Principles of Environmental Law หลักการของกฎหมายสิ่งแวดล้อม 3 Principles of Environmental Law
วิวัฒนาการของกฎหมายที่ใช้ในการจัดการสิ่งแวดล้อม (ทบทวน) อิทธิพลของหลักกฎหมายสิ่งแวดล้อมสากล เริ่มจากการไม่มีกฎหมายที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมโดยตรง ใช้หลักกฎหมายละเมิดและหลักกฎหมายเรื่องเดือดร้อนรำคาญ (nuisance)เข้ามาแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ปัญหาเรื่องภาระการพิสูจน์/ความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำและผล สร้างหลักกฎหมายเรื่องความรับผิดเด็ดขาดของผู้ประกอบการ สร้างกฎหมายในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การคุ้มครองสวัสดิภาพอนามัยและกฎหมายในการแก้ปัญหามลพิษ (ในยุคทศวรรษที่ 60) 3 Principles of Environmental Law
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม สภาพสิ่งแวดล้อม – มลพิษ การจัดการทรัพยากร การจัดการพื้นที่คุ้มครอง เช่น การจัดการพื้นที่ป่า และ การจัดการพื้นทีลุ่มน้ำ การจัดการเมือง ผังเมือง ควบคุมการใช้ที่ดิน สุขภาพอนามัย วัตถุอันตราย, อาหารและยา, การใช้สารเคมี 3 Principles of Environmental Law
โครงสร้างของระบบกฎหมาย มีกฎหมายมากมาย/กระจัดกระจาย กฎหมายว่าด้วยการจัดการทรัพยากร – ที่ดิน, น้ำ กฎหมายกำหนดการจัดการทรัพยสิน - ที่ดิน กฎหมายละเมิดและความรับผิดของผู้ประกอบการ กฎหมายเกี่ยวกับการผลิตในระบบพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม – โรงงาน ขนส่ง การค้า ผังเมือง กฎหมายป่าไม้ – อุทยาน, การให้สัมปทานป่าไม้ กฎหมายว่าด้วยการอนุรักษ์สัตว์ป่าสัตว์น้ำ พันธุ์พืช กฎหมายคุ้มครองสิ่งแวดล้อม 3 Principles of Environmental Law
การจัดการทรัพยากรและระบบการผลิตในสังคม Exclusion กีดกันได้ Non-exclusion ไม่สามารถกีดกันได้ Rival แย่งกันบริโภค Private goods: food, cars, clothes Common goods (Common-pool resources): fish in the river/sea, trees in the forest, underground water Non-rival ไม่กระทบการบริโภคของผู้อื่น (โดยทั่วไป/ในระดับหนึ่ง) Toll goods or Club goods: parks, movies, music, telephone, cable TV Public goods: air quality, national defense, broadcasting, ecosystem 3 Principles of Environmental Law
3 Principles of Environmental Law จากตารางข้างต้น ทรัพยากรธรรมชาติ ถือเป็นสินค้าประเภทใดในสังคม? ที่ดิน? แหล่งน้ำ? อากาศ? สัตว์ป่า สัตว์น้ำ? ต้นไม้? ป่าไม้? ระบบนิเวศน์? ปัญหาโศกนาฎกรรมกับของสาธารณะ Tragedy of the Commons Externalities & free riders 3 Principles of Environmental Law
โศกนาฏกรรมของ ของสาธารณะ Maximum benefit? Jeremy Bentham “The greatest good for the greatest number” มนุษย์ต่างกอบโกย เพื่อประโยชน์สูงสุดของตนเอง การทำกำไรสูงสุดของผู้ประกอบการ การดูแลของส่วนรวม เป็นภาระของทุกคนในสังคม การผลักภาระของต้นทุนการผลิตให้แก่สังคม โดยที่ตัวเองไม่ได้ร่วมในการดูแล บำรุงรักษาต้นทุน/ของส่วนรวมนั้น เช่น น้ำ อากาศ ที่ดินและทรัพยากร เสรีภาพในการเจริญพันธุ์ของมนุษย์ ก่อปัญหาประชากรล้นโลก และยังเป็นประชากรที่โลภมากอีก! 3 Principles of Environmental Law
3 Principles of Environmental Law การจัดการของส่วนรวม การโต้แย้งว่าคนเห็นแก่ตัว กับผู้ที่มีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากร แนวคิดว่าทรัพยากรธรรมชาติ ต้องมีการจัดการ การกำหนดว่าต้องมีการคำนวณต้นทุนที่แท้จริงของการผลิต การร่วมรับผิดชอบของผู้ใช้ จะจัดการกับ free rider เราจะจัดการกับ “คนกินแรงเพื่อน” อย่างไร? ไม่มีใครที่รู้แล้วจะฆ่าห่านทองคำของตัวเอง เพื่อเอาไข่ในท้องหรอก! วิธีการในการจัดการควรเป็นอย่างไร? ใครควรมีอำนาจในการจัดการ? 3 Principles of Environmental Law
3 Principles of Environmental Law สรุป - ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ควรมีการจัดการ ปัญหาคือ ใครมีอำนาจในการจัดการนี้? และจะจัดการอย่างไร? การจัดระบบโควต้า ใบอนุญาตเรือประมง การห้ามจับสัตว์ในฤดูวางไข่ การอนุญาตให้เฉพาะคนในชุมชนในการใช้ประโยชน์ การกำหนดการปล่อยของเสีย ตัวอย่าง การนิรโทษกรรมเรือประมงอวนลาก! การนำมาตรการทางเศรษฐกิจเข้ามาเป็นเครื่องมือในการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (หรือมาตรการกีดกันทางการค้า) เช่น เรื่องการอนุรักษ์เต่าทะเลกับการส่งออกกุ้งไทย มาตรฐานของอาหารส่งออกไปยุโรป การขึ้นบัญชีประเทศที่ละเมิดCITES การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยต้องคำนึงถึงเรื่องเศรษฐกิจของคนในชุมชนเข้ามาเป็นข้อพิจารณา การใช้ประโยชน์ในทรัพยากรเชิงอนุรักษ์ เช่น ecotourism 3 Principles of Environmental Law
กฎหมายในการจัดการสิ่งแวดล้อม อย่างกว้าง กฎหมายในการจัดการทรัพยกร กฎหมายในการจัดการผลิต เช่น พรบ.โรงงาน กฎหมายในการจัดการพื้นที่ เช่น พรบ.ผังเมือง กฎหมายในการจัดการพลังงาน เช่น พรบ.รักษาอนุรักษ์พลังงาน กฎหมายในการคุ้มครองสุขภาพ เช่น พรบ.สาธารณสุข พรบ.คุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ พรบ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พรบ.อาหารและยา กฎหมายในการจัดการเฉพาะ เช่น พรบ.วัตถุอันตราย กฎหมายเกี่ยวกับการจัดการของเสียมีพิษ การใช้สารเคมี กฎหมายกระจายอำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 3 Principles of Environmental Law
จากการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมสู่กฎหมายภายใน Silent Spring by Rachel Carson (September 1962) DDT ban (1972) Cuyahoga River Clean Water Act 1969 Santa Barbara Oil Spill 1969 by Union Oil (10 วัน รั่วถึง 100,000 barrels) National Environmental Policy Act (NAPA) President’s Council on Environmental Quality (CEQ) Environmental Assessments กำหนดบทบาทเฉพาะในฝ่ายบริหาร 3 Principles of Environmental Law
กฎหมายเพื่อคุ้มครองสิ่งแวดล้อม การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากกรณีกฎหมายภายใน เช่น การเรีมต้นจากสหรัฐอเมริกามี กฎหมายว่าด้วยนโยบายสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 1969, กฎหมายว่าด้วยคุณภาพอากาศ 1970, กฎหมายว่าด้วยคุณภาพน้ำ 1972 และกฎหมายว่าด้วยสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ 1973 การผ่านกฎหมายจากรัฐสภา ทั้งพรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล การหาสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการพัฒนา สิทธิในการพัฒนาของประเทศโลกที่สาม การพิสูจน์ถึงวิกฤตสิ่งแวดล้อม – Technocentric vs. Anthropocentric vs. Ecocentric ! 3 Principles of Environmental Law
กฎหมายเพื่อคุ้มครองสิ่งแวดล้อม การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากกรณีกฎหมายภายใน เช่น การเรีมต้นจากสหรัฐอเมริกามี กฎหมายว่าด้วยนโยบายสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 1969, กฎหมายว่าด้วยคุณภาพอากาศ 1970, กฎหมายว่าด้วยคุณภาพน้ำ 1972 และกฎหมายว่าด้วยสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ 1973 3 Principles of Environmental Law
วิกฤตสิ่งแวดล้อมที่นำมาสู่การวางหลักกฎหมาย การได้รับผลจากมลพิษอย่างร้ายแรง เช่น โรคมินามาตะ จาการได้รับสารปรอทจากการบริโภคปลาทะเล 1908 – 1955 การได้รับค่าชดเชย โรคอิไต อิไต จากการที่คนงานเชื่อมโลหะ ได้รับแคดเมียม ทำให้ญี่ปุ่นซื่งเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้รับผลกระทบจากพิษของอุตสาหกรรม การปฏิวัติยุคสมัยด้วยฟางเส้นเดียว 1975 เขียนโดย มาซาโนบุ ฟูกูโอกะ http://olddreamz.com/bookshelf/onestraw/onestraw.html โรงงานนิวเคลียรที่เชอร์โนบิล 1986 3 Principles of Environmental Law
จากการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมสู่กฎหมายภายใน กฎหมายสิ่งแวดล้อมได้รับการสนับสนุนจากรัฐสภา (ทั้งสองฝ่าย - รัฐบาลและฝ่ายค้าน) ต้นทุนของการจัดการสิ่งแวดล้อม ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาและการลงทุน ปัญหาสิ่งแวดล้อมภายใต้ข้อจำกัดของกฎหมายภายในรัฐ จากธุรกิจการเมือง ปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่มีพรมแดน การใช้กฎหมายระหว่างประเทศเป็นเครื่องมือช่วย State & Non-State Actors 3 Principles of Environmental Law
กฎหมายเพื่อคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในระดับสากล การเคลื่อนไหวของกลุ่มนักอนุรักษ์ในระดับเหนือรัฐ - กฎหมายระหว่างประเทศ United Nations Conference on the Human Environment 1972 World Commission on Environment and Development 1983 United Nations Conference on Environment and Development 1992 World Summit on Sustainable Development 2002 3 Principles of Environmental Law
หลักการคุ้มครองและรักษาสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ปฏิญญากรุงสต๊อกโฮมว่าด้วยสิ่งแวดล้อมของมนุษย์ 1972 ปฏิญญากรุงริโอว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา 1992 3 Principles of Environmental Law
หลักการคุ้มครองและรักษาสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายระหว่างประเทศ หลักการว่าด้วยสิทธิอธิปไตยและความรับผิดชองของรัฐ รัฐมีสิทธิอธิปไตยตามกฎบัตรสหประชาชาติ และหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่จะใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของตนเองตามนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม (และการพัฒนา) ของตน และมีความรับผิดชอบที่จะประกันว่ากิจกรรมต่างๆภายในอำนาจหรือการควบคุมของตนไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมของรัฐอื่นหรือของบริเวณที่อยู่นอกขอบเขตอำนาจแห่งชาติ (สต๊อกโฮม ข้อ21) 3 Principles of Environmental Law
หลักการคุ้มครองและรักษาสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายระหว่างประเทศ หลักการว่าด้วยการคุ้มครองและรักษาสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติของโลก รวมทั้ง อากาศ น้ำ แผ่นดิน พืชและสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบนิเวศตามธรรมชาติ จะต้องได้รับการปกป้อง เพื่อประโยชน์ของชนรุ่นนี้และชนรุ่นหลัง โดยการวางแผนหรือการจัดการอย่างระมัดระวังตามความเหมาะสม (ข้อ 2) 3 Principles of Environmental Law
หลักการคุ้มครองและรักษาสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายระหว่างประเทศ หลักการป้องกันภาวะมลพิษ เรียกร้องให้หยุดการปล่อยสารพิษ รวมถึงความร้อนสู่สิ่งแวดล้อมในปริมาณความเข้มข้นที่เกินขีดจำกัดของธรรมชาติจะรับได้ (ข้อ6) หลักการมีส่วนร่วมของประชาชน มีค่อยชัดเจนในปฏิญญากรุงสต๊อกโฮม เนื่องจากเน้นที่บทบาทของรัฐในการจัดการ แต่มีในปฏิญญากรุงริโอ (ข้อ 10) ว่าจะสามารถจัดการได้ดีหากสามารถให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม 3 Principles of Environmental Law
หลักการคุ้มครองและรักษาสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายระหว่างประเทศ หลักการว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อลดภาวะการแข่งขันทางการค้า และความขัดแย้งทางการเมือง ให้มีการสนับสนุนความร่วมมือทางกด้านวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ ข้อมูลข่าวสาร(ข้อ20) หลักการรับผิดและความชดใช้เยียวยา เมื่อเกิดความเสียหาย 3 Principles of Environmental Law
หลักการคุ้มครองและรักษาสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายระหว่างประเทศ หลักการระงับข้อพิพาทอย่างสันติ โดยการเจรจา การสอบสวน การประนีประนอม การไกล่เกลี่ย อนุญาโตตุลาการ การระงับข้อพิพาททางศาล การใช้องค์กรและข้อตกลงในระดับภูมิภาค 3 Principles of Environmental Law
United Nations Conference on Environment and Development 1992 Agenda 21 ส่วน 1 มิติด้านสังคมและเศรษฐกิจ ส่วน 2 การอนุรักษ์และจัดการทรัพยากรเพื่อการพัฒนา ส่วน 3 การสร้างความเข้มแข็งแก่บทบาทของกลุ่มหลัก – เด็ก สตรี องค์กรเอกชน และองค์กรท้องถิ่น ส่วน 4 วิธีการในการบังคับใช้ – การศึกษา การถ่ายทอดเทคโนโลยี และกลไกการเงิน 3 Principles of Environmental Law
รัฐธรรมนูญกับการคุ้มครองสิทธิในสิ่งแวดล้อม สิทธิในการมีส่วนร่วมในการรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ม.66, 67 รวมถึงสิทธิในการฟ้องหน่วยงานรัฐให้ดำเนินการเพื่อคุ้มครองสิทธินี้ สิทธิในการได้รับข้อมูลข่าวสารจากรัฐ ม.56,57 สิทธิในการมีส่วนร่วมในกระบวนการพิจารณาตัดสินใจ ม.58 สิทธิในการเสนอเรื่องราวร้องทุกข์และฟ้องหน่วยงานรัฐ ม.59,60 สิทธิในการออกเสียงประชามติ 3 Principles of Environmental Law
3 Principles of Environmental Law มาตรา 66 บุคคลซึ่งรวมกันเป็นชุมชน ชุมชนท้องถิ่น หรือชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม ย่อมมีสิทธิอนุรักษ์หรือฟื้นฟูจารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่นและของชาติและมีส่วนร่วมในการจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม รวมทั้งความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืน 3 Principles of Environmental Law
3 Principles of Environmental Law มาตรา 67 สิทธิของบุคคลที่จะมีส่วนร่วมกับรัฐและชุมชนในการอนุรักษ์ บำรุงรักษาและการได้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ และในการคุ้มครอง ส่งเสริม และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ดำรงชีพอยู่ได้อย่างปกติและต่อเนื่องในสิ่งแวดล้อมที่จะไม่ก่อให้ เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย สวัสดิภาพ หรือคุณภาพชีวิตของตน ย่อมได้รับความคุ้มครองตามความเหมาะสม การดำเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ จะกระทำมิได้ เว้นแต่จะได้ศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในชุมชน และจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียก่อน รวมทั้งได้ให้องค์การอิสระซึ่งประกอบด้วยผู้แทนองค์การเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และผู้แทนสถาบันอุดมศึกษาที่จัดการการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติหรือด้านสุขภาพ ให้ความเห็นประกอบก่อนมีการดำเนินการดังกล่าว สิทธิของชุมชนที่จะฟ้องหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถิ่นหรือองค์กรอื่นของรัฐที่เป็นนิติบุคคล เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัตินี้ ย่อมได้รับความคุ้มครอง 3 Principles of Environmental Law
3 Principles of Environmental Law มาตรา 56 บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับทราบและเข้าถึงข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะในครอบครองของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น เว้นแต่การเปิดเผยข้อมูลหรือข่าวสารนั้นจะกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยของประชาชน หรือส่วนได้เสียอันพึงได้รับความคุ้มครองของบุคคลอื่น หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ 3 Principles of Environmental Law
3 Principles of Environmental Law มาตรา 57 บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับข้อมูล คำชี้แจง และเหตุผลจากหน่วยราชการหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น ก่อนการอนุญาตหรือการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมใดที่อาจมีผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัย คุณภาพชีวิต หรือส่วนได้เสียสำคัญอื่นใดที่เกี่ยวกับตนหรือชุมชนท้องถิ่น และมีสิทธิแสดงความคิดเห็นของตนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาในเรื่องดังกล่าว การวางแผนพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรม การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ การวางผังเมือง การกำหนดเขตการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และการออกกฎที่อาจมีผลกระทบต่อส่วนได้เสียสำคัญของประชาชน ให้รัฐจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างทั่วถึงก่อนดำเนินการ 3 Principles of Environmental Law
3 Principles of Environmental Law มาตรา 58 บุคคลย่อมมีสิทธิมีส่วนร่วมในกระบวนการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการปฏิบัติราชการทางปกครองอันมีผลหรืออาจมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของตน 3 Principles of Environmental Law
3 Principles of Environmental Law มาตรา 59 บุคคลย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องราวร้องทุกข์และได้รับแจ้งผลการพิจารณาภายในเวลาอันรวดเร็ว มาตรา 60 บุคคลย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถิ่น หรือองค์กรอื่นของรัฐที่เป็นนิติบุคคล ให้รับผิดเนื่องจากการกระทำหรือการละเว้นการกระทำของข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยงานนั้น 3 Principles of Environmental Law
3 Principles of Environmental Law มาตรา 61 สิทธิของบุคคลซึ่งเป็นผู้บริโภคย่อมได้รับความคุ้มครองในการได้รับข้อมูลที่เป็นความจริง และมีสิทธิร้องเรียนเพื่อให้ได้รับการแก้ไขเยียวยาความเสียหาย รวมทั้งมีสิทธิรวมตัวกันเพื่อพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภค ให้ มีองค์การเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคที่เป็นอิสระจากหน่วยงานของรัฐ ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนผู้บริโภค ทำหน้าที่ให้ความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของหน่วยงานของรัฐในการตราและการ บังคับใช้กฎหมายและกฎ และให้ความเห็นในการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภครวมทั้งตรวจสอบและรายงานการกระทำหรือละเลยการกระทำ อันเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งนี้ให้รัฐสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการขององค์การอิสระดังกล่าวด้วย จบ ☃ 3 Principles of Environmental Law