Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน
Hebrews ฮีบรู 4
1Therefore, while the promise of entering his rest still stands, let us fear lest any of you should seem to have failed to reach it.
1เหตุฉะนั้นเมื่อพระสัญญายังมีอยู่ว่า จะให้เราเข้าสู่การพำนักซึ่งพระองค์ทรงประทาน ก็ให้เราทั้งหลายระมัดระวังอยู่เสมอ มิฉะนั้นอาจจะมีบางคนในพวกท่านไปไม่ถึง
2For good news came to us just as to them, but the message they heard did not benefit them, because they were not united by faith with those who listened.
2เพราะว่าแท้ที่จริง เราได้รับข่าวอันประเสริฐเช่นเดียวกับเขา แต่ว่าเขาไม่ได้รับประโยชน์จากข่าวอันประเสริฐ เพราะเขาไม่เชื่อ
3For we who have believed enter that rest, as he has said, “As I swore in my wrath,‘They shall not enter my rest,’” although his works were finished from the foundation of the world.
3สำหรับเราผู้มีความเชื่อแล้วจะได้เข้าสู่การพำนัก คือการพำนักที่พระองค์ได้ตรัสไว้แล้วว่า “ตามที่เราได้ปฏิญาณด้วยความพิโรธว่า 'เขาจะไม่ได้เข้าสู่การพำนักซึ่งเราจัดให้' ” แม้ว่างานของพระองค์จะได้สำเร็จแล้วตั้งแต่สร้างโลก
4For he has somewhere spoken of the seventh day in this way: “And God rested on the seventh day from all his works.” 4และมีข้อหนึ่งที่ได้กล่าวถึงวันที่เจ็ดดังนี้ว่า ในวันที่เจ็ดนั้น พระเจ้าก็ได้ทรงหยุดพักการงานทั้งสิ้นของพระองค์
Genesis ปฐมกาล 2:2 2And on the seventh day God finished his work that he had done, and he rested on the seventh day from all his work that he had done.
2วันที่เจ็ด พระเจ้าก็เสร็จงานของพระองค์ที่ทรงกระทำมานั้น ในวันที่เจ็ดนั้นก็ทรงพักการงานทั้งสิ้นของพระองค์ที่ได้ ทรงกระทำ
5And again in this passage he said, “They shall not enter my rest
John ยอห์น 6:28-29 28Then they said to him, “What must we do, to be doing the works of God?” 28แล้วเขาทั้งหลายก็ทูลพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายจะต้องทำประการใด จึงจะทำงานของพระเจ้าได้”
29Jesus answered them, “This is the work of God, that you believe in him whom he has sent.” 29พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “งานของพระเจ้านั้น คือการที่ท่านวางใจในท่านที่พระองค์ทรงใช้มา”
Galatians กาลาเทีย 3:1-3 1O foolish Galatians. Who has bewitched you Galatians กาลาเทีย 3:1-3 1O foolish Galatians! Who has bewitched you? It was before your eyes that Jesus Christ was publicly portrayed as crucified.
1โอ ชาวกาลาเทียคนเขลา ใครสะกดดวงจิตของท่านให้เห็นผิดไปได้ ทั้งๆที่ภาพการถูกตรึงของพระเยซูคริสต์ปรากฏอยู่ต่อหน้าท่านแล้ว
2Let me ask you only this: Did you receive the Spirit by works of the law or by hearing with faith? 2ข้าพเจ้าใคร่รู้ข้อเดียวจากท่านว่า ท่านได้รับพระวิญญาณโดยการประพฤติตามธรรมบัญญัติหรือ หรือได้รับโดยการฟังด้วยความเชื่อ
3Are you so foolish? Having begun by the Spirit, are you now being perfected by the flesh? 3ท่านเขลาถึงเพียงนั้นทีเดียวหรือ เมื่อท่านเริ่มต้นมาด้วยพระวิญญาณแล้ว บัดนี้ท่านจะจบลงด้วยเนื้อหนังหรือ
6Since therefore it remains for some to enter it, and those who formerly received the good news failed to enter because of disobedience, 6ที่จริงยังมีทางเข้าสู่การพำนักนั้น แต่คนเหล่านั้นที่ได้ยินข่าวประเสริฐคราวก่อนไม่ได้เข้า เพราะเขาไม่เชื่อฟัง
7again he appoints a certain day, “Today,” saying through David so long afterward, in the words already quoted, “Today, if you hear his voice, do not harden your hearts.”
7ดังนั้นพระองค์ได้ทรงกำหนดไว้อีกวันหนึ่งคือ “วันนี้” ตามที่พระองค์ได้ตรัสทางดาวิดในเวลต่อมานาน ในข้อพระคัมภีร์ที่อ้างมาข้างบนแล้วว่า วันนี้ถ้าท่านทั้งหลายจะฟังพระสุรเสียงของพระองค์ อย่าให้จิตใจของท่านดื้อรั้น
8For if Joshua had given them rest, God would not have spoken of another day later on. 8เพราะว่าถ้าโยชูวาได้พาเขาเข้าสู่การพำนักนั้นแล้ว พระเจ้าก็คงมิได้ตรัสในภายหลังถึงวันอื่นอีก
9So then, there remains a Sabbath rest for the people of God, 9ฉะนั้นจึงยังมีการพำนักสะบาโตสำหรับชนชาติของพระเจ้า
10for whoever has entered God's rest has also rested from his works as God did from his. 10เพราะว่าผู้ใดที่ได้เข้าสู่การพำนักของพระเจ้าแล้ว ก็ได้พักงานของตน เหมือนพระเจ้าได้ทรงพักพระราชกิจของพระองค์
11Let us therefore strive to enter that rest, so that no one may fall by the same sort of disobedience. 11เหตุฉะนั้น ขอให้เราทั้งหลายพยายามที่จะได้เข้าสู่การพำนักนั้น เพื่อจะได้ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดหลงไปเหมือนคนที่ไม่เชื่อฟังเหล่านั้น
12For the word of God is living and active, sharper than any two-edged sword, piercing to the division of soul and of spirit, of joints and of marrow, and discerning the thoughts and intentions of the heart.
12เพราะว่า พระวจนะของพระเจ้านั้นไม่ตายและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ คมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุกระทั่งจิตและวิญญาณ ตลอดข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยความคิดและความมุ่งหมายในใจด้วย
13And no creature is hidden from his sight, but all are naked and exposed to the eyes of him to whom we must give account. 13ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดซ่อนไว้พ้นพระเนตรพระองค์ แต่ตรงข้ามทุกสิ่งปรากฏแจ้งต่อพระองค์ผู้ซึ่งเราต้องสัมพันธ์ด้วย
14Since then we have a great high priest who has passed through the heavens, Jesus, the Son of God, let us hold fast our confession.
14เหตุฉะนั้น เมื่อเรามีมหาปุโรหิตผู้เป็นใหญ่ที่ผ่านฟ้าสวรรค์เข้าไปถึงพระเจ้าแล้ว คือพระเยซูพระบุตรของพระเจ้า ขอให้เราทั้งหลายมั่นคงในพระศาสนาของเรา
15For we do not have a high priest who is unable to sympathize with our weaknesses, but one who in every respect has been tempted as we are, yet without sin.
15เพราะว่า เรามิได้มีมหาปุโรหิตที่ไม่สามารถจะเห็นใจในความอ่อนแอของเรา แต่ได้ทรงถูกทดลองใจเหมือนอย่างเราทุกประการ ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังปราศจากบาป
16Let us then with confidence draw near to the throne of grace, that we may receive mercy and find grace to help in time of need.
16ฉะนั้นขอให้เราทั้งหลาย จงมีใจกล้าเข้ามาถึงพระที่นั่งแห่งพระคุณ เพื่อเราจะได้รับพระเมตตา และจะได้รับพระคุณที่จะช่วยเราในขณะที่ต้องการ
Matthew มัทธิว 11:28-30 28Come to me, all who labor and are heavy laden, and I will give you rest. 28บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลาย หายเหนื่อยเป็นสุข
29Take my yoke upon you, and learn from me, for I am gentle and lowly in heart, and you will find rest for your souls. 29จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก
30For my yoke is easy, and my burden is light