อารยธรรมลุ่มแม่น้ำไนล์ กับความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายของชาวอียิปต์
อารยธรรมแม่น้ำไนล์ อารยธรรมแม่น้ำไนล์หรืออียิปต์สมัยโบราณประกอบด้วย อียิปต์บน(Upper Egypt) อยู่ทางทิศใต้บริเวณที่แม่น้ำไหลผ่านภูเขา หุบเขา เนินเขาที่แห้งแล้ง อียิปต์ล่าง (Lower Egypt) อยู่บริเวณที่แม่น้ำแตกสาขาเป็นรูปพัด ไหลลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
อารยธรรมอียิปต์เริ่มบริเวณนี้ ประมาณ 3000 ปีก่อน ค. ศ อารยธรรมอียิปต์เริ่มบริเวณนี้ ประมาณ 3000 ปีก่อน ค.ศ. เมเนส กษัตริย์ อียิปต์บนสามารถรวมอาณาจักร อีปต์บนและอียิปต์ล่างเข้าด้วยกัน ตั้งเมือง หลวงที่ เมมฟิส และตั้งราชวงศ์แรกปกครองอียิปต์ตั้งแต่ 3,000 ปีก่อนค.ศ. จนถึง 322 ปีก่อน ค.ศ. มีราชวงศ์ทั้งหมด 30 ราชวงศ์ ความเชื่อที่สำคัญ ของชาวอียิปต์คือ การฟื้นคืนชีพหลังความตาย มีการ สร้างปิรามิดเพื่อใช้เป็นสุสานเก็บรักษาศพด้วยการทำมัมมี เขียนคัมภีร์ของ คนตาย(Book of the Dead).ใส่ไว้ในที่ฝังศพ เชื่อว่าวิญญาณ เป็นอมตะ มีการบูชาเทพโอซิริส นับถือฟาโรห์เป็นเทพเจ้า ทำให้ฟาโรห์มี อำนาจปกครองเด็ดขาด
ความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย ชาวอียิปต์นับถือบูชาเทพเจ้าหลายองค์ (Polytheism) โดยเชื่อว่า ธรรมชาติซึ่งบันดาลความผาสุก ความดีงาม หรือความหายนะให้แก่มนุษย์นั้น เกิดจากการกระทำของเทพเจ้าทั้งสิ้น แต่ละเมืองของอียิปต์จะมีเทพเจ้าประจำ เมือง ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่าคนตายแล้วจะกลับคืนชีพมาใหม่เหมือนดวง อาทิตย์ที่หายลับขอบฟ้าในยามเย็น และกลับขึ้นมาใหม่ในวันรุ่งขึ้น จากการที่ ดวงอาทิตย์มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของชาวอียิปต์มาก
ชาวอียิปต์เชื่อว่าเมื่อตายไปแล้วทุกคนมีฐานะเท่าเทียมกัน เมื่อวิญญาณ ของผู้ตายได้ออกจากร่างมัมมี่แล้ว เทพอานูบิส ซึ่งเป็นเทพแห่งความตาย ผู้ มีรูปร่างเป็นคน ศีรษะเป็นสุนัขจะเป็นผู้ดูแลรักษาศพไม่ให้เน่าเปื่อย และเท พีไอซิสจะมาต้อนรับและพานั่งเรือข้ามแม่น้ำไปสู่แดนมรณะที่ซึ่งมีเทพโอซิ ริส เทพเจ้าแห่งแดนมรณะ เป็นผู้ตัดสินว่าใครจะได้ไปสู่สรวงสวรรค์ โดยมี โอซิริสเป็นประธาน มีตุลาการซึ่งเป็นผู้ช่วยอีก 42 คน
วิญญาณจะต้องให้การตามความสัตย์จริง เมื่อสิ้นคำให้การ เทพอานูบิสก็ จะนำหัวใจไปชั่งกับตาชั่งแห่งความสัตย์ที่ด้านหนึ่งเป็นขนนก หากหัวใจ เบากว่าขนนกถือว่าคนคนนั้นเป็นคนดี วิญญาณนั้นก็จะกลายเป็น วิญญาณแห่งเทพโอซิริสและจะได้ไปเกิดใหม่เป็นนิรันดร์ และในทาง ตรงกันข้ามหากเป็นคนไม่ดี วิญญาณนั้นก็จะกลายเป็นหมูหรือสัตว์สกปรก อื่นๆ
ในอดีตชาวอียิปต์เฝ้าสังเกตว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก ลับขอบฟ้า ทางทิศตะวันตกอันเป็นสัญญาณเริ่มต้นแห่งรัตติกาล และพอรุ่งเช้าพระ อาทิตย์ก็จะทอแสงอีกครั้ง ปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้ได้กลายเป็นหลักคิด สำคัญทำให้ชาวอียิปต์เชื่อว่าทิศตะวันออกเป็นทิศของคนเป็น และทิศ ตะวันตกเป็นทิศของคนตาย ชาวอียิปต์ส่วนใหญ่จึงนิยมตั้งบ้านเรือนทาง ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไนล์ ส่วนฝั่งตะวันตกเป็นที่ตั้งของสุสาน ด้วยเหตุนี้ สุสานของฟาโรห์ที่มีอยู่ประมาณ 80-90 แห่ง ทั้งหมดตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของ แม่น้ำไนล์
จบการนำเสนอ
จัดทำโดย นางสาวจุฑามาศ อินทรกันหา นางสาวนิภาพร ลาตุ่น นางสาวจุฑามาศ อินทรกันหา นางสาวนิภาพร ลาตุ่น นางสาวศิรินยา ถิตย์กุล นางสาวสุมิตรา ขันเล็ก นางสาวรังสิยา ใจดี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1