การประชุมเชิงปฏิบัติการ “เงินวิทยฐานะของบุคลากรทางการศึกษา สังกัด กระทรวงกลาโหม” วันที่ ๑๒ พ.ค.๕๙ ณ หอประชุมพิบูลสงคราม กองวิทยฐานะทหาร กองบัญชาการ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ
คุณสมบัติผู้ขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการต้นและ ชำนาญการ กวท.บก.สปท. คุณสมบัติผู้ขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการต้นและ ชำนาญการ ๑. มีหนังสือรับรองมาตรฐานการเป็นผู้สอนของ กห. ออกโดย ยศ.เหล่าทัพ/สปท. หรือ มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
หนังสือรับรองมาตรฐานการเป็นผู้สอนของ กห. กวท.บก.สปท. หนังสือรับรองมาตรฐานการเป็นผู้สอนของ กห. ครูทหาร ครูสายสามัญ/วิชาชีพ กำหนดมาตรฐานให้ชัดเจน สัมมนา เดือน ก.ค. มาตรฐานความรู้และ ประสบการณ์วิชาชีพ มาตรฐานการปฏิบัติตน มาตรฐานการปฏิบัติงาน
สัมมนาร่วม ยศ.เหล่าทัพและสปท หลักสูตร ข้าราชการทหารที่ทำหน้าที่สอน (ครูทหาร) มาตรฐานความรู้ บรรจุก่อน แก้ไข พรบ. บรรจุหลัง แก้ไข พรบ. มาตรฐานการปฏิบัติงาน (คุรุสภา ๑๒มาตรฐาน) การประเมินการสอน
คุณสมบัติผู้ขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการต้นและ ชำนาญการ กวท.บก.สปท. คุณสมบัติผู้ขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการต้นและ ชำนาญการ ๒. มีระยะเวลาทำการสอนและระยะเวลารับราชการ นับถึงวันที่ยื่นคำขอไม่ต่ำกว่าที่กำหนด ดังนี้
มีระยะเวลาทำการสอนหรือเป็นผู้ช่วยสอน กวท.บก.สปท. ครูชำนาญการต้น มีระยะเวลาทำการสอนหรือเป็นผู้ช่วยสอน มาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี หรือดำรงตำแหน่งอื่น ที่คณะอนุกรรมการบริหารข้าราชการทหาร ที่ทำหน้าที่สอนใน กห. เทียบเท่าและ ต้องมีระยะเวลารับราชการไม่น้อยกว่า ๘ ปี
ระยะเวลาทำการสอน (ปี) ระยะเวลารับราชการ (ปี) กวท.บก.สปท. ครูชำนาญการ(ครูทหาร) วุฒิการศึกษา ระยะเวลาทำการสอน (ปี) ระยะเวลารับราชการ (ปี) หลักสูตรทั่วไป ๔ ๘ รร.จปร. , รร.นรอ. , รร.นร. , ป.โท หรือเทียบเท่า ๒ ๖ รร.สธ. หรือ ป.เอก ๑
สำหรับผู้ดำรงตำแหน่งอื่น ให้เป็นไปตามที่กห.กำหนด กวท.บก.สปท. สำหรับผู้มีประสบการณ์ในการปฏิบัติราชการที่ตรงตามความต้องการของหน่วยงานด้านการศึกษาให้นับระยะเวลาตั้งแต่ปฏิบัติงานในหน้าที่ที่ใช้ประสบการณ์นั้น ไม่น้อยกว่า ๔ ปี และทำการสอนมาแล้ว ไม่น้อยกว่า ๑ ปี และมีอายุราชการรวมไม่น้อยกว่า ๖ ปี ทั้งนี้ให้เป็นไปตามที่ กห.กำหนด สำหรับผู้ดำรงตำแหน่งอื่น ให้เป็นไปตามที่กห.กำหนด
ระยะเวลาทำการสอน(ปี) ระยะเวลารับราชการ(ปี) กวท.บก.สปท. ชำนาญการ(ครูสายสามัญ/วิชาชีพ) วุฒิการศึกษา ระยะเวลาทำการสอน(ปี) ระยะเวลารับราชการ(ปี) ต่ำกว่า ป.ตรี ๘ ป.ตรี ๖ ป.โท ๔ ป.เอก ๒ สำหรับผู้ดำรงตำแหน่งอื่น ให้เป็นไปตามที่ กห.กำหนด
คุณสมบัติผู้ขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการต้นและชำนาญการ กวท.บก.สปท. คุณสมบัติผู้ขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการต้นและชำนาญการ ๓. มีภาระงานสอนไม่ต่ำกว่าภาระงานขั้นต่ำ ตามที่ กห. กำหนด ภาระงานสอน - ชั่วโมงสอน การฝึกศึกษา และการอบรม - ภาระงานที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดการเรียน การสอน - ภาระงานการพัฒนาสถานศึกษา/ หน่วยงาน
จำนวนชั่วโมงภาระงานสอนขั้นต่ำ ระดับการศึกษา/ประเภท จำนวนชั่วโมงการสอน การฝึกศึกษา และ การอบรม (ข้อ ๑.๑) จำนวนชั่วโมงภาระงานสอนขั้นต่ำ (ข้อ ๑.๑ และ ๑.๒) หรือ (ข้อ ๑.๑ และ ๑.๓) หรือ (ข้อ ๑.๑ , ๑.๒ และ ๑.๓) ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เช่น รร.ตท.สปท. ไม่ต่ำกว่า ๑๐ ชั่วโมง/สัปดาห์ ไม่ต่ำกว่า ๑๘ ชั่วโมง/สัปดาห์ ระดับต่ำกว่าปริญญาตรี เช่น รร.ผท.ทหาร , รร.ชท.สปท., รร.นส.ทบ., รร.ชุมพลฯ, รร.ดย.ฯ, รร.จอ.ฯ ไม่ต่ำกว่า ๘ ชั่วโมง/สัปดาห์ ไม่ต่ำกว่า ๑๔ ชั่วโมง/สัปดาห์ ระดับปริญญาตรีขึ้นไป เช่น รร.เหล่าทัพ, วพ.เหล่าทัพ ไม่ต่ำกว่า ๖ ชั่วโมง/สัปดาห์ ไม่ต่ำกว่า ๑๒ ชั่วโมง/สัปดาห์ หลักสูตรฝึกอบรมฯ ต่าง ๆ เช่น หลักสูตรเหล่าสายวิทยาการ /หลักสูตรตามแนวทางรับราชการ /หลักสูตรเพิ่มพูนความรู้การปฏิบัติงานเฉพาะหน้าที่/หลักสูตร ที่มีความยากลำบาก/เสี่ยงภัย ไม่ต่ำกว่า ๒๐๐ ชั่วโมง/ปี ไม่ต่ำกว่า ๕๐๐ ชั่วโมง/ปี
คุณสมบัติผู้ขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการต้นและชำนาญการ กวท.บก.สปท. คุณสมบัติผู้ขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการต้นและชำนาญการ ๔. ปฏิบัติงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบด้านการเรียนการสอน และการพัฒนาผู้เรียนย้อนหลังโดยนับถึงวันที่ยื่นคำขอ ตามที่กำหนด วิทยฐานะ จำนวนปี ชำนาญการต้น ๑ ชำนาญการ(ครูทหาร) ชำนาญการ(ครูสายสามัญ/วิชาชีพ) ๒
การขอรับการประเมิน ยื่นได้ตลอดปี ปีละ๑ ครั้ง ยื่นได้ตลอดปี ปีละ๑ ครั้ง ยื่นคำขอ+ผลการปฏิบัติงานด้านที่ ๓ จำนวน ๔ ชุดต่อ ผบช.โดยตรง ตรวจสอบ รับรอง เสนอตามลำดับชั้นถึง ยศ.เหล่าทัพ/สปท. ผู้เกษียณอายุยื่นถึง ยศ.เหล่าทัพ/สปท. ไม่น้อยกว่า ๖ เดือนก่อนเกษียณ
ยศ.เหล่าทัพ/สปท. ตรวจสอบคุณสมบัติและหลักฐาน เสนอพิจารณา ตั้งคณะกรรมการ (ประเมิน ๓ ด้าน พร้อมกัน) จำนวน ๓ ท่าน หัวหน้าสถานศึกษา/ผู้แทน ผู้ทรงคุณวุฒิ ข้าราชการครู/ทหาร ที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าระดับที่ขอรับการประเมิน และมีความรู้ ความสามารถสอดคล้องกับความรับผิดชอบของผู้ประเมิน ตั้ง ประธาน และดำเนินการภายใน ๓ เดือน
ด้านที่ ๑ ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ กวท.บก.สปท. ด้านที่ ๑ ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ ข้าราชการทหารที่ทำหน้าที่สอน พิจารณาจาก ส่วนที่ ๑ ประวัติการรับราชการ ส่วนที่ ๒ คำรับรองของผู้บังคับบัญชา ส่วนที่ ๓ เอกสารหลักฐานที่แสดงการมีส่วนร่วม ในการเสริมสร้างวินัย คุณธรรมจริยธรรม และจรรยาบรรณข้าราชการทหารที่ทำหน้าที่สอน
ด้านที่ ๒ ด้านความรู้ความสามารถ กวท.บก.สปท. ด้านที่ ๒ ด้านความรู้ความสามารถ พิจารณาจากการพัฒนางานในหน้าที่และการพัฒนาตนเอง ดังนี้ ส่วนที่ ๑ การเป็นผู้มีความสามารถในการจัดการเรียนการสอน พิจารณาจาก - จัดทำหลักสูตร - แผนการจัดการเรียนรู้/การสอน/การฝึก - สื่อ/นวัตกรรม - แฟ้มสะสมผลงาน
- การศึกษา ค้นคว้าหาความรู้ ด้วยวิธีการต่าง ๆ ส่วนที่ ๒ การพัฒนาตนเองเพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะ ในสาขาหรือกลุ่มสาระที่รับผิดชอบหรือในงานที่ รับผิดชอบ พิจารณาจาก - การศึกษา ค้นคว้าหาความรู้ ด้วยวิธีการต่าง ๆ - ผลการทดสอบความรู้จากหน่วยงานหรือสถาบันวิชาการ - การประมวลความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาวิชาการและ วิชาชีพ - การนำความรู้ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน - การให้บริการทางวิชาการและวิชาชีพ - การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางวิชาการ
ด้านที่ ๓ ด้านผลการปฏิบัติงาน กวท.บก.สปท. ด้านที่ ๓ ด้านผลการปฏิบัติงาน พิจารณาจาก ผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ได้แก่ - ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน - รายงานการสังเคราะห์ผลการแก้ปัญหา และพัฒนาผู้เรียน - ผลการประเมินและหรือการทดสอบของวิชาที่สอน - ผลการพัฒนาผู้เรียนด้านอื่น ๆ โดยคำนึงถึงปริมาณ คุณภาพ และสภาพของงานด้วย
เกณฑ์การตัดสิน การประเมินด้านที่ ๑ และด้านที่ ๒ ต้องได้คะแนนเฉลี่ยจากกรรมการ ทั้ง ๓ คน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๕๕ ในระดับชำนาญการต้น ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๖๕ ในระดับชำนาญการ การประเมินด้านที่ ๓ ต้องได้คะแนนจากกรรมการแต่ละคน ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการบันทึกข้อสังเกตเกี่ยวกับจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาในเรื่องที่ประเมินของผู้ขอรับการประเมินไว้ด้วย
การพิจารณาอนุมัติผลการประเมิน กวท.บก.สปท. การพิจารณาอนุมัติผลการประเมิน แบ่งเป็น ๓ กรณี กรณีผลการประเมินทั้ง ๓ ด้านผ่านเกณฑ์ ยศ. เหล่าทัพ/สปท. เป็นผู้อนุมัติ มีผลไม่ก่อนวันที่ ยศ.เหล่าทัพ/สปท.ได้รับคำขอและเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์ กรณีที่มีการพัฒนาไม่ว่าด้านใดก็ตาม ให้อนุมัติได้ ไม่ก่อนวันที่ ยศ.เหล่าทัพ/สปท. รับหนังสือที่ส่งรายละเอียด ในการพัฒนาครบถ้วนสมบูรณ์ครั้งล่าสุด
๒. กรณีผลการประเมินด้านใดไม่ผ่านเกณฑ์ และคณะกรรมการ มีความเห็นว่า ผลการประเมินอยู่ในวิสัยที่สามารถพัฒนา ให้ผ่านเกณฑ์ได้ ให้คณะกรรมการประเมินแจ้ง ยศ.เหล่าทัพ/สปท. เพื่อแจ้ง สถานศึกษาภายในเวลา ๑๕ วัน นับแต่วันที่คณะกรรมการ ประเมินเสร็จ ให้ผู้ขอรับการประเมินพัฒนาตามข้อสังเกตของหรือ ข้อเสนอแนะของกรรมการ ภายในเวลา ๓ เดือน นับแต่วันที่ได้รับ เมื่อผู้ขอรับการประเมินได้พัฒนาด้านที่แล้ว ให้สถานศึกษาส่ง หนังสือแจ้งรายละเอียดที่พัฒนาถึง ยศ.เหล่าทัพ/สปท. เพื่อเสนอ คณะกรรมการชุดเดิมตรวจและประเมินต่อไป และให้ผู้ขอรับการ ประเมินพัฒนาได้ไม่เกิน ๒ ครั้ง ครั้งละไม่เกิน ๓ เดือน
กรณีที่กรรมการประเมินคนเดิมไม่สามารถประเมินได้ ด้วยเหตุผลใดก็ตาม ให้ ยศ.เหล่าทัพ/สปท. ตั้งกรรมการแทนได้ ตามที่กำหนดไว้ กรณีผู้ขอรับการประเมินไม่ส่งรายละเอียดการพัฒนา ตามข้อสังเกต ภายในเวลาที่กำหนด หรือส่งเกินเวลาที่กำหนด โดยไม่มีเหตุอันควร ถือว่าสละสิทธิ์ กรณีผู้ขอรับการประเมินได้พัฒนาแล้ว แต่มีผลการ ประเมินไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด ถือว่าไม่ผ่านการประเมิน ให้เสนอ ยศ.เหล่าทัพ/สปท. พิจารณาไม่อนุมัติ และให้ ยศ.เหล่าทัพ/สปท.แจ้งผลการพิจารณาให้สถานศึกษา เพื่อแจ้งผู้ขอรับการประเมินทราบ
๓. กรณีผลการประเมินไม่ผ่านเกณฑ์ ยศ.เหล่าทัพ/สปท. พิจารณาไม่อนุมัติ และให้ ยศ.เหล่าทัพ/สปท.แจ้งผลการพิจารณาให้สถานศึกษา เพื่อแจ้งผู้ขอรับการประเมินทราบ เมื่อ ยศ.เหล่าทัพ/สปท. พิจารณาผลการประเมินและมีมติ เป็นประการใดแล้วให้ถือเป็นอันสิ้นสุด
การแต่งตั้งให้มีวิทยฐานะครูชำนาญการ กวท.บก.สปท. การแต่งตั้งให้มีวิทยฐานะครูชำนาญการ ๑ . การแต่งตั้งเพื่อเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูชำนาญการ ไม่จำกัดชั้นยศ ๒ . กรณีที่ ยศ.เหล่าทัพ/สปท. อนุมัติให้ผู้มีอำนาจตามที่กำหนด สั่งแต่งตั้งให้มีวิทยฐานะครูชำนาญการแล้ว ให้ได้รับเงิน วิทยฐานะตามเกณฑ์ที่กำหนด และส่งสำเนาคำสั่ง จำนวน ๑ ชุด เสนอให้ กขท.ทราบภายใน ๗ วัน นับแต่วันออกคำสั่ง
ให้ดำเนินการประเมินให้แล้วเสร็จ ภายในรอบระยะเวลา ๑ ปี นับแต่วันที่ ยศ.เหล่าทัพ/สปท. ได้รับคำขอและเอกสาร ผลการปฏิบัติงาน (ด้านที่ ๓) หากดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ให้ ยศ.เหล่าทัพ/สปท. เพื่อแจ้งผู้ขอรับการประเมินทราบ และเร่งรัดการดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
จบการนำเสนอ ค่ะ