การเขียนโครงร่างวิจัย อ วิไล อุดมพิทยาสรรพ์
การเขียนโครงร่างการวิจัย เพื่อตอบคำถาม 3 คำถามคือ ทำไปทำไม( Why) จะทำอะไร (What) และจะทำอย่างไร (How)
องค์ประกอบของโครงร่างการวิจัย องค์ประกอบของโครงร่างการวิจัย จะมีแบบต่างกันตามแหล่งทุนต่างๆ โดยทั่วไปมีหัวข้อที่คล้ายกัน
การเขียนเพื่อตอบคำถาม Why (ทำไปทำไม) มีความจำเป็น มีคุณค่าและมีประโยชน์ ต้องแสดงให้เห็นว่าผู้วิจัยมีความรู้พื้นฐานและเข้าใจปัญหาที่กำลังจะศึกษาอย่างถ่องแท้ สามารถเชื่อมโยงเข้าสู่กรอบแนวความคิดของการวิจัย ระบุได้ว่ามีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ มีที่ใดบ้าง และการศึกษานี้จะมีส่วนช่วยเพิ่มคุณค่าได้อย่างไร หัวข้อที่ใช้การเขียนเพื่อตอบคำถามว่าทำไปทำไมของแหล่งทุนต่างๆ เช่น Introduction , Background of the study
การเขียนเพื่อตอบคำถาม What (จะทำอะไร) คือวัตถุประสงค์ของงานวิจัย ผู้วิจัยต้องกำหนดให้ชัดเจน เฉพาะเจาะจงว่าจะทำอะไร บอกสิ่งที่จะทำทั้งขอบเขตและคำตอบที่คาดว่าจะได้รับ การตั้งวัตถุประสงค์ต้องให้สมเหตุสมผลกับทรัพยากรที่เสนอขอและเวลาในการปฏิบัติงาน และต้อง
การเขียนเพื่อตอบคำถาม How (จะทำอย่างไร) กรอบแนวความคิดในการวิจัย ( Conceptual framework ) เขียนเป็นแผนภูมิ กรอบแนวคิดที่ดี จะช่วยให้ผู้อ่านทราบว่า ในงานวิจัยต้องเก็บข้อมูลอะไรบ้าง และข้อมูลมีความเชื่อมโยงและสัมพันธ์กันอย่างไร รูปแบบการวิจัย (Research design) ที่จะใช้ ต้องเลือกให้เหมาะสมกับคำถามและวัตถุประสงค์ สถิติ (Statistics) ที่ใช้
องค์ประกอบของโครงร่างการวิจัย 1 ชื่อโครงการ หรือชื่อเรื่อง (The Title) ชื่อเรื่องเป็นส่วนดึงดูดความสนใจจุดแรกของโครงร่างการวิจัย โดยทั่วไปชื่อหัวข้อจะทำให้ทราบประเภทของการวิจัย ตัวแปรที่ศึกษา โดยเฉพาะตัวแปรตามและประชากรของงานวิจัย
องค์ประกอบของโครงร่างการวิจัย 2 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา เขียนให้เห็นสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ควรมีข้อมูลสถิติสนับสนุน ผลกระทบของปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดขึ้น ความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องศึกษาวิจัย ประโยชน์ที่จะนำไปใช้ เชื่อมโยงกันในแต่ละย่อหน้า เขียนให้สอดคล้องกับชื่อเรื่องที่จะทำวิจัย เขียนให้ครอบคลุมตัวแปรที่ศึกษา
3.คำถามการวิจัย (Research question) เขียนในรูปประโยคคำถาม อาจมีคำถามหลายข้อก็ได้
4. วัตถุประสงค์การวิจัย เขียนในรูปประโยคบอกเล่า สอดคล้องกับคำถามการวิจัย
5. สมมติฐานการวิจัย ควรเขียนให้สอดคล้องกับปัญหาการวิจัย และวัตถุประสงค์ สมมติฐาน เป็นการคาดคะเน (Predict) หรือการทายคำตอบของปัญหาอย่างมีเหตุผล มักเขียนในลักษณะการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระ (Independent variables) และตัวแปรตาม (Dependent variables) งานวิจัยบางอย่างไม่จำเป็นต้องมีสมมติฐาน
6. ข้อตกลงเบื้องต้น (Assumption) เป็นการระบุเงื่อนไขบางประการเพื่อตกลงกับผู้อ่าน 7. คำนิยามศัพท์เฉพาะหรือคำจำกัดความที่ใช้ในการวิจัย ควรเขียนนิยามศัพท์ที่สอดคล้องกับชื่อเรื่องหรือตัวแปรที่ศึกษา
8. กรอบแนวคิดการวิจัย (Conceptual research) หมายถึง ความคิดรวบยอดที่ได้จากการทบทวนทฤษฎีวรรณกรรม โดยกรอบแนวคิดจะต้องแสดงให้เห็นความสัมพันธ์หรือความสัมพันธ์ของตัวแปร ที่ผู้วิจัยสนใจศึกษา
9. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ควรเขียนให้เห็นว่า ผลการวิจัยจะนำไปใช้ประโยชน์กับใคร อย่างไร 10. เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
11. วิธีดำเนินการวิจัย (บทที่ 3) - ประชากร - กลุ่มตัวอย่าง - เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ระบุเครื่องมือที่ใช้มีอะไรบ้าง เป็นเครื่องมือของใคร เกณฑ์การให้คะแนน การตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือทำอย่างไร
การดำเนินการทดลอง (ในกรณีเป็นการวิจัยแบบทดลองหรือกึ่งทดลอง) การรวบรวมข้อมูล ระบุขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างโดยสรุป รวมถึงการพิทักษ์สิทธิของกลุ่มตัวอย่าง การวิเคราะห์ข้อมูล ให้ระบุสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ควรเขียนระบุเป็นข้อๆ ให้เรียงให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การวิจัย
12. การพิทักษ์สิทธิกลุ่มตัวอย่างว่าทำอย่างไรบ้าง และมีแบบฟอร์มในการให้ข้อมูลกลุ่มตัวอย่างเพื่อตัดสินใจในการเข้าร่วมงานวิจัย
13. ระยะเวลาวิจัย 14. แผนการดำเนินงานวิจัยตลอดโครงการ 15 13. ระยะเวลาวิจัย 14. แผนการดำเนินงานวิจัยตลอดโครงการ 15. งบประมาณวิจัย 16. การเขียนอ้างอิงหรือบรรณานุกรมตามข้อกำหนดของแหล่งทุน