แจ๊ค หม่า จากครูสอนอังกฤษ สู่ เจ้าของ “Alibaba”
ชื่อของ แจ๊ค หม่า (Jack Ma) เจ้าของ Alibaba ถูกพูดถึงอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องที่เขามีทางเดินชีวิตที่เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะเรียกได้ว่าเขาเริ่มเส้นทางของเขาด้วยเสื่อผืนหมอนใบเท่านั้น เพราะว่าเมื่อเขาเริ่มชีวิตการทำงานนั้น เขาเป็นเพียงครูภาษาอังกฤษเงินเดือนเพียง 500 บาท แต่จับพลัดจับผลูจนตอนนี้กลายเป็นหนึ่งในเศรษฐีที่รวยที่สุดในจีนไปซะแล้ว
แจ๊ค หม่า หรือ หม่า หยุน เป็นชาวจีนจากเมืองหังโจว เกิดในครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะดีมากนัก แต่เขาใฝ่เรียนรู้แบบไม่เหมือนใคร เขาชื่นชอบภาษาอังกฤษมาก ด้วยวัยเพียง 12 ปี เขาได้ปั่นจักรยานกว่า 40 นาทีทุกวัน เพื่อไปโรงแรมที่มีชาวต่างชาติเข้ามาพัก และไปพูดคุยเพื่อฝึกภาษา
ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เขาสอบไม่ติดถึง 2 ครั้ง ก่อนที่สุดท้ายจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยครูหังโจวได้ และเมื่อเรียนจบเขาก็เป็นครูสอนภาษาอังกฤษอยู่ 5 ปี เงินเดือนอยู่ที่ราว ๆ 500-600 บาทเท่านั้น
วันหนึ่งในปี 2538 เขาได้เดินทางไปเป็นล่ามที่เมืองซีแอตเทิล เพื่อนของเขาได้แนะนำให้เขารู้จักกับอินเทอร์เน็ต ซึ่งหม่าเองก็พึ่งจะเคยจับคีย์บอร์ดเป็นครั้งแรกในชีวิต ก่อนที่เขาจะคิดไอเดียขึ้นมาว่า ยังไม่มีข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับจีนในอินเทอร์เน็ตมากนัก
จนเมื่อปี 2542 เขาจึงได้รวมกลุ่มกับเพื่อนอีกครั้ง จัดตั้งบริษัทอีคอมเมิร์ส นามว่า Alibaba ขึ้น ด้วยเงินทุนราว 2 ล้านบาท ซึ่งหม่าเป็นคนเลือกชื่อนี้ด้วยตัวเอง เพราะเขาคิดว่ามันเรียกได้ง่ายดี
ปี 2546 หม่าได้เปิดเว็บไซต์ Taobao ขึ้น เพื่อสร้างธุรกิจออนไลน์ที่ใช้งานได้ง่าย ตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวจีน ธุรกิจของเขาก็ดำเนินไปอย่างเรียบ ๆ ไม่มีกำไร เพราะมีคู่แข่งยักษ์ใหญ่อย่าง eBay อยู่นั่นเอง
เพียงแค่ 3 ปี Taobao ก็พลิกโผขึ้นมาครองส่วนแบ่งตลาดเกินกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ จน eBay ถอยทัพออกจากจีนในปลายปี 2548 และนับแต่นั้นมา Taobao ก็กลายเป็นเพชรเม็ดงามของยักษ์ใหญ่สัญชาติจีนอย่าง Alibaba
10 เคล็ดลับง่ายๆ ที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จได้ 10 เคล็ดลับง่ายๆ ที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จได้
1. Customers number 1 ลูกค้าต้องมาที่หนึ่งเสมอ 2 1. Customers number 1 ลูกค้าต้องมาที่หนึ่งเสมอ 2. Have passion, right from day 1 มีความเชื่อว่า ทำทุกอย่างด้วยพลังความตั้งใจ อย่างไรก็สำเร็จ 3. Don’t complain, look for opportunities ทุกครั้งที่มีการแสดงความไม่พอใจ เราอย่ามองเป็นเรื่องที่ไม่ดี ให้ มองสิ่งนั้นเป็นโอกาสที่เราจะสร้างสิ่งใหม่ๆ
4. Choose a good company name ชื่อดี มีชัยไปกว่าครึ่งชื่อดี จำง่าย ใครๆก็นึกถึง 5. Stay focused, the need to say no ต้องรู้จักพูดคำว่า “ไม่” และกล้าปฏิเสธในสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในเป้าหมาย ของคุณ 6. Get inspired ลองหาแรงบันดาลใจจากสิ่งรอบตัว เช่น หนังภาพยนตร์ดีๆที่ให้แง่ คิด ก็มีส่วนช่วยในการให้แง่มุมดีๆในการดำเนินชีวิตได้
7. Keep your dream alive พยายามยึดติดกับสิ่งที่คุณฝันไว้ เพราะมันอาจจะเป็นจริงได้ในวัน หนึ่ง 8. Focus on culture เข้าใจในวัฒนธรรรมและพฤติกรรมของคนในองค์กรของให้ดี ก่อนที่จะคิดถึงผลประโยชน์เรื่องเงินเพียงอย่างเดียว 9. Get used to rejection อย่าไปกลัวการถูกปฏิเสธ เพราะการถูกปฏิเสธไม่ได้หมายความว่า คุณแย่เสมอไป
10. Ignore the Little man อย่าใส่ใจ เสียงต่อต้านเล็กๆ เพราะไม่มีการทำอะไรแล้ว ไม่มีฝ่ายต่อต้านเลย ถ้าคุณคิดว่าทำดีแล้วไม่เดือดร้อนใคร ทำเลย