กฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมวัตถุอันตรายทางการเกษตร สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร
สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เป็นปัจจัยหนึ่งของการผลิต ป้องกันความสูญเสียของผลผลิตจากการทำลายของศัตรูพืช ยับยั้งการระบาดของศัตรูพืชได้ทันท่วงที แรงงานขาดแคลน ค่าใช้จ่ายต่ำ สะดวกสบาย กำจัดศัตรูพืชได้หลายชนิด ขาดวิธีการกำจัดที่ดีกว่า
ปัญหา ยาปลอม ชื่อการค้ามาก เกษตรกรสับสน การใช้ที่ไม่ถูกต้องตามฉลาก หรือคำแนะนำ แมลงดื้อยา การนำเข้าเพิ่มมากขึ้นทุกปี พิษตกค้างในผลผลิต สิ่งแวดล้อม การโฆษณา การส่งเสริมการขาย
ปัญหาสารเคมีเกษตรผิดกฎหมาย เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลาช้านานและทวีความรุนแรงขึ้น ลักษณะความผิดปกติ คือ เป็นสารด้อยคุณภาพ ปลอมปน ปลอมแปลง หรือถูกห้ามขาย เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายในท้องถิ่น พบมากในกลุ่มสารกำจัดวัชพืชชนิดละลายน้ำ เช่น พาราควอต ไกลโฟเซต และชนิดผง เช่น อาทราซีน ใช้ราคาจำหน่ายต่ำกว่าปกติเป็นเครื่องจูงใจ รวมทั้งการแจกแถม ประเมินขนาดธุรกิจสารเคมีผิดกฎหมายสูงถึง 2,400 ล้านบาท
การแก้ไข แก้ไขกฎหมาย และประกาศต่างๆ นโยบายลดการใช้สาร (ลดการนำเข้า ใช้สารธรรมชาติ ใช้ตัวห้ำตัวเบียน) ตรวจสอบผู้ประกอบการ (ผู้นำเข้า ผู้ผลิต ร้านค้า)
พ. ร. บ. วัตถุอันตราย พ. ศ. ๒๕๓๕ และ พ. ร. บ พ.ร.บ. วัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ และ พ.ร.บ. วัตถุอันตราย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑
บุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์หรือ สิ่งแวดล้อม วัตถุประสงค์ 1. เพื่อคุ้มครอง ป้องกันอันตรายที่เกิดกับ บุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์หรือ สิ่งแวดล้อม 2. เพื่อคุ้มครองเกษตรกร 3. ควบคุมผู้ประกอบการ
คำนิยามตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 วัตถุอันตรายแบ่งได้ 10 ชนิด ดังนี้ 1. วัตถุระเบิดได้ 2. วัตถุไวไฟ 3. วัตถุออกซิไดซ์และวัตถุเปอร์ ออกไซด์ 4. วัตถุมีพิษ
5. วัตถุที่ทำให้เกิดโรค 6. วัตถุกัมมันตรังสี 7 5. วัตถุที่ทำให้เกิดโรค 6. วัตถุกัมมันตรังสี 7. วัตถุที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม 8. วัตถุกัดกร่อน 9. วัตถุที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง 10. วัตถุอย่างอื่นไม่ว่าจะเป็นเคมีภัณฑ์หรือสิ่งอื่นใด ที่อาจทำให้เกิดอันตรายแก่บุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์ และสิ่งแวดล้อม
กระทรวงที่รับผิดชอบในการควบคุมวัตถุอันตราย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพลังงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยงานในกระทรวงเกษตรฯ ที่รับผิดชอบในการควบคุมวัตถุอันตราย กรมวิชาการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์
วัตถุอันตรายทางการเกษตร สารกำจัดแมลง สารกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรคพืช สารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช สารกำจัดไร สารกำจัดหนู สารกำจัดหอย
วัตถุอันตรายแบ่งออกเป็น 4 ชนิด วัตถุอันตรายชนิดที่ 1 ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ทางราชการกำหนด วัตถุอันตรายชนิดที่ 2 ต้องขอขึ้นทะเบียน แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบก่อนการประกอบกิจการ วัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ต้องขออนุญาตก่อนการประกอบกิจการ วัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ห้ามประกอบกิจการ ผลิต นำเข้า ส่งออก และมีไว้ในครอบครอง
มาตรการที่ใช้ควบคุมวัตถุอันตราย ทางการเกษตร กำหนดให้มีการขึ้นทะเบียน เพื่อเลือกใช้วัตถุอันตรายที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย กำหนดให้มีการขอนุญาตประกอบกิจการ เพื่อเป็นการควบคุมการผลิต การนำเข้า การส่งออก และการมีไว้ในครอบครอง การควบคุมหลังจากการได้รับการขึ้นทะเบียนและอนุญาตแล้ว ได้แก่การควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และการดำเนินคดีต่อผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย
การขึ้นทะเบียน
พรบ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 พรบ.วัตถุอันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2551 ไม่กำหนดอายุทะเบียน พรบ.วัตถุอันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2551 กำหนดอายุทะเบียน 6 ปี ให้ทะเบียนเก่าที่เคยได้ตั้งแต่ปี 2535 ใช้ต่อได้อีก 3 ปี (22 สิงหาคม 2554)
เอกสารที่ใช้ประกอบการพิจารณา ขึ้นทะเบียน ผลการทดลองประสิทธิภาพ ของพืชและศัตรูพืชที่จะระบุให้ใช้ในฉลาก ผลการทดลองพิษตกค้าง เพื่อหาระยะเก็บเกี่ยวหลังการใช้ครั้งสุดท้ายตามวิธีการใช้ที่ระบุในฉลาก ข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นพิษ (TOX) ของสารเข้มข้น และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ต้องได้มาจากห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GLP ตามมาตรฐาน OECD ผลวิเคราะห์
การขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายมี 3 ขั้นตอน การทดลองเบื้องต้น เพื่อทราบประสิทธิภาพ ข้อมูลพิษเฉียบพลัน และพิษตกค้าง การทดลองใช้ชั่วคราว เพื่อสาธิตการใช้ และทราบข้อมูลพิษระยะปานกลาง พิษเรื้อรัง การประเมินผลขั้นสุดท้ายเพื่อรับขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย โดยการประเมินผลการทดลองและข้อมูลต่างๆ เพื่อทราบประสิทธิภาพ ความปลอดภัยต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งพิษเรื้อรังระยะยาว 2 ปี ต่อสัตว์ทดลอง
ฉลากวัตถุอันตราย
อ่านฉลากก่อนใช้ และปฏิบัติตามคำแนะนำในฉลาก และปฎิบัติตามคำ แนะนำในฉลาก อ่านฉลากก่อนใช้ และปฏิบัติตามคำแนะนำในฉลาก 22
ความสำคัญของฉลาก บอกเกี่ยวกับคุณประโยชน์และวิธีใช้ ผลกระทบจากการใช้ ช่วยลดอันตรายต่อผู้ใช้
ตามประกาศกระทรวงเกษตรฯ กำหนดให้ วัตถุอันตรายที่ขายหรือจำหน่าย ต้องมี ฉลากขนาดที่เหมาะสมกับภาชนะบรรจุ ปิดหรือพิมพ์ไว้ที่ภาชนะบรรจุ ข้อความต้องเป็นภาษาไทย
1. สารชนิดใด 2. ชื่อการค้า 3. ชื่อสารสามัญ 4. เลขทะเบียน 5. ขนาดบรรจุ 6. แถบสี
7. ประโยชน์ วิธีการใช้ 8. คำเตือน 9. การเก็บรักษา 10. การเกิดพิษ 11. การแก้พิษ 12. วันที่ผลิต 13. ผู้ผลิต จำหน่าย นำเข้า
การจำแนกระดับความเป็นพิษของวัตถุอันตราย [WHO] ค่าความเป็นพิษเฉียบพลัน (LD 50) สำหรับหนู ทางปาก ทางผิวหนัง ของแข็ง ของเหลว 1 เอ พิษร้ายแรงมาก 5 หรือน้อยกว่า 20 หรือน้อยกว่า 10 หรือน้อยกว่า 40 หรือน้อยกว่า 1 บี พิษร้ายแรง มากกว่า 5 ถึง 50 มากกว่า 20 ถึง 200 มากกว่า 10 ถึง 100 มากกว่า 40 ถึง 400 2 พิษปานกลาง มากกว่า 50 ถึง 500 มากกว่า 200 ถึง 2000 มากกว่า 100 ถึง 1000 มากกว่า 400 ถึง 4000 3 พิษน้อย มากกว่า 500 มากกว่า 2000 มากกว่า 1000 มากกว่า 4000
การอนุญาตวัตถุอันตราย เพื่อควบคุมธุรกิจและผู้ประกอบการ การผลิต การนำเข้า การส่งออก การมีไว้ในครอบครอง
ผู้ที่จะขายวัตถุอันตรายทางการเกษตร จะต้องผ่านการอบรมความรู้ด้านวัตถุอันตรายจากกรมวิชาการเกษตร ผู้ที่ผ่านการอบรมแล้วจะต้องเข้ารับการอบรม ทุกๆ 5 ปี
ใบอนุญาตมีอายุ 1 ปี ขายโดยไม่มีใบอนุญาต จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข้อปฏิบัติของผู้ประกอบกิจการ ไม่ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตราย ดังต่อไปนี้ (1) วัตถุอันตรายปลอม (2) วัตถุอันตรายผิดมาตรฐาน (3) วัตถุอันตรายเสื่อมคุณภาพ (4) วัตถุอันตรายที่ต้องขึ้นทะเบียน (5) วัตถุอันตรายที่ถูกสั่งเพิกถอนทะเบียน
ข้อปฏิบัติของผู้ประกอบกิจการ (6) ไม่ประกอบกิจการเกี่ยวกับวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 (7) ต้องขออนุญาตประกอบกิจการ (8) ต้องแสดงใบอนุญาตไว้ในที่เปิดเผย (9) ต้องต่ออายุใบอนุญาตก่อนสิ้นอายุ
การควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ ภายหลังจากขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาต เพื่อให้การประกอบธุรกิจวัตถุอันตรายถูกต้องตามกฎหมาย ตรวจสอบ ควบคุมฉลาก และภาชนะบรรจุผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามที่ขึ้นทะเบียน สุ่มเก็บตัวอย่างวัตถุอันตราย เพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ นำเข้า โรงงานผลิต สถานที่จำหน่าย
สารเคมีผิดกฎหมาย
จำนวนผู้ประกอบการ ผู้นำเข้า 236 ราย ผู้ผลิต 90 ราย ผู้ขายส่ง 543 ราย ผู้นำเข้า 236 ราย ผู้ผลิต 90 ราย ผู้ขายส่ง 543 ราย ผู้ขายปลีก 15,822 ราย
การนำเข้าวัตถุอันตราย พ.ศ. ปริมาณ (ตัน) มูลค่า (ล้านบาท) 2551 109,907 19,181 2552 118,151 16,815 2553 117,659 17,902 2554 164,383 22,043 2555 (มค.-กย.) 114,045 16,263
วัตถุอันตรายที่มีการนำเข้าสูงสุด (พ.ศ. 2554) ปริมาณสารออกฤทธิ์ (ตัน) มูลค่า (ล้านบาท) glyphosate isopropylammonium 26,262 2,820 paraquat dichloride 14,142 2,417 2,4-D dimethyl ammonium 4,079 359 ametryn 3,740 651 2,4-D sodium salt 3,597 353 butachlor 3,363 399 atrazine 2,710 321 chlorpyrifos 2,705 524 diuron 1,836 372 mancozeb 1,475 177
กลุ่มควบคุมวัตถุอันตราย สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร 02 579 7988