สรุปสถานการณ์การ ระบาดเพลี้ยแป้ง ระหว่างวันที่ สิงหาคม 2554
รายงานสถานการณ์การ ระบาด 46 จังหวัด รายงานสถานการณ์การ ระบาด 46 จังหวัด 11 14,740 พบพื้นที่การระบาด 11 จังหวัด รวม 14,740 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 0.14 ของ พื้นที่ปลูกมันสำปะหลังยืน ต้นทั้งประเทศ (10,414,051 ไร่ ) โดยมี พื้นที่ระบาดเพิ่มขึ้น 1,007 ไร่หรือร้อยละ 7.33 เมื่อเปรียบเทียบกับ พื้นที่ระบาดสัปดาห์ที่ผ่าน มา (13,733 ไร่ ) 11 14,740 พบพื้นที่การระบาด 11 จังหวัด รวม 14,740 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 0.14 ของ พื้นที่ปลูกมันสำปะหลังยืน ต้นทั้งประเทศ (10,414,051 ไร่ ) โดยมี พื้นที่ระบาดเพิ่มขึ้น 1,007 ไร่หรือร้อยละ 7.33 เมื่อเปรียบเทียบกับ พื้นที่ระบาดสัปดาห์ที่ผ่าน มา (13,733 ไร่ ) ได้แก่ จันทบุรี ฉะเชิงเทรา และสุพรรณบุรี จังหวัดที่พบการ ระบาด เพิ่มขึ้น ได้แก่ จันทบุรี ฉะเชิงเทรา และสุพรรณบุรี จังหวัดที่พบการ ระบาด ลดลง ได้แก่ ขอนแก่น กาญจนบุรี และมหาสารคาม พื้นที่ระบาดจำแนก ตามอายุ มันปะ หลัง 1 – 4 เดือน 7,649 ไร่ 1 – 4 เดือน 7,649 ไร่ มากว่า 4 – 8 เดือน 6,293 ไร่ มากว่า 4 – 8 เดือน 6,293 ไร่ มากกว่า 8 เดือน 798 ไร่ มากกว่า 8 เดือน 798 ไร่ จังหวัดที่พบการ ระบาด คงที่ ได้แก่ พิษณุโลก สระบุรี ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ และ สกลนคร
ปัจจัยที่มีผลทำให้การ ระบาดเพิ่มขึ้น ในบางพื้นที่มีการปลูกมัน สำปะหลังใหม่ แต่เกษตรกรไม่ได้ทำการ แช่ท่อนพันธุ์ มันสำปะหลังด้วยสารเคมี ก่อนปลูก
ปัจจัยที่มีผลทำให้การ ระบาดลดลง 2. ในพื้นที่ที่มีฝนตกต่อเนื่อง สภาพ อากาศความชื้นสูง เป็นสภาพไม่ เหมาะกับการขยายพันธุ์และการ แพร่กระจายของเพลี้ยแป้ง ทำให้พื้นที่ การระบาดของเพลี้ยแป้งลดลง 1. ผลจากการปล่อยแมลงช้างปีกใส และแตนเบียน Anagyrus lopezi อย่างต่อเนื่องและศัตรูธรรมชาติทั้ง สองชนิด สามารถทำลายเพลี้ยแป้งจึง ทำให้ปริมาณเพลี้ยแป้งลดลง
ผลการ ดำเนินงานที่ ผ่านมา ผลการ ดำเนินงานที่ ผ่านมา การ คาดการณ์ - เนื่องจากสภาพอากาศ สัปดาห์ที่ผ่านมาและอีก ๗ วันข้างหน้า ยังคงมีฝน ตกต่อเนื่อง มันสำปะหลังแตกยอดใหม่เจริญเติบโตได้ดี และปริมาณของ เพลี้ยแป้งสีชมพูลดลง เป็นผลดีต่อเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังแต่ให้ เกษตรกรมีการเฝ้าระวังต่อไปอย่างต่อเนื่อง สำหรับเพลี้ยแป้งสีเขียวและ เพลี้ยแป้งแจ๊คเบียส อาจมีปริมาณเพิ่มขึ้น ส่วนในพื้นที่แห้งแล้ง ฝนไม่ตก การระบาดของเพลี้ยแป้งสีชมพูจะยังคงมีอยู่ ดังนั้นขอให้เกษตรกรเฝ้าระวัง การระบาด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยมีการระบาด และดำเนินการควบคุมทันที เมื่อพบเพลี้ยแป้ง 1. การปล่อยแตนเบียนของหน่วยงานราชการและเอกชน จาก วันที่ 1 ก. พ. 53 – 24 ส. ค. 54 รวมปล่อยทั้งหมด 6,009,234 คู่ ควบคุมพื้นที่ระบาด 120, ไร่ กรมส่งเสริมการเกษตร 3,512,702 คู่ สถาบันพัฒนามันสำปะหลัง 1,334,300 คู่ กรมวิชาการเกษตร 396,385 คู่ โรงแป้ง มันฯ 10 บริษัท 765,847 คู่ 2. การปล่อยแมลงช้างปีกใส ของกรมส่งเสริมการเกษตร รวม การปล่อยสะสมถึง วันที่ 24 ส. ค จำนวน 2,670,921 ตัว ควบคุมพื้นที่ระบาด 26, ไร่ ผลการปล่อย จากการติดตามประเมินผลในพื้นที่หลังการ ปล่อย 1 เดือน พบปริมาณเพลี้ยแป้งในพื้นที่ปล่อยลดลง และพบปริมาณไข่แมลงช้างปีกใสในธรรมชาติเพิ่มขึ้น
แผนการเฝ้าระวัง - ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนสำรวจติดตามติดตาม สถานการณ์อย่างต่อเนื่อง สัปดาห์ละ 1 ครั้งจากแปลงติดตาม สถานการณ์ แผนการเตือนภัย - - เมื่อสำรวจพบเพลี้ยฯมีแนวโน้มการระบาดให้ประกาศเตือน ภัยทางหอกระจายข่าวและวิทยุท้องถิ่น เพื่อให้เกษตรกรเฝ้า ระวังอย่างใกล้ชิด แนวทางการควบคุมเพลี้ยแป้งด้วยวิธีผสมผสาน แนวทางการควบคุมเพลี้ยแป้งด้วยวิธีผสมผสาน (1) หลีกเลี่ยงช่วงเวลาปลูกที่เหมาะสมกับการเข้าทำลายของเพลี้ยแป้ง โดย แนะนำให้ปลูกมันสำปะหลังช่วงต้นฤดูฝน ไม่ควรปลูกในช่วงปลายฝน เพราะ ต้นมันสำปะหลังที่ปลูกใหม่อายุ 1 -4 เดือน หากมีสภาพอากาศแห้งแล้งจะ อ่อนแอและถูกเข้าทำลายได้ง่าย (2) กรณีแปลงที่มีการระบาดรุนแรง ไถเก็บซากพืชไปเผาทำลาย และพักดิน ตัดวงจรการระบาดของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังโดยการปลูกพืชอื่นทดแทน (3) ใช้พันธุ์จากแหล่งเชื่อถือได้ ไม่มีเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังติดกับมาท่อน พันธุ์ (4) ไถตากดินหรือไถระเบิดดินดาน ตากทิ้งไว้อย่างน้อย 14 วัน (5) แช่ท่อนพันธุ์ด้วยสารเคมีก่อนปลูก (6) สำรวจเพลี้ยแป้งทุกสัปดาห์ (7) หากพบเพลี้ยแป้งต้องรีบกำจัดและแจ้งเจ้าหน้าที่ (8) ควบคุมเพลี้ยแป้งโดยการปล่อยแมลงช้างปีกใสและแตนเบียน