ประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง กำหนดชนิดและอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณปริมาณสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2558 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 27 กรกฎาคม 2558
สรุปสาระสำคัญ 1. ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เป็นต้นไป 2. ให้ยกเลิก (1) ประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง กำหนดชนิดและอัตราการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558 (2) ประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง กำหนดชนิดและอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณปริมาณสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2556 (3) ประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดชนิดและอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการคำนวณปริมาณสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2558
การนำไปปฏิบัติและสิ่งที่ต้องตรวจสอบ 1. การคำนวณปริมาณน้ำมันสำเร็จรูป ที่ใช้สำรอง - ปริมาณการค้าประจำปี หักด้วย (1) ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่จำหน่ายให้แก่ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 รายอื่น (2) ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่ส่งออกไปจำหน่ายนอกราชอาณาจักร (3) ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่จำหน่ายเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีหรืออุตสาหกรรมอื่น ๆ 2. ปริมาณน้ำมันดิบที่นำมาคำนวณปริมาณสำรองให้คำนวณจากสมการ
การนำไปปฏิบัติและสิ่งที่ต้องตรวจสอบ 3. ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 จะเก็บสำรองน้ำมันดิบในแต่ละวันไว้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของปริมาณที่มีหน้าที่ต้องสำรองก็ได้ แต่ทั้งนี้เมื่อคำนวณปริมาณที่เก็บสำรองเฉลี่ยในแต่ละเดือนต้องไม่น้อยกว่าอัตราที่กำหนดในข้อ 5 4. ผู้ค้าน้ำมันต้องเก็บสำรองน้ำมันสำเร็จรูปเพื่อจำหน่าย ตามปริมาณที่คำนวณได้ในแต่ละวัน โดยไม่รวมถึงปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่ไม่สามารถสูบถ่ายได้ (Dead Stock)
การนำไปปฏิบัติและสิ่งที่ต้องตรวจสอบ 5. การสำรองน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงกลั่นน้ำมันในราชอาณาจักร และจำหน่าย จ่ายโอน จากเขตปลอดอากรสำหรับการประกอบอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม เกี่ยวกับปิโตรเลียมหรือปิโตรเคมีที่เป็นของเหลว ตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร ให้ใช้อัตราสำรองของน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตในราชอาณาจักร 6. ในกรณีเป็นน้ำมันสำเร็จรูปที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร และจำหน่าย จ่าย โอน จากเขตปลอดอากรดังกล่าวตามวรรคหนึ่งเข้ามาในราชอาณาจักร ให้ใช้อัตราสำรองน้ำมันสำเร็จรูปที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร
การนำไปปฏิบัติและสิ่งที่ต้องตรวจสอบ 7. ผู้ค้าน้ำมันสามารถเลือกเก็บสำรองน้ำมันสำเร็จรูปแทนน้ำมันดิบที่มีหน้าที่ต้องสำรองได้ในอัตราส่วนแทนกัน 1 ต่อ 1 ของร้อยละ 20 ของปริมาณน้ำมันดิบที่มีหน้าที่ต้องสำรองตามกฎหมาย 8. ให้ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ยื่นขอความเห็นชอบต่ออธิบดีก่อนการเก็บสำรองแทนกันตามวรรคหนึ่งและให้ปฏิบัติดังนี้ (1) ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับ ชนิด ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูป ระยะเวลา หมายเลขถัง และคลังน้ำมันที่จะใช้เก็บ ทั้งนี้ ถังเก็บน้ำมันและคลังน้ำมันดังกล่าวจะต้องเป็นสถานที่ที่ได้รับความเห็นชอบให้ใช้เป็นสถานที่เก็บสำรองน้ำมันสำเร็จรูปด้วย (2) รายงานปริมาณคงเหลือของน้ำมันสำเร็จรูปที่เก็บแทนกัน เสมือนเป็นน้ำมันดิบที่ต้องสำรองตามแบบแจ้งปริมาณและสถานที่เก็บน้ำมันสำรองตามกฎหมายคงเหลือรายวัน (นพ. 210)
จบการนำเสนอ