สอนอย่างไรใน 50 นาที
ซุนวู รู้เขา-รู้เรา
ต้องรู้ว่า... เราจะสอนอย่างไร ย่อยเนื้อหาความรู้ลงให้แคบ หากเนื้อหามาก ก็แบ่งเป็นส่วนย่อย ระบุสาระ หรือจุดประสงค์ ชัดเจน เรียงเนื้อหา ง่ายไปยาก พื้นฐานไปประยุกต์
ต้องรู้ว่า... นักเรียนคิดอะไร ชอบคิดสิ่งที่ไร้สาระ มากกว่าสาระ (อารมณ์ มาก่อนเหตุผล) ส่วนใหญ่เลือกเรียนตามเพื่อน ส่วนน้อยเลือกเรียนเพราะอนาคต แบบว่า.........อยากรู้ แต่........ไม่อยากเรียน ส่วนใหญ่เป็นพวกชอบสอดรู้สอดเห็น ไม่ชอบคำว่าเรียน คิดแต่จะมุ่งหาความสนุกสนาน บันเทิง ฯลฯ
ต้องรู้ว่า... นักเรียนต้องการอะไร ชอบความสนุกสนานและบันเทิง ชอบเป็นผู้สื่อสารมากกว่าผู้รับสาร ชอบทดลอง ทำเอง เพื่อเรียนรู้ ต้องการรู้ในสิ่งคนอื่นไม่รู้ ต้องการรู้ให้มากกว่าในสิ่งที่เพื่อนรู้ ชอบเลียนแบบ (ดารา ศิลปิน คนเก่ง)
ต้องรู้ว่า... นักเรียน ไม่ต้องการอะไร ไม่ชอบให้ผู้ใหญ่ดุว่า อย่างไร้เหตุผล ไม่ชอบความจำเจ น่าเบื่อ เพราะมีสมาธิสั้น ไม่ชอบติดกรอบ ระเบียบ ที่มากและบ่อยเกินไป ไม่ชอบการสอบวัดผล !!! ฯลฯ
การตั้งเป้าหมายให้สูง ความกระตือรือร้นและตื่นเต้น ยึด กฎและกติกา การตั้งเป้าหมายให้สูง ความกระตือรือร้นและตื่นเต้น เน้นการให้กำลังใจ การสร้างทางเลือก ใช้เคล็ดลับ แห่งการสร้าง แรงจูงใจ สร้างความรับผิดชอบ เน้นการเรียนแบบร่วมมือ เน้นเสริมแรงทางบวก เท็ด นัสโบม โรงเรียนไวเทเคอร์ โอเรกอน สหรัฐอเมริกา
อื่นๆที่น่าสนใจ จากทางบ้าน
เสียง mono tone นั้น เมื่อเจ้าตัวรู้แล้ว จะต้องปรับเป็น poly tone ซะ
การเตรียมการสอนมาก่อนจำเป็นเสมอ ถ้าไม่เตรียมจะเป็นการจำมาอวด การเตรียมการสอนต้องเตรียมทั้งเนื้อหา และ dialogue
การสอนหนังสือ ควรเป็น การบรรยาย + เล่าเรื่อง+ การพูดคุย การยกตัวอย่างเรื่องจริงเป็น cases ๆ จะทำให้การบรรยายน่าสนใจมาก การแทรก ขำๆ นิดหน่อยช่วยให้ เบิกบานทั้งผู้สอน และ ผู้เรียน ถ้ามุขฝืดให้เราประสบการณ์หรือ เรื่องจริงอันน่าตื่นเต้นแต่ห้ามเตลิด
การเน้นให้เห็นใจความสำคัญเป็นสิ่ง ที่จำเป็น และควรกระทำ เด็กเห็นแนวทางว่าสิ่งนี้เขาต้องทำได้ น่าจะมีในขั้นตอนการประเมิน อย่าลืมว่าเขาไม่ได้เรียนวิชาเดียว
มีความจำเป็นที่จะต้องนำนักเรียนทำแบบ ฝึกหัด พร้อมเฉลย เด็กเห็นแนวทางวิธีการ และวิธีเขียนที่ถูกใจผู้สอน
ร้อยละ 90 ชอบบอกว่านักเรียนต้อง แบ่งเวลาให้เป็น บอกเท่านี้ไม่ช่วยอะไรเลย แนะนำไปเลยว่าให้ทำอย่างไร หรือไม่ก็ไม่ต้อง
พูดเล่นได้ประโยคที่ว่า “ ช่างมันดิ เด็กไม่สนใจเองช่วยไม่ได้” ถ้าคิดจริง นิมนต์ให้ลาออกไปเป็นพ่อค้า หรือไม่ก็ประกอบอาชีพเชือดไก่ อย่ามาเป็นครูถ้าขาดซึ่งเมตตา
การออกข้อสอบเป็นกระบวนการสำคัญ เราออกข้อสอบก็เพื่อวัดว่า เราสอนห่วยหรือเปล่า นั่นคือ สอนอะไรก็ต้องออกอันนั้น ถัดมาเพื่อจำแนกว่าเด็กที่เรียนรู้กับเรามีความรู้ มากน้อยแตกต่างกัน ห้ามออกนอกเหนือจากจุดประสงค์ที่แจ้งไว้
ขอบคุณครับ สิ่งเหล่านี้ต่างเป็นสิ่งที่เราจะต้องคิดและคำนึงถึง ซึ่งจะนำไปสู่การที่เราจะจัดการเรียนการสอน ให้ประสบความสำเร็จนั่นเอง ขอบคุณครับ