การพัฒนาศักยภาพและภาวะการเป็นผู้นำ โดย นางอุไร อิ่นอ้อย นางอุไร อิ่นอ้อย หัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จังหวัดบุรีรัมย์
การครองตน : การพัฒนาตนเอง - การแสวงหาความรู้ เพื่อใช้ในการดำรงชีวิต - การเสริมสร้างทักษะการใช้ชีวิต - หลักธรรม : พรหมวิหาร 4 เมตตา มีความรักใคร่ เมตตา เอื้ออาทรและปรารถนาที่จะให้ผู้อื่น มีความสุข กรุณา มีความสงสาร เมื่อเห็นผู้อื่นตกทุกข์ได้ยากหรือได้รับความ เดือดร้อน คิดจะช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ตามศักยภาพและขีดความสามารถที่มีอยู่ มุทิตา มีความยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี ชื่นชมและแสดงความยินดี อย่างจริงใจ อุเบกขา มีใจเป็นกลาง วางเฉย รับฟังผู้อื่น ยุติธรรม ไม่มีอคติ
- หลักฆราวาสธรรม ได้แก่ สัจจะ ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ทุจริตให้เป็นที่เสื่อมเสีย ธมะ รู้จักข่มใจต่อความโลภ ความโกรธ ความหลง ขันติ มีความอดทน หนักแน่นไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหา จาคะ รู้จักการให้ ทั้งการให้โดยส่วนตัว การบำรุงพุทธศาสนา และช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส
การครองคน - ครอบครัว - ผู้นำกลุ่ม ผู้นำกิจกรรม ในระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด - สร้างศรัทธา - หลักธรรม : สังคหวัตถุ 4 ทาน การให้ด้วยความจริงใจ ความไว้วางใจ ความรัก ความปรารถนาดี มีการเสียสละให้กันและกัน ปิยวาจา พูดจาปราศรัยด้วยความอ่อนน้อม รู้จักกาลเทศะ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี อัตถาจริยา การประพฤติตนให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง และส่วนรวมช่วยเหลือกันในการทำงาน สมานัตตา การวางตนให้เสมอต้นเสมอปลาย ไม่เย่อหยิ่ง มีสัมมาคารวะ
- งานส่วนรวม ประโยชน์ประชาชน - หลักธรรม : อิทธิบาท 4 การครองงาน - งานอาชีพส่วนตน - ความเสียสละ - งานส่วนรวม ประโยชน์ประชาชน - หลักธรรม : อิทธิบาท 4 ฉันทะ มีความพอใจในงานที่ทำและงานที่ได้รับมอบหมาย วิริยะ ขยันหมั่นเพียรเพื่อให้งานสำเร็จตามวัตถุประสงค์ จิตตะ มีความตั้งใจ ใส่ใจ รับผิดชอบงานที่กระทำ วิมังสา ปฏิบัติงานด้วยความรอบคอบ คิดและวางแผนปฏิบัติเพื่อผลงานที่ดี มีประสิทธิภาพ
สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี (สกส.) กรมการพัฒนาชุมชน สวัสดี สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี (สกส.) กรมการพัฒนาชุมชน