English Conversation 1 สนทนาภาษาอังกฤษ 1 โดย Miss Supassorn Chantarung (ครูสุภัสสร จันทรังษ์)
First of all, May I introduce myself ,my name is ...ชื่อ .... Introducing First of all, May I introduce myself ,my name is ...ชื่อ .... อันดับแรก,ขออนุญาต แนะนำตัวเอง ,ดิฉัน/ผม ชื่อ
Introducing Let me introduce myself I’m ………. I would like to introduce myself .My name is…. บอกรายละเอียดของเรา I come from……/I’m from…….. มาจากไหน I work for……………….. ทำงานที่ไหน I’m…………………………. ตำแหน่งอะไร
Introducing แนะนำคนอื่นให้รู้จักกัน I would like to introduce myself .My manager khun …ชื่อคนที่เราแนะนำ…. I would like you to meet khun…ชื่อคนที่เราแนะนำ…. การตอบรับเพื่อมารยาทเมื่อมีคนแนะนำตัวหรือมีคนแนะนำให้รู้จักผู้อื่น Nice to meet you . I’m glad to meet you. Pleased to meet you.
มารู้จักภาษาอังกฤษกัน ภาษาอังกฤษมาจาก 2 ประเทศ ด้วยกัน 1.British English 2. American English colour color = สี Centre center= ศูนย์กลาง Rubber eraser = ยางลบ Toilet restroom= ห้องสุขา
1.British English 2. American English Lift elevator (ลิฟท์) G = ground floor first floor =ชั้น 1 B = basement (ชั้นใต้ดิน) Bill Check = เก็บเงิน May I have a bill ,please? Check,please?
Alphabet พยัญชนะมีทั้งหมด 26 ตัว แบ่งเป็นสระ 5 ตัว คือ a,e,i,o,u A B C D E F G H
Alphabet (ต่อ) I J K L M N O P Q R S
Alphabet(ต่อ) T U V W X Y Z พยัญชนะผสม Ch Kh Ng
Alphabet(ต่อ) ต้น ตาล บ้าน สุรัตน์
การออกเสียงตามหลักเจ้าของภาษา Lemon (เลม’มอน) มะนาว Lime (ไลม์ ) มะนาว(สีเขียว) Salad (แซล’ลัด) สลัด Valentine (แวล’ลันไทน) วาเลนไทน์ สัญลักษณ์’ที่อยู่บนคำอ่านบางพยางค์นั้น หมายถึงให้เน้นเสียงของพยางค์นั้นเป็นพิเศษ หรือที่เรียกกันว่า การเสตรทเสียง Thailand (ไท้’แลนด์) Zero ( เซี้ยโร)
การออกเสียงตามหลักเจ้าของภาษา (ซึ ดึ ทึ ชึ วึ) Find (ไฟด) Point (พอยนท) Give (กิฟว) Brush (บรัช) Have (แฮฟว))
Greeting (การทักทาย) การทักทายแบบสุภาพ เป็นทางการ Good morning ช่วงเช้า 6.00-11.59 Good afternoon ช่วงบ่าย 12.00-17.59 Noon กลางวัน 12.00-12.59 Good evening ช่วงเย็น/ค่ำ 18.00 เป็นต้นไป
Greeting (การทักทาย) ทักทายแบบเป็นกันเอง Hello,Hi,Hey. กล่าวทักทาย ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ How are you? How is life? How are you today? How is your day? How are you going? (คำทักทายของประเทศออสเตรเลีย)
Greeting (การทักทาย) คำทักทายเมื่อเจอกันครั้งแรก How do you do? อีกฝ่ายก็จะตอบกลับมาว่า How do you do? เช่นกัน การตอบการทักทาย I’m find ,thank you. Find thank you ,and you? I’m great , thank you .
การตอบการทักทาย I’m O.k. I’m so so (ก็งั้นๆ ) 50-50 It’s so bad. ( แย่มาก) I’m sick,not well. (ฉันป่วย) I’ve got fever. ( ฉันเป็นไข้) I’ve got a cold ( ฉันเป็นหวัด)
การขอความช่วยเหลือ Could I +สิ่งที่ต้องการขอร้อง,please? Can I +สิ่งที่ต้องการขอร้อง,please? May I +สิ่งที่ต้องการขอร้อง,please? Do you mind if I +สิ่งที่ต้องการขอร้อง? Would you mind if I +สิ่งที่ต้องการขอร้อง?
การขอความช่วยเหลือ Do you mind if I turn up the heater? เร่งฮีทเตอร์ Could I borrow some money from you ,please? ขอยืมเงิน Do you mind if I turn up the heater? เร่งฮีทเตอร์ Would you mind if I turned off the light? ขอปิดไฟ Can I use your computer ,please? ขอยืมใช้คอมพิวเตอร์
การขอความช่วยเหลือ การตอบรับเมื่อมีคนมาขอร้อง ถ้าเราทำได้ให้พูดว่า yes, of course. Sure, no problem. Sure. O.K. ถ้าทำไม่ได้ No ,I’m sorry. Sorry , I can’t do it. I apologize,I can’t.
เวลา (Time) ชาวต่างชาติจะคุ้นเคยกับการนับเวลาแบบ 12 ชั่วโมง โดยใช้การแบ่งเป็นช่วงก่อนเที่ยงและหลังเที่ยง A.M. (อ่านว่า เอเอม) ย่อมาจาก Ante Meridiem แปลว่าก่อนเที่ยง = 24.00-11.59 น. (12.00-11.59 A.M.) P.M. (อ่านว่าพีเอม) ย่อมาจาก Post Meridiem แปลว่าหลังเที่ยง = 12.00-23.59 น. (12.00-11.59 P.M.)
เวลา (Time) (ต่อ) การอ่านเวลา สามารถอ่านได้ 2 แบบ 1.อ่านแยกระหว่างชั่วโมงกับนาที ด้วยจำนวนนับ (เป็นที่นิยม) 4:05 = Four-oh-five 4:10 = Four-ten 2.เป็นการอ่านแบบที่เป็นทางการมาก ครึ่งชั่วโมงแรกจะเป็นการบอกว่ามากี่นาทีแล้ว ส่วนในช่วงครึ่งชั่วโมงหลัง จะเป็นการบอกว่า อีกกี่นาทีจะถึงชั่วโมงใหม่ ในนาทีที่ 15 และ 45 จะใช้คำว่า Quarter (ควอร์เทอร์) ส่วนนาทีที่ 30 ใช้คำว่า Half (ฮาล์ฟ)
เวลา (Time) (ต่อ) 1 2 4:00 = Four o’clock Four o’clock 1 2 4:00 = Four o’clock Four o’clock 4:05 = Four-oh-five five after four 4:10 = Four-ten ten after four 4:15 = Four –fifteen A quarter after Four 4:20 = Four-twenty twenty after four 4:30 = four thirty Half past four
เวลา (Time) (ต่อ) 4:35 = four thirty-five Twenty-five to five 4:40 = four forty Twenty to five 4:45 = four forty –five A quarter to five 4:50 = four fifty Ten to five 4:55 = four fifty-five five to five
Number จำนวนนับ ( cardinals) ตัวเลขประเภทนี้ใช้ในการนับ เพื่อบอกจำนวน ปริมาณ หรือขนาด ลำดับ ( Ordinal ) ตัวเลขประเภทนี้ใช้ในการบอกลำดับ เช่นสอบได้ที่ 1 1 = one first 1st 2 = two second 2nd 3 = three third 3rd 4 = four fourth 4th 5 = five fifth 5th
การนำตัวเลขแบบลำดับมาใช้ต้องมี The นำหน้า เช่น The thirty-first Number 12 = twelve twelfth 12th 20 = twenty twentieth 20th 30 = thirty thirtieth 30th 21 = twenty-one twenty-first 21st การนำตัวเลขแบบลำดับมาใช้ต้องมี The นำหน้า เช่น The thirty-first
Number การอ่านปี พ.ศ.-ค.ศ. จะใช้จำนวนนับ แบ่งอ่านทีละคู่ 1985 nineteen eighty-five ===ถ้าเลขคู่หลังมีเลข 0 ให้อ่านว่า oh (โอ) ===ส่วนปีที่ลงท้ายด้วย 00,000,หรือ ค.ศ. 2000จะอ่านแบบปกติก็ได้ 1800 =eighteen hundred 2013 = two thousand and thirteen 1908 = nineteen oh eight == ถ้าเกิดวันที่ 22 มกราคม 1940 ดังนี้ The twenty-second of January ,nineteen forty.
Number หลักร้อย Hundred หลักพัน thousand หลักล้าน million หลักพันล้าน Billion จะใช้ and เชื่อมหลักสิบและหลักหน่วย
Number 99 = ninety-nine 999 =nine hundred and ninety-nine 9,999 =nine thousand nine hundred and ninety-nine 99,999 = ninety-nine thousand nine hundred and ninety-nine 999,999 = nine hundred and ninety-nine thousand nine hundred and ninety-nine 9,999,999 =nine million nine hundred and ninety-nine thousand nine hundred and ninety-nine
Test ให้น.ศ. เขียนวัน เดือน ปี เกิดของท่าน = จงเขียนเวลาต่อไปนี้แบบเป็นทางการ 3:06 = 2:45 = 7:59 = 6:15 = 8:30 =
Test จงเขียนเลขต่อไปนี้แบบจำนวนนับ 88 = 888= 8,888 = 88,888= 888,888= 8,888,888, =