วิวัฒนาการของพะยูน
พะยูนถูกศึกษาทางวิทยาศาสตร์ครั้งแรกในปี ค. ศ พะยูนถูกศึกษาทางวิทยาศาสตร์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1776 โดยได้ตัวอย่างต้นแบบจากที่จับได้จาก น่านน้ำแหลมกู๊ดโฮปถึงฟิลิปปินส์ เนื่องจากมีรูปร่าง คล้ายโลมาและวาฬ เดิมพะยูนจึงถูกจัดรวมอยู่ในอันดับ เดียวกันคือ Cetacea แต่จากการศึกษาลักษณะ โครงสร้างโดยละเอียดพบว่า มีความแตกต่างกันมาก กล่าวคือ มีขนาดเล็กกว่า หัวกลม รูจมูกแยกจากกัน ปากเล็ก มีฟันหน้าและฟันกรามพัฒนาดี ไม่เป็นฟัน ยอดแหลมธรรมดาเหมือน ๆ กันอย่างวาฬ และมีเส้น ขนที่ริมฝีปากตลอดชีวิต
ในปี ค.ศ. 1816 อองรี มารี ดูโครเตย์ เดอ แบล็งวีล นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ได้ทำการแยก ความแตกต่างระหว่างพะยูนกับโลมาและวาฬ ออกจาก กันและจัดพะยูนเข้าไว้ในกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีกีบ ในอันดับ Sirenia โดยนับว่าพะยูนมีบรรพบุรุษร่วมกัน กับช้างมาก่อน รวมถึงการศึกษาซากโบราณของพะยูน ในสกุล Eotheroides ในประเทศอียิปต์
พบว่ามีลักษณะบางอย่างเหมือนและใกล้เคียงกันกับ Moeritherium ซึ่งเป็นต้นตระกูลของช้างยุคอีโอซีน ตอนต้น หรือเมื่อประมาณ 40 ล้านปีมาแล้ว Eotheroides เป็นสัตว์มี 4 ขา มีฟันครบและอาศัยอยู่ ในน้ำ ต่อมามีวิวัฒนาการเพื่อให้อาศัยอยู่ในน้ำได้ดีขึ้น โดยที่ขาหลังจะลดขนาดลงและหายไปในที่สุด ส่วนขา หน้าจะเปลี่ยนแปลงไปมีลักษณะคล้ายใบพายเพื่อให้ เหมาะสมกับการว่ายน้ำ จากนั้นก็มีวิวัฒนาการมาเรื่อย ๆ จนกลายมาเป็นพะยูนในปัจจุบัน
ลักษณะและพฤติกรรม พะยูนมีรูปร่างคล้ายแมวน้ำขนาดใหญ่ที่อ้วนกลม เทอะทะ ครีบมีลักษะคล้ายใบพาย ซึ่งวิวัฒนาการมา จากขาหน้าใช้สำหรับพยุงตัวและขุดหาอาหาร ไม่มี ครีบหลัง ไม่มีใบหู ตามีขนาดเล็ก ริมฝีปากมีเส้นขน อยู่โดยรอบ ตัวผู้บางตัวเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นจะมีฟันคู่หนึ่ง งอกออกจากปากคล้ายงาช้าง ใช้สำหรับต่อสู้เพื่อแย่งคู่ กับใช้ขุดหาอาหาร ในตัวเมียมีนมอยู่ 2 เต้า ขนาด เท่านิ้วก้อย ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร อยู่ถัดลงมา จากขา คู่หน้า สำหรับเลี้ยงลูกอ่อน มีลำตัวและหาง คล้ายโลมา สีสันของลำตัวด้านหลังเป็นสีเทาดำ หายใจทางปอด จึงต้องหายใจบริเวณผิวน้ำ 1-2 นาที
บริเวณที่อยู่อาศัยของพะยูน
อายุ 9-10 ปี สามารถสืบพันธุ์ได้ เวลาท้อง 9-14 เดือน ปกติมีลูกได้ 1 ตัว ไม่เกิน 2 ตัว แรกเกิดยาว 1 เมตร หนัก 15-20 กิโลเมตร ใช้เวลาตั้งท้อง ประมาณ 1 ปี กินนมและหญ้าทะเลประมาณ 2-3 สัปดาห์ หย่านมประมาณ 8 เดือน อายุประมาณ 70 ปี โดยแม่พะยูนจะดูแลลูกไปจนโต ขนาดเมื่อโตเต็มที่ ประมาณ 2 เมตร ถึง 3 เมตร น้ำหนักเต็มที่ได้ถึง 300 กิโลกรัมพะยูนสามารถกลั้นหายใจใต้น้ำได้นานราว 20 นาที เมื่อจะนอนหลับพักผ่อน พะยูนจะทิ้งตัวลง ในแนวดิ่ง และนอนอยู่นิ่ง ๆ กับพื้นทะเลราว 20 นาที ก่อนจะขึ้นมาหายใจอีกครั้งหนึ่ง
อาหารของพะยูน ได้แก่ หญ้าทะเล ที่ขึ้นตาม แถบชายฝั่งและน้ำตื้น โดยพะยูนมักจะหากินในเวลา กลางวัน พฤติกรรมการหากินจะคล้ายกับหมู โดยจะ ใช้ครีบอกและปากดุนพื้นทรายไถไปเรื่อย ๆ จน บางครั้ง จะเห็นทางยาวตามชายหาด จากพฤติกรรม เช่นนี้ พะยูนจึงได้ชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "หมูน้ำ" หรือ "หมูดุด" ในบางตัวที่เชื่องมนุษย์ อาจเกาะกินตะไคร่ บริเวณใต้ท้องเรือได้
คุณครูครูบรรจบ ธุปพงษ์ จัดทำโดย 1. นายอมรเทพ นิติสุนทรกุล เลขที่ 7 ก (Design PowerPoint) 2. นายธนพงษ์ ฉานุ เลขที่ 9 ก (หาข้อมูล) 3. นายชานนท์ ทรัพย์ประเสริฐ เลขที่ 3 ข (หาข้อมูล) 4. น.ส.กนกวรรณ พรหมรักษา เลขที่ 13 ข (พิสูจน์อักษร) 5. น.ส.รวิภา ไพบูลย์ เลขที่ 15 ข (หาภาพประกอบ) เสนอ คุณครูครูบรรจบ ธุปพงษ์
บรรณานุกรม http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8 %B0%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B8%99 http://worldwildlife.org/species/dugong