1
กลุ่มคอนโทรลที่ทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของ ข้อมูลที่รับจากเว็บฟอร์ม เช่น ตรวจสอบเมื่อผู้ใช้ใส่ ข้อมูลไม่ครบ หรือใส่ข้อมูลผิดประเภท 2
ตรวจสอบว่าผู้ใช้ใส่ข้อมูลตามฟิลด์ที่กำหนดไว้หรือไม่ มีรูปแบบดังนี้ <asp:RequiredFieldValidator ID=“ ชื่อ validator" runat="server" ControlToValidate="TBUsername” ErrorMessage=" กรุณากรอกข้อมูล username" SetFocusOnError="True"> ControlToValidate ชื่อคอนโทรลที่ต้องการตรวจสอบ SetFocusOnError กำหนดให้คอนโทรลนั้น active ทันทีหลัง การตรวจสอบว่าผู้ใช้ไม่ได้กรอกข้อมูล EnableClientScript ใช้ระบุให้ตรวจสอบความถูกต้องที่ฝั่ง client 3
สร้างฟอร์มสำหรับกรอก username และ password ดัง รูป ใช้ พรอพเพอร์ตี้ TextMode = “Password” ให้กับ TBPassword ใช้ RequiredFieldValidator ตรวจสอบข้อมูลข้างต้น โดยกำหนดค่าที่พรอพเพอร์ตี้ ControlToValidate, ErrorMessage, SetFocusOnError 4
ใช้เปรียบเทียบข้อมูลว่าตรงตามตัวดำเนินการ (Operator) ที่กำหนดหรือไม่ พรอพเพอร์ตี้ที่สำคัญมีดังนี้ ◦ ControlToValidate ชื่อคอนโทรลที่ต้องการตรวจสอบ ◦ ControlToCompare ชื่อคอนโทรลที่จะนำมาเปรียบเทียบ ◦ Type ชนิดข้อมูลที่ต้องการตรวจสอบ ◦ Operator ชนิดของตัวดำเนินการ ◦ ValueToCompare ค่าที่ใช้ในการเปรียบเทียบ 5
เพิ่ม textbox สำหรับการกรอกข้อมูล Confirm password ใช้ CompareValidator ตรวจสอบว่าข้อมูลรหัสผ่านทั้ง สองตรงกันหรือไม่ <asp:CompareValidator ID="CompareValidator1" runat="server" ControlToCompare="TBPassword" ControlToValidate="TBConfirm" ErrorMessage=" กรุณากรอกรหัสผ่านให้ ตรงกัน " SetFocusOnError="True"> 6
เพิ่ม textbox สำหรับการกรอกข้อมูล Age ใช้ CompareValidator ตรวจสอบว่าอายุที่ผู้ใช้กรอก มากกว่า 18 หรือไม่ <asp:CompareValidator ID="CompareValidator2" runat="server" ControlToValidate="TBAge" ErrorMessage=" กรุณากรอกอายุมากกว่า 18" Operator="GreaterThan" SetFocusOnError="True" Type="Integer" ValueToCompare="18"> 7
ตรวจสอบค่าที่เป็นไปได้ของช่วงข้อมูลที่ กำหนด มีพรอพเพอร์ตี้ที่สำคัญดังนี้ ◦ MaximumValue ค่าสูงสุดของข้อมูลที่สามารถใส่ได้ ◦ MinimumValue ค่าต่ำสุดของข้อมูลที่สามารถใส่ได้ ◦ Type ชนิดข้อมูลที่ต้องการตรวจสอบ 8
เพิ่ม textbox สำหรับรับค่าเงินเดือนให้อยู่ในช่วง 10,000 ถึง 50,000 บาท โดยใช้ RangeValidator ตรวจสอบ <asp:RangeValidator ID="RangeValidator1" runat="server" ControlToValidate="TBSalary" ErrorMessage=" กรุณากรอกเงินเดือนในช่วง 10, ,000 บาท " MaximumValue="50000" MinimumValue="10000" SetFocusOnError="True" Type="Currency"> 9
ใช้ตรวจสอบว่าผู้ใช้ใส่ข้อมูลตรงตามรูปแบบที่กำหนดไว้ หรือไม่ มีพรอพเพอร์ตี้ที่สำคัญดังนี้ ◦ ValidationExpression รูปแบบข้อมูลที่กำหนด 10
เพิ่ม textbox เพื่อรับค่า และใช้ RegularExpressionValidator ตรวจสอบข้อมูลให้อยู่ใน รูปแบบที่ถูกต้อง <asp:RegularExpressionValidator ID="RegularExpressionValidator1" runat="server" ControlToValidate="TB " ErrorMessage=" กรุณา กรอกอีเมลล์ให้ถูกต้อง " SetFocusOnError="True" 11
เพิ่ม textbox สำหรับรับค่าหมายเลขโทรศัพท์จากผู้ใช้ โดยกำหนดให้ใช้ RegularExpressionValidator ตรวจสอบ <asp:RegularExpressionValidator ID="RegularExpressionValidator2" runat="server" ControlToValidate="TBPhone" ErrorMessage=" กรุณากรอกหมายเลขโทรศัพท์ให้ครบ 10 หลัก " ValidationExpression=“…………………………………….."> 12
ใช้รวบรวม และแสดงข้อผิดพลาดทั้งหมดที่พบจากการ ตรวจสอบในเว็บเพจ มีพรอพเพอร์ตี้ที่สำคัญ ดังนี้ ◦ HeaderText ข้อความที่ต้องการให้ปรากฏก่อนคำเตือนต่างๆ ◦ ShowSummary การกำหนดให้นำข้อผิดพลาดทั้งหมดที่พบมา แสดงในเว็บเพจ ◦ ShowMessageBox ระบุให้แสดงข้อผิดพลาดในรูปของ Dialog Box ◦ DisplayMode ใช้ระบุรูปแบบการแสดงคำเตือน ระหว่าง BulletList, List, SingleParagraph 13
กำหนดให้ใช้ Validation Summary เพื่อรวบรวม ข้อผิดพลาดทั้งหมด เพิ่มพรอพเพอร์ตี้ text = ‘*’ ให้กับทุก validation ใน หน้านี้ <asp:ValidationSummary ID="ValidationSummary1" runat="server" HeaderText=" พบข้อผิดพลาด ดังนี้ " ShowMessageBox="True" ShowSummary="False" /> 14
protected void Button1_Click(object sender, EventArgs e) { if (Page.IsValid) { Response.Write(" ขอบคุณที่ป้อนข้อมูล ถูกต้อง "); } 15