผู้วิจัยต้องมีความรู้ในเรื่องที่ทำวิจัย งานวิจัยควรมีการเก็บข้อมูลใหม่ มีการบันทึกข้อมูลและเขียนรายงานอย่างถูกต้อง BC428 Research in Business Computer
การเขียน Proposal Research Proposal คือ การกำหนดโครงร่างของงานวิจัยที่จะทำ โดยจะกล่าวถึงภาพรวมของงานวิจัยที่จะทำ BC428 Research in Business Computer
หัวข้อต่าง ๆ ใน Proposal ชื่อโครงการวิจัย ควรตั้งชื่อ ภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ ตั้งชื่อให้ครอบคลุมสิ่งต่าง ๆ ที่จะวิเคราะห์ กำหนดประชากรที่ใช้ให้ชัดเจนในชื่อเรื่อง ชื่อโครงการต้องประกอบด้วย ตัวแปร วัตถุประสงค์หลักของการวิจัย ส่วนขยาย(Context) BC428 Research in Business Computer
ตัวอย่างชื่อ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร การเปรียบเทียบ ทัศนคติต่อการเรียนวิชา BC428 ระหว่างนักศึกษาชายและหญิง BC428 Research in Business Computer
3. ผู้วิจัยหรือคณะผู้ดำเนินการวิจัย 2. ประเภทงานวิจัย 3. ผู้วิจัยหรือคณะผู้ดำเนินการวิจัย 4. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาการวิจัย (กล่าวในบทที่ 2) เกริ่นถึงความเป็นมาของเรื่องที่เลือกทำวิจัย เหตุผลของการเลือกทำเรื่องนี้ (+เหตุผลสนับสนุนอย่างอื่น) ปัญหาของเรื่องที่วิจัยชิ้นนี้(สิ่งที่ผู้ทำวิจัยมีข้อข้องใจหรือสงสัย) 5. วัตถุประสงค์ของการวิจัย คำที่ใช้เช่น เช่น เพื่อศึกษา เพื่อบรรยาย เพื่อสำรวจ เพื่อเปรียบเทียบ เพื่ออธิบาย เพื่อวิเคราะห์ เพื่อประเมิน เป็นต้น เป็นสิ่งที่ช่วยให้สามารถเลือกเทคนิควิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ได้ วัตถุประสงค์ที่ตั้งมีหลายข้อได้ ควรเขียนวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน เพื่อช่วยให้การทำงานทุกขั้นตอนง่ายขึ้น ตั้งแต่การเก็บข้อมูล ตั้งคำถาม และการวิเคราะห์ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ BC428 Research in Business Computer
ควรแยกเป็นข้อ ๆ ตามที่ต้องการวิเคราะห์ เช่น “เรื่อง การสำรวจความพึงพอใจของผู้ป่วยต่อการเข้ารักษาและการให้บริการของโรงพยาบาลกรุงสยาม” ไม่ควรเขียนวัตถุประสงค์ว่าเพื่อศึกษาถึงความพึงพอใจของผู้ป่วยต่อการเข้ารักษาและการให้บริการของโรงพยาบาลกรุงสยาม ควรแยกเป็นข้อ ๆ ตามที่ต้องการวิเคราะห์ เช่น 1. เพื่อศึกษาถึงระดับความพอใจของคนไข้เกี่ยวกับค่ารักษา การบริการ อาหาร เป็นต้น 2. เพื่อศึกษาถึงระดับและคุณภาพของการรักษา และการบริการที่คนไข้คาดหวัง 3. เพื่อค้นหาปัญหาที่คนไข้พบ และหาทางแก้ไข 4. เพื่อศึกษาถึงลักษณะของคนไข้กลุ่มที่มีความพอใจมากที่สุด และลักษณะของคนไข้กลุ่มที่ไม่พึงพอใจมากที่สุด BC428 Research in Business Computer
เพื่อวางกรอบหรือแนวทางของการวิจัยครั้งนี้ให้มีความชัดเจนมากขึ้น 6. ขอบเขตของการวิจัย เพื่อวางกรอบหรือแนวทางของการวิจัยครั้งนี้ให้มีความชัดเจนมากขึ้น 7. สมมติฐานของการวิจัย เป็นการคาดการคำตอบของการวิจัยที่จะเป็นไปได้ในหัวข้อนั้น ๆ 8. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ หมายความว่า สามารถนำผลลัพธ์ที่ได้ไปใช้ทำประโยชน์อะไรได้บ้าง หมายถึงผลที่คาดว่าจะได้รับหลังจากงานวิจัยชิ้นนี้เสร็จ เขียนอธิบายเป็นข้อ ๆ ให้ชัดเจน 9. การทบทวนวรรณกรรม เป็นการศึกษาถึงเอกสารหรืองานวิจัยที่มีความเกี่ยวข้อง BC428 Research in Business Computer
10. กรอบแนวความคิด เป็นแผนภาพที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่าง ๆ ที่ทำการศึกษาในงานวิจัย ตัวอย่างเช่น การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ของนักศึกษา สามารถเขียนกรอบแนวความคิดได้ ดังนี้ เพศ เกรดวิชาคอมพิวเตอร์ อายุ เกรดวิชาคณิตศาสตร์ BC428 Research in Business Computer
อธิบายความหมายของคำศัพท์ต่าง ๆ ที่ใช้ 11. นิยามคำศัพท์ อธิบายความหมายของคำศัพท์ต่าง ๆ ที่ใช้ อธิบาย โดยเปิดพจนานุกรม หรือ อ้างอิงในหนังสือบางเล่มที่เค้าได้กว่าไว้ 12. นิยามปฏิบัติการ อธิบายความหมายของคำศัพท์ ตามการใช้งานจริง โดยไม่จำเป็นต้องอ้างอิงตามพจนานุกรม BC428 Research in Business Computer
13. ระเบียบวิธีวิจัย โดยควรเขียนให้ครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้ 13. ระเบียบวิธีวิจัย โดยควรเขียนให้ครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือแบบสอบถามที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ต้องกำหนดให้ชัดเจนว่าจะสร้างแบบสอบถามมีกี่ส่วน แต่ละส่วน ใช้ทำอะไรบ้าง การเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล BC428 Research in Business Computer
14. ระยะเวลาของการทำวิจัย สร้างเป็น Gant chart เพื่อให้ดูกำหนดการทำงานต่าง ๆได้ง่ายขึ้น ขั้นตอนการดำเนินงาน สัปดาห์ที่ 1 2 3 . 13 14 1. ศึกษาเอกสาร 2. สร้างแบบสอบถาม 3. ทดสอบแบบสอบถามเพื่อหาค่าความตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) และค่าความเชื่อถือได้ (Reliability) 4. การเก็บรวบรวมข้อมูล 5. กระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล 6. สรุปผลการศึกษา 7. เขียนรายงานการวิจัย 8. รายงานผลการศึกษาฉบับสมบูรณ์ BC428 Research in Business Computer
15.รายละเอียดประมาณค่าใช้จ่าย รายละเอียดของค่าใช้จ่ายจะเขียนแยกเป็นหมวดหมู่ดังนี้ หมวดค่าตอบแทน หมวดค่าใช้สอย หมวดค่าวัสดุ BC428 Research in Business Computer
16. บรรณานุกรม ตัวอย่างแบบที่ 1 : ชื่อผู้แต่ง. (ปีที่พิมพ์). ชื่อหนังสือ. สำนักพิมพ์. กัลยา วานิชย์บัญชา.(2540) หลักสถิติ. พิมพ์ครั้งที่5 กรุงเทพ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ตัวอย่างแบบที่ 2 : ชื่อผู้แต่ง. ชื่อหนังสือ. สำนักพิมพ์. ปีที่พิมพ์. กัลยา วานิชย์บัญชา. หลักสถิติ. พิมพ์ครั้งที่5 กรุงเทพ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 2540. ตัวอย่างบรรณานุกรมในเว็บไซต์ : ชื่อผู้แต่ง. ชื่อเรื่อง. วันที่สืบค้น, URL ของเว็บไซต์. กิตติ สิริพัลลภ. การตลาดอิเล็กทรอนิกส์. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2548, จาก http://www.ck2000.net/business-administration.htm BC428 Research in Business Computer
ตัวอย่าง Proposal ภาคผนวก BC428 Research in Business Computer
Case Study จับกลุ่ม ๆ ละ 5 คน เพื่อ คิดหัวข้องานวิจัยที่เกี่ยวกับ IT ประเภทงานวิจัย ผู้วิจัยหรือคณะผู้ดำเนินการวิจัย กำหนดวัตถุประสงค์ กำหนดประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ เครื่องมือวิจัย ระยะเวลาในการทำวิจัย(คร่าว ๆ ภายใน 1 เทอม) เก็บคะแนน ครั้งที่ 1 ให้เวลาทำ 15 นาที (ส่งในคาบเรียน) BC428 Research in Business Computer