งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วม ของนักศึกษาแกนนำชมรมคนรักสุขภาพ

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วม ของนักศึกษาแกนนำชมรมคนรักสุขภาพ"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วม ของนักศึกษาแกนนำชมรมคนรักสุขภาพ
วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่ โดย.. นางสาวเบญจภรณ์ บุญธรรม วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เชียงใหม่ Free Powerpoint Templates

2 ปัญหาการวิจัย สำหรับชมรมแกนนำคนรักสุขภาพ วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนาเชียงใหม่เริ่มจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2545 โดยนักศึกษามีที่ความสนใจสามารถสมัครเป็นสมาชิก ตั้งแต่การเริ่มจัดตั้งชมรมจนถึงปัจจุบันมีจำนวนทั้งหมด 10 รุ่น ซึ่งจะเปิดรับนักศึกษาสมัครเข้าร่วมชมรมตอนเปิดภาคเรียนที่1ของทุกปีการศึกษา จะมีนักศึกษามาสมัครไม่ต่ำกว่าร้อยละประมาณ 1.97 ของนักศึกษาทั้งหมด (ฝ่ายทะเบียนและวัดผล วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนาเชียงใหม่,2555)

3 งานสร้างเสริมสุขภาพได้จัดกิจกรรมขึ้นเพื่อให้นักศึกษาได้มีการรวมกลุ่มและพัฒนาศักยภาพของตนเอง มีการสร้างภาวะการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี มีคุณธรรม มีจิตอาสาและรักงานบริการ อีกทั้งยังสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข ผู้ศึกษาจึงสนใจศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วม ระดับและรูปแบบการมีส่วนร่วมของนักศึกษาแกนนำเพื่อพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมภายในและภายนอกวิทยาลัยเทคโนโลยีของนักศึกษาแกนนำชมรมคนรักสุขภาพให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีความยั่งยืนต่อไป

4 วัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของนักศึกษาแกนนำชมรมคนรักสุขภาพ วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนาเชียงใหม่ 2) เพื่อศึกษาระดับและรูปแบบการมีส่วนร่วมของนักศึกษาแกนนำชมรมคนรักสุขภาพ ในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา

5 ในกิจกรรมที่ผ่านมาของนักศึกษาแกนนำชมรมคนรักสุขภาพ
ระดับการมีส่วนร่วม ในกิจกรรมที่ผ่านมาของนักศึกษาแกนนำชมรมคนรักสุขภาพ กิจกรรม SD ระดับ การมีส่วนร่วม การจัดประชุม ก่อนและหลังการทำกิจกรรม 3.29 0.92 ปานกลาง 2. วัยใสรักษ์สุขภาพ 3.79 0.90 มาก 3. ปฐมพยาบาลเบื้องต้น 3.57 0.87 4. ค่ายพัฒนาคุณธรรมและสุขภาวะฯ 3.67 0.78 5. วันเอดส์โลก 3.39 0.95 6. ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส 3.30 0.98

6 ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม ของนักศึกษาแกนนำชมรมคนรักสุขภาพ
SD ระดับ การมีส่วนร่วม ปัจจัยภายในที่มีผลต่อระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรม - สนใจอยากรู้ อยากเห็นว่า กิจกรรมเป็นอย่างไร 4.69 0.76 มากที่สุด - สนใจในประโยชน์ที่จะได้รับ จากการจัดกิจกรรมต่าง ๆ 4.51 0.66 ปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรม -เพื่อนๆในกลุ่มแกนนำชมรมคนรักสุขภาพ 0.62 -กิจกรรม ประชุม อบรม เข้าค่ายให้ความรู้ 4.63 0.49

7 สรุปผลการวิจัย 1.ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม พบว่า
ปัจจัยภายใน ส่วนใหญ่แล้วเยาวชนต้องการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อยากพัฒนาชมรมแกนแกนนำคนรักสุขภาพให้มีความเข้มแข็ง ต้องการเป็นที่ยอมรับทั้งในกลุ่มนักศึกษาแกนนำชมรมคนรักสุขภาพและในวิทยาลัยฯ เกิดความภาคภูมิใจจากการได้คิดแผนงานและกิจกรรม และลงมือปฏิบัติด้วยตนเองและงาน มีความสุข สนุกสนาน เมื่อได้ทำกิจกรรม

8 สรุปผลการวิจัย ปัจจัยภายนอก การเข้ามาร่วมกิจกรรมเป็นเพราะเพื่อนชวนได้เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น การได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภายในวิทยาลัยเทคโนโลยี และกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ศึกษาจากการเข้าค่ายกิจกรรมภายนอกวิทยาลัย มีผลต่อการเข้าร่วมกิจกรรมมาก หลังจากได้มีการทำกิจกรรมและมีการรณรงค์ในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้นักศึกษา มีการป้องกันตนเองมากขึ้น กล้าที่จะพูด กล้าที่จะซักถาม กล้าที่จะปรึกษา ทั้งอาการและการรักษา จากอาจารย์และเพื่อนนักศึกษาแกนนำฯ ด้วยกัน ในการดูแลรักษาและป้องกันตนเองอย่างเปิดเผยมากขึ้น และนำความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่ให้กับบุคคลอื่นต่อไป

9 สรุปผลการวิจัย 2.ระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทั้ง 6 กิจกรรม พบว่า อยู่ในระดับมากและปานกลาง และรูปแบบของการมีส่วนร่วมนั้น เริ่มตั้งแต่การมีส่วนร่วมค้นหาปัญหา และวิเคราะห์ปัญหา การมีส่วนร่วมหาแนวทางแก้ไข การจัดทำแผนงาน โครงการและกิจกรรม การมีส่วนร่วมในการดำเนินงานบริหารจัดการโครงการ ทำกิจกรรม การมีส่วนร่วมรับผลประโยชน์จากผลการดำเนินงาน และการมีส่วนร่วมในการประเมินผล ทั้งในระหว่างการดำเนินงานและหลังเสร็จสิ้นการดำเนินงาน

10 กิจกรรมวัยใสรักษ์สุขภาพ กิจกรรมประชุมก่อนและหลังการดำเนินกิจกรรม
กิจกรรมช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส กิจกรรมค่ายพัฒนาคุณธรรมและสุขภาวะฯ กิจกรรมปฐมพยาบาลเบื้องต้น กิจกรรมวันเอดส์โลก


ดาวน์โหลด ppt ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วม ของนักศึกษาแกนนำชมรมคนรักสุขภาพ

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google