อสมการ
ประโยคภาษา ประโยคสัญลักษณ์ ครึ่งหนึ่งของห้าสิบน้อยกว่าหรือ เท่ากับสามสิบ สองเท่าของจำนวนหนึ่งมากกว่า สิบอยู่สอง
อสมการ คือ ประโยคสัญลักษณ์ที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของจำนวนโดยมี สัญลักษณ์ "<, >, £,³, ¹ บอกความสัมพันธ์ระหว่างจำนวน คำตอบของอสมการคือ จำนวนที่แทนตัวแปรแล้วในอสมการทำให้อสมการเป็นจริงหรือสอดคล้องกับอสมการ
สมบัติของอสมการ ให้ a,b,c และ d เป็นจำนวนจริง 1.ถ้า a< b และ b< c แล้ว a<c 2.ถ้า a<b แล้ว a ± c < b ± c 3.ถ้า a< b cและ c > 0 แล้ว ac < bc ถ้าa< b และc<0 แล้วac>bc ถ้าa<bและc=0แล้วac=bc 4.ถ้าa< bและc<dแล้วa+c< b+d 5.ถ้าa<bและc<dแล้วa-d<b-c 6.ถ้า0<a<bและ0<c<dแล้วac<bd 7.ถ้า0<a<bและ0<c<d แล้ว < 8.ถ้า0<a<bแล้ว >
หลักการแก้อสมการ
หลักการแก้อสมการ 1.คำตอบที่ได้จะอยู่ในช่วงมากกว่าหรือน้อยกว่า 2.ถ้าคูณหรือหารด้วยค่าลบ(จำนวนจริงลบ)เครื่องหมายของอสมการต้องเปลี่ยนเป็นตรงข้าม 3.การแก้อสมการกำลังสูงสุดแค่หนึ่งให้ใช้หลักการแก้เหมือนการแก้สมการ คือย้ายข้างได้สำหรับการบวกและลบนิยมย้ายตัวแปรไว้ด้านหนึ่ง 4.การแก้อสมการที่มีกำลังมากกว่าหนึ่ง 4.1.ทำทางขวามือของอสมการให้มีค่าเป็นศูนย์ 4.2.แยกตัวประกอบของอสมการให้อยู่ในรูปผลคูณหรือผลหารของฟังก์ชัน 4.3.พิจารณาดูว่าค่าใดบ้างที่ทำให้ตัวประกอบแต่ละตัวเท่ากับศูนย์ 4.4.นำค่าที่ได้ใส่ลงในเส้นจำนวน โดยเรียงจากน้อยไปมาก น้อย + - + - + มาก
4.5. พิจารณาหาคำตอบ โดยใช้หลัก กำหนดให้ช่วงทางขวามือสุดเป็นค่าบวก และถัดมาเป็นค่าลบ บวก ลบ …… สลับไปเรื่อย ๆ ตามจำนวนของช่วงที่มีอยู่ 4.5. พิจารณาหาคำตอบ โดยใช้หลัก 1.ถ้าอสมการเครื่องหมาย³เลือกช่วงที่มีค่าบวก(+) ถ้ามีหลายค่าเชื่อมด้วย"หรือ" 2.ถ้าอสมการเครื่องหมาย < , £ เลือกช่วงที่มีค่าลบ(-) ถ้ามีหลายค่าเชื่อมด้วย "หรือ
หลักในการแก้อสมการตัวแปรเดียวกำลังสอง กำหนดให้ a และ b เป็นจำนวนจริงใดๆ 1. ถ้า ab = 0 แล้ว จะได้ a = 0 หรือ b = 0 2. ถ้า = 0 แล้ว จะได้ a = 0 3. ถ้า ab > 0 แล้ว จะได้ a > 0 และ b > 0 หรือ a < 0 และ b < 0 4. ถ้า ab < 0 แล้ว จะได้ a > 0 และ b < 0 หรือ a < 0 และ b > 0 5. ถ้า ab ≥ 0 แล้ว จะได้ ab > 0 หรือ ab = 0 6. ถ้า ab ≤ 0 แล้ว จะได้ ab < 0 หรือ ab = 0 7. ถ้า > 0 แล้ว จะได้ a > 0 และ b > 0 หรือ a < 0 และ b < 0 8. ถ้า < 0 แล้ว จะได้ a > 0 และ b < 0 หรือ a < 0 และ b > 0
9. ถ้า ≥ 0 แล้ว จะได้ > 0 หรือ= 0 10. ถ้า ≤ 0 แล้ว จะได้ < 0 หรือ= 0
หลักในการแก้อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว เราอาศัยสมบัติของการไม่เท่ากันในการแก้อสมการ เช่น สมบัติการบวกด้วยจำนวนที่เท่ากัน ถ้า a > b แล้ว a + c > b + c สมบัติการคูณด้วยจำนวนที่เท่ากัน ถ้า a > b และ c > 0 แล้ว ac > bc ถ้า a > b และ c < 0 แล้ว ac < bc
สรุปเป็นหลักในการแก้อสมการได้ดังนี้ กำหนดให้ x, a, b เป็นจำนวนจริง และ a < b แล้ว 1. ถ้า (x - a)(x - b) > 0 จะได้ x < a หรือ x > b 2.ถ้า (x - a)(x - b) < 0 จะได้ a < x < b 3.ถ้า (x - a)(x - b) ≥ 0 จะได้ x ≤ a หรือ x ≥ b 4.ถ้า (x - a)(x - b) ≤ 0 จะได้ a ≤ x ≤ b 5. ถ้า > 0 จะได้ x < a หรือ x > b 6.ถ้า < 0 จะได้ a < x < b 7.ถ้า ≥ 0 จะได้ x ≤ a หรือ x > b 8.ถ้า ≤ 0 จะได้ a ≤ x < b
สามารถสรุปได้ดังตารางต่อไปนี้
ช่วงของจำนวนจริง กำหนดให้ a, b เป็นจำนวนจริง และ a < b (a, b) = { x | a < x < b } 2. ช่วงปิด [a, b] [a, b] = { x | a ≤ x ≤ b }
3. ช่วงครึ่งเปิด (a, b] (a, b] = { x | a < x ≤ b } 4. ช่วงครึ่งเปิด [a, b) [a, b) = { x | a ≤ x < b } 5. ช่วง (a, ∞) (a, ∞) = { x | x > a}
6. ช่วง [a, ∞) [a, ∞) = { x | x ≥ a} 7. ช่วง (-∞, a) (-∞, a) = { x | x < a} 8. ช่วง (-∞, a] (-∞, a] = { x | x ≤ a}
ตัวอย่างแบบฝึกหัด ตัวอย่างที่ 1 จงหาเซตคำตอบของ x + 3 > 12 ∴x + 3 + (-3)>12 + (-3) x>9 ∴เซตคำตอบของอสมการนี้คือ (9, ∞) ตัวอย่างที่ 2 จงหาเซตคำตอบของ 2x + 1 < 9 วิธีทำ 2x + 1<9 ∴2x + 1 + (-1)<9 + (-1) 2x<8 (2x)< (8) x<4 ∴เซตคำตอบของอสมการนี้คือ (-∞, 4)
ตัวอย่างที่ 3จงหาเซตคำตอบของ 4x - 5 ≤ 2x + 5 4x - 2x ≤ 2x + 10 - 2x 2 x≤ 10 (2x)≤ (10) x≤ 5 ∴เซตคำตอบของอสมการนี้คือ (-∞, 5]
ตัวอย่างที่ 4 จงหาเซตคำตอบของ (x - 3)(x - 4) > 0 เมื่อ x - 3>0 และ x - 4 < 0 แล้วจะได้ x > 4 หรือ x - 3<0 และ x - 4 < 0 x<3 และ x < 4 ∴x - 3<0 และ x - 4 < 0 แล้วจะได้ x < 3 นั่นคือ เซตคำตอบของ (x - 3)(x - 4) > 0 คือ { x | x < 3 หรือ x > 4 } = (-∞, 3 ) ∪ (4, ∞ )
ตัวอย่างที่ 5 จงหาเซตคำตอบของ (x - 3)(x - 4) < 0 ∴เมื่อ x - 3>0 และ x - 4 < 0 แล้วจะได้ 3 < x < 4 หรือ x - 3<0 และ x - 4 > 0 x<3 และ x > 4 ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ∴ไม่มีจำนวนจริง x ที่สอดคล้องกับ x - 3 < 0 และ x - 4 > 0 นั่นคือ เซตคำตอบของ (x - 3)(x - 4) < 0 คือ { x | 3 < x < 4 } = (3, 4)