ระเบียบกรมโรงงานอุตสาหกรรม ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชน พ.ศ. 2560 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 6 มิถุนายน 2560

สรุปสาระสำคัญ 1. สมควรที่จะให้มีการดำเนินการเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ในส่วนที่เกี่ยวกับห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น 2. ให้ยกเลิกระเบียบกรมโรงงานอุตสาหกรรม ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชน พ.ศ. 2550

สรุปสาระสำคัญ ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชนที่สามารถขึ้นทะเบียนต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ 1.1 เป็นนิติบุคคลที่มีวัตถุประสงค์รับจ้างวิเคราะห์สารมลพิษ 2.2 ต้องมีผู้ควบคุมดูแลห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ซึ่งมีคุณสมบัติ 2.2.1 ผู้มีคุณวุฒิวิทยาศาสตรบัณฑิต วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตหรือปรัชญาดุษฎีบัณฑิต มีวิชาเรียนทางด้านเคมีตั้งแต่ 40 หน่วยกิตขึ้นไป และมีประสบการณ์วิเคราะห์สารมลพิษด้านสิ่งแวดล้อมในห้องปฏิบัติการเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี

สรุปสาระสำคัญ 2.3 ผ่านการฝึกอบรมในเรื่องการควบคุมคุณภาพการวิเคราะห์ทดสอบ (QA/QC) และข้อกำหนดทั่วไปว่าด้วยความสามารถของห้องปฏิบัติการทดสอบ (ISO/IEC17025) จากหน่วยฝึกอบรมภายนอกที่เชื่อถือได้ 2.4 ต้องมีเจ้าหน้าที่ประจำห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ซึ่งมีคุณสมบัติ 2.4.1 ผู้มีคุณวุฒิอนุปริญญาด้านเคมีปฏิบัติ ประกาศนียบัตรวิชาชีพเคมีเทคนิค ประกาศนียบัตรวิชาชีพเคมีอุตสาหการ ประกาศนียบัตรวิชาชีพเคมีปฏิบัติการหรือปิโตรเคมี วิทยาศาสตรบัณฑิตวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต หรือปรัชญาดุษฎีบัณฑิตที่มีวิชาเรียนทางด้านเคมีตั้งแต่ 15 หน่วยกิตขึ้นไป

สรุปสาระสำคัญ 2.4.2 ผ่านการฝึกอบรมในเรื่องการควบคุมคุณภาพการวิเคราะห์ทดสอบ (QA/QC) และข้อกำหนดทั่วไปว่าด้วยความสามารถของห้องปฏิบัติการทดสอบ (ISO/IEC 17025) จากหน่วยฝึกอบรมภายนอกที่เชื่อถือได้ และผ่านการประเมินสมรรถนะการวิเคราะห์สารมลพิษที่ขอขึ้นทะเบียน 2.5 ต้องมีระบบคุณภาพภายในห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ได้แก่วิธีปฏิบัติการวิเคราะห์ทดสอบและวิธีปฏิบัติการชักตัวอย่างการควบคุมเอกสารและประกันคุณภาพการวิเคราะห์ โดยวิธีการต้องเชื่อถือได้

สรุปสาระสำคัญ 2.6 ต้องมีการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย เช่น อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ระบายอากาศเสีย ตู้ดูดควัน อุปกรณ์ชะล้างร่างกายแบบฉุกเฉิน เครื่องมือปฐมพยาบาล และเครื่องดับเพลิง เป็นต้น 3. ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชนที่สามารถขึ้นทะเบียนต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ต้องมีเครื่องมือและอุปกรณ์ ดังต่อไปนี้ 3.1 การเก็บและวิเคราะห์สารมลพิษในน้ำทิ้งต้องมีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้เก็บและวิเคราะห์ตามคู่มือวิเคราะห์น้ำและน้ำเสียของสมาคมวิศวกรสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย

สรุปสาระสำคัญ 3.2 การเก็บและวิเคราะห์สารมลพิษในอากาศ ต้องมีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้เก็บและวิเคราะห์ตามวิธีของ United States Environmental Protection Agency. 3.3 การเก็บและวิเคราะห์สารมลพิษในสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วต้องมีเครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ใช้เก็บและวิเคราะห์ตามTest Methods for Evaluating Solid Waste, Physical Methods ของ United States Environmental Protection Agency.

สรุปสาระสำคัญ 3.4 การเก็บและวิเคราะห์สารมลพิษในดิน ต้องมีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้เก็บและวิเคราะห์ตาม Test Methods for Evaluating Solid Waste, Physical Methods ของ United States Environmental Protection Agency. 3.5 การเก็บและวิเคราะห์สารมลพิษในน้ำใต้ดิน ต้องมีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้เก็บและวิเคราะห์ตาม Standard Methods for the Examination of Water and Wastewater ซึ่ง American Public Health Association, American Water Work Association และ Water Environment Federation.

สรุปสาระสำคัญ 4. นิติบุคคลหรือผู้ประกอบกิจการโรงงานซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชนที่มีคุณสมบัติตามหมวด 2 และมีเครื่องมือและอุปกรณ์ตามหมวด 3 (แห่งระเบียบกรมโรงงานอุตสาหกรรมนี้) หากประสงค์จะขึ้นทะเบียนเป็นห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชนตามระเบียบนี้ ให้ยื่นคำขอพร้อมเอกสารประกอบต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรม 5. หนังสือรับขึ้นทะเบียนห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชนให้มีอายุ 3 ปีนับจากวันที่ออกหนังสือและให้ต่ออายุได้

สรุปสาระสำคัญ 6. การต่ออายุหนังสือรับขึ้นทะเบียนห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชน ให้ยื่นคำขอต่ออายุ พร้อมเอกสารประกอบต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรมภายใน 30 วันก่อนวันสิ้นอายุของหนังสือรับขึ้นทะเบียนห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชน 7. ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชนที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมรับขึ้นทะเบียนแล้วหากประสงค์จะเปลี่ยนแปลงบุคคล หรือเปลี่ยนแปลงชนิดสารมลพิษวิเคราะห์ให้ยื่นคำขอและต้องได้รับความเห็นชอบตามคำขอจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมก่อนจึงจะดำเนินการและรายงานผลได้

สรุปสาระสำคัญ 8. การเลิกดำเนินการห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชนที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมรับขึ้นทะเบียนแล้ว ให้แจ้งเป็นหนังสือต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรมภายใน 15 วันนับแต่วันเลิกดำเนินการ 9. ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชนที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมรับขึ้นทะเบียนแล้วมีหน้าที่และความรับผิดชอบ ดังต่อไปนี้ 9.1 ต้องทำการเก็บตัวอย่างน้ำทิ้ง อากาศ สิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ดินและน้ำใต้ดินโดยบุคคลตามหมวด 2

สรุปสาระสำคัญ 9.2 ต้องทำการวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำทิ้ง อากาศ สิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วดินและน้ำใต้ดินโดยบุคคลตามหมวด 2 9.3 การรายงานผลวิเคราะห์ให้รายงานได้เฉพาะสารมลพิษที่ได้รับขึ้นทะเบียนเท่านั้น 9.4 ต้องมีการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับงานที่ปฏิบัติ ข้อมูลดิบการวิเคราะห์และการคำนวณข้อมูลบุคคลที่เกี่ยวข้องในการวิเคราะห์ โดยต้องเก็บไว้เป็นหลักฐานอย่างน้อย 3 ปี 9.5 ต้องเก็บสำเนาใบรับรองผลวิเคราะห์หรือรายงานผลวิเคราะห์ไว้เป็นหลักฐานอย่างน้อย 3 ปี

สรุปสาระสำคัญ 9.6 กรณีมีเหตุที่ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ไม่สามารถเก็บตัวอย่างและวิเคราะห์สารมลพิษที่ได้รับขึ้นทะเบียนได้ 9.6.1 ต้องมีการจ้างเหมาช่วง ผู้รับจ้างเหมาช่วงต้องเป็นห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชนที่ได้รับขึ้นทะเบียนจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งมีขอบข่ายเก็บตัวอย่างและวิเคราะห์สารมลพิษชนิดที่ได้รับขึ้นทะเบียนจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม 9.6.2 ต้องระบุถึงการจ้างเหมาช่วงและชื่อผู้รับเหมาช่วงให้ชัดเจนไว้ในรายงานด้วย

สรุปสาระสำคัญ 10. ในกรณีที่ปรากฏว่า ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชนที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ขึ้นทะเบียนแล้ว ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม โดยไม่มีเหตุอันสมควรหรือเจตนารายงานผลวิเคราะห์อันเป็นเท็จ ให้อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมมีอำนาจเพิกถอนหนังสือรับขึ้นทะเบียนห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชนและจะไม่รับขึ้นทะเบียนห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชนรายนี้อีกจนกว่าจะพ้นกำหนด 3 ปี

จบการนำเสนอ