“Singapore”
คำนำ สารบัญ หนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา ง22102 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยมีจุดประสงค์ เพื่อการศึกษาหาความรู้จากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งหนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์ ผู้จัดทำได้ประเทศนี้ เป็นหัวข้อนี้ในการทำหนังสือ เนื่องมาจากเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ผู้จัดทำหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะให้ความรู้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน
ภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศ ภาคกลางและภาคตะวันตกเป็นเนินเขา ซึ่งเนินเขาทางภาคกลางเป็นเนินเขาที่สูงที่สุดของประเทศ เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสายสำคัญของสิงคโปร์ และภาคตะวันออกเป็นที่ราบต่ำ ชายฝั่งทะเลมักจะต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ต้องมีการถมทะเล สิงคโปร์อยู่ในเขตมรสุมทำให้มีอากาศอบอุ่นเกือบตลอดปี มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 25 - 32 องศาเซลเซียส แบ่งเป็น 4 ฤดู คือ
ฤดูกาล 1.ฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ 2.ฤดูก่อนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ 1.ฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (North-east Monsoon Season) ระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ เป็นช่วงอากาศหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23 - 26 องศาเซลเซียส โดยอากาศจะเย็นที่สุดในเดือนธันวาคม มีอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 20 องศาเซลเซียส ช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์จะมีฝนหนักและลมแรงจากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ 2.ฤดูก่อนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (Pre South-west Monsoon)ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เป็นช่วงอากาศร้อน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 31 - 34 องศาเซลเซียส อากาศจะร้อนที่สุดในเดือนพฤษภาคม มีอุณหภูมิสูงสุดราว 36 องศสเซลเซียส
3.ฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (South-west Monsoon Season) ระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน มีฝนตกหนักและลมแรงจากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ 4.ฤดูก่อนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (Pre North-east Monsoon) ระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม เป็นช่วงที่มีอากาศอบอุ่น และไม่มีฝนมากนัก
ความเป็นมา ประเทศสิงคโปร์ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐสิงคโปร์ เป็นนครรัฐสมัยใหม่และประเทศเกาะที่มีขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งอยู่นอกปลายทิศใต้ของคาบสมุทรมลายูและอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร 137 กิโลเมตรดินแดนของประเทศประกอบด้วยเกาะหลักรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ซึ่งมักเรียกว่าเกาะสิงคโปร์ในภาษาอังกฤษและเกาะอูจง (Pulau Ujong) ในภาษามลายู และเกาะที่เล็กกว่ามากอีกกว่า 60 เกาะ ประเทศสิงคโปร์แยกจากคาบสมุทรมลายูโดยช่องแคบยะฮอร์ทางทิศเหนือ และจากหมู่เกาะรีเยาของประเทศอินโดนีเซียโดยช่องแคบสิงคโปร์ทางทิศใต้ ประเทศมีลักษณะแบบเมืองอย่างสูง และคงเหลือพืชพรรณดั้งเดิมเล็กน้อย ดินแดนของประเทศขยายอย่างต่อเนื่องโดยการแปรสภาพที่ดิน
ธงชาติ ความหมายสำคัญขององค์ประกอบต่างๆ ในธง อันได้แก่ สีแดง หมายถึงภราดรภาพและความเสมอภาคของมนุษย์โดยทั่วหน้า สีขาว หมายถึงความบริสุทธิ์และความดีงามที่แพร่หลายและคงอยู่ตลอดกาล รูปพระจันทร์เสี้ยว ซึ่งเป็นจันทร์เสี้ยวข้างขึ้น หมายถึงความเป็นชาติใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้น ดาว 5 ดวง หมายถึงอุดมคติ 5 ประการของชาติ ได้แก่ ประชาธิปไตย สันติภาพ ความก้าวหน้า ความยุติธรรม และความเสมอภาค ธงชาติสิงคโปร์ เป็นธงสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 2 ส่วน ยาว 3 ส่วน ประกอบด้วยแถบสองสีแบ่งครึ่งกลางธง แถบสีแดงอยู่ด้านบน แถบสีขาวอยู่ด้านล่าง ที่มุมธงบนด้านคันธงมีรูปพระจันทร์เสี้ยว ถัดจากรูปดังกล่าวมีรูปดาวห้าแฉก 5 ดวง เรียงเป็นรูปห้าเหลี่ยมด้านเท่า รูปเหล่านี้เป็นสีขาว
ตราแผ่นดิน ลักษณะของตราแผ่นดิน เป็นรูปสิงโตและเสือถือโล่สีแดงซึ่งมีรูปดาวห้าแฉกสีขาว 5 ดวง และพระจันทร์เสี้ยวสีขาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ สำคัญที่ใช้บนธงชาติของสิงคโปร์ เสือเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความผูกพันทางประวัติศาสตร์กับประเทศมาเลเชีย และสิงโตเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงสิงคโปร์ ด้านล่างของตราแผ่นดินเป็นริบบิ้นสีน้ำเงินจารึกคำขวัญประจำชาติด้วยตัวหนังสือที่ทองว่า ข้างใต้มีคำขวัญ "Majulah singapura" ซึ่งมีความหมายว่า "สิงคโปร์จงเจริญ" ตราแผ่นดินของสิงคโปร์ ประกาศใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2502 พร้อมกันกับธงชาติ และ เพลงชาติ ณ ห้องสาบานตนประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ ที่ ศาลาว่าการของเมืองสิงคโปร์
เพลงชาติ เพลงชาติสิงคโปร์ ชื่อเพลง : มาจูละห์ ซีงาปูรา เนื้อเพลงชาติสิงคโปร์ Mari kita rakyat Singapura Sama-sama menuju bahagia Cita-cita kita yang mulia Berjaya Singapura Marilah kita bersatu Dengan semangat yang baru Semua kita berseru Majulah Singapura
การปกครอง การปกครองมี 3 ส่วน ประเทศสิงคโปร์ในปัจจุบันเป็นประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีเยี่ยม สิงคโปร์มีการปกครองในระบบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร มีประธานาธิบดีทาหน้าที่เชิงพิธีการเท่านั้น สิงคโปร์ได้รับการจัดตั้งให้เป็นสาธารณรัฐสิงคโปร์เมื่อ เดือน ธันวาคม 1965 สิงคโปร์รับเอาระบบประชาธิปไตยรัฐสภาของอังกฤษเป็นแม่แบบ แต่สิงคโปร์มีแต่สภาเดี่ยวไม่มีสภาคู่แบบอังกฤษ 1.สภาบริหาร ประกอบด้วยประธานาธิบดี และคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีหน้าที่บริหารประเทศผ่านกระทรวง ทบวง กรม และหน่วยงานในสังกัดราชการอื่นๆ 2. รัฐสภา มาจากการเลือกตั้งทั่วไป ได้สมาชิกสภาผู้แทนรวม 84 คน แบ่งเป็นฝ่ายรัฐบาล รวม 82 คน 3. สภาตุลาการ แบ่งเป็น 2 ระดับ ได้แก่ ศาลชั้นต้น และศาลฎีกา
ประธานาธิบดี ก่อนปี พ.ศ. 2536 ตำแหน่งประธานาธิบดีสิงคโปร์จะได้รับเลือกจากรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ พ.ศ. 2534 โดยประธานาธิบดีคนแรกที่มาจากการเลือกตั้ง คือ ออง เท็ง เชียง โดยได้เริ่มดำรงตำแหน่งตั้งแต่ 1 กันยายน พ.ศ. 2534 ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ เป็นตำแหน่งประมุขแห่งรัฐ ของประเทศสิงคโปร์ ตามระบบเวสต์มินสเตอร์ ในแบบฉบับของสิงคโปร์ โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประมุขฝ่ายบริหารและหัวหน้ารัฐบาล
เมืองสำคัญด้านเศรษฐกิจ สิงคโปร์เป็นประเทศเล็กๆ ทำให้มีทรัพยากรธรรมชาติไม่มากนัก แต่เศรษฐกิจของสิงคโปร์กลับเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยความได้เปรียบเรื่องที่ตั้งของประเทศ ทำให้สิงคโปร์กลายเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้สิงคโปร์ยังเป็นเมืองท่าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย และหากวัดจาก GDP สิงคโปร์คือประเทศที่รวยเป็นอันดับ 5 ของโลก จูรง จูรงเป็นเมืองอุตสาหกรรมทางภาคตะวันตกของประเทศ ซึ่งเป็นย่านอุตสาหกรรม เนื่องด้วยพื้นที่ตั้งของเมืองจูรงติดกับชายฝั่งทะเลน้ำลึก ซึ่งมีลักษณะเหมาะสมกับการเป็นท่าเรือ พร้อมทั้งยังห่างไกลจากแหล่งชุมชน ทำให้เมืองจูรงกลายเป็นแหล่งอุตสาหกรรมหนัก ของประเทศสิงคโปร์
การคมนาคม การขนส่งทางบก เส้นทางคมนาคม ที่ตั้งของสิงคโปร์เป็นเส้นทางระหว่างทวีปยุโรปและเอเซียตะวันตกกับภาคพื้นตะวันออกไกล รวมทั้งภาคพื้นแปซิฟิค ทำให้สิงคโปร์เป็นชุมทางของเส้นทางเดินเรือ และสายการบินระหว่างประเทศ และเป็นแหล่งชุมนุมการค้าขาย ปัจจุบันสิงคโปร์ มีท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเอเซีย รองจากโยโกฮามาของญี่ปุ่น และเป็นท่าเรือที่มีการขนส่งสินค้ามาก เป็นอันดับสามของโลก สิงคโปร์มีพื้นที่ไม่มาก ประมาณ 900 ตารางกิโลเมตร แต่ถนนที่จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ประมาณ 1,300 กิโลเมตร นอกจากถนนแล้ว ยังมีทางรถไฟอยู่สองสาย มีความยาวประมาณ 45 กิโลเมตร ได้มีการสร้างทางรถไฟสายสิงคโปร์ - กรันจิ เมื่อปี พ.ศ. 2446 สมัยรัฐบาลสเตรตส์เซตเทิลเมนต์โดยมีการเดินรถจากสถานีแทงค์โรค ไปยังวู๊ดแลนด์ และมีบริการแพขนานยนต์ ข้ามฟากไปเชื่อมต่อกับทางรถไฟจากแผ่นดินใหญ่ด้วย
การขนส่งทางน้ำ การขนส่งทางอากาศ มีการขนส่งทางน้ำภายในประเทศ ทางน้ำชายฝั่งและทางน้ำระหว่างประเทศ ทางน้ำภายในประเทศ มีใช้อยู่ในวงจำกัด และไม่ค่อยสะดวก เพราะสิงคโปร์เป็นเกาะเล็ก ๆ และมีแนวชายฝั่งสั้น ภายในเกาะเองก็มีแม่น้ำสายสั้น ๆ และไม่ติดต่อถึงกัน รวมทั้งยังตื้นเขินมาก จึงต้องจำกัดเวลา ในการใช้คือ ในช่วงเวลาน้ำขึ้นเท่านั้น ทางน้ำชายฝั่ง เป็นส่วนหนึ่งของระบบขนส่งทางน้ำระหว่างประเทศ แต่มีลักษณะเฉพาะของตนเองคือ ใช้เรือเล็ก ท่าเรือเล็ก ๆ ที่มีจำนวนมากมาย เส้นทางเดินเรือสั้น การให้บริการไม่เป็นประจำ เรือที่เดินตามบริเวณชายฝั่ง มีหลายบริษัท การขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ เริ่มมีสายการบินทำการค้าสายแรก เมื่อปี พ.ศ. 2473 เป็นของบริษัทดัทช์อิสท์อินเดีย และในปี พ.ศ. 2478สายการบินแควนตัส ได้เปิดการบินระหว่างสิงคโปร์ กับออสเตรเลีย ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ท่าอากาศยานสากล เดิมอยู่ที่ปายาเลบาร์ อยู่ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 12 กิโลเมตร มีทางวิ่งยาวประมาณ 4,000 เมตร สามารถรับเครื่องบินพาณิชย์ได้ทุกขนาดและทุกแบบ
การศึกษา จุดมุ่งหมายทางการศึกษาในระบบโรงเรียนของสิงคโปร์เพื่อพัฒนาเยาวชนให้มีทักษะความรู้ความสามารถเพื่อการดำรงชีพ มีคุณธรรมจริยธรรม มีความรับผิดชอบและเป็นพลเมืองดีของชาติ กระบวนการพัฒนาการศึกษามุ่งให้เด็กแต่ละคนสามารถพัฒนาศักยภาพให้ได้สูงสุด การศึกษาของสิงคโปร์กำหนดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 10 ปี เป็นการศึกษาภาคบังคับ เพื่อให้เด็กทุกคนต้องอยู่ในระบบโรงเรียนอย่างต่ำ 10 ปี ก่อนออกไปสู่การทำงาน กล่าวคือ ประถมศึกษา 6 ปี และมัธยมศึกษา 4 ปี โดยเด็กต้องเข้าเรียนเมื่ออายุ 6 ปี ผู้ที่จะเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยจะต้องศึกษาขั้นเตรียมมหาวิทยาลัย อีก 2 ปี การศึกษาภาคบังคับของสิงคโปร์จะต้องเรียนรู้ 2 ภาษาควบคู่กันไป ได้แก่ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก และเลือกเรียนภาษาแม่ (Mother Tongue) อีก 1 ภาษา คือ จีน (แมนดาริน) มาเลย์ หรือทมิฬ (อินเดีย)
การท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว เป็นเมืองที่ไม่หยุดนิ่งและอุดมไปด้วยความแตกต่างและสีสัน คุณจะพบกับความผสมผสานอย่างกลมกลืนของวัฒนธรรม อาหาร ศิลปะ และสถาปัตยกรรมได้ที่นี่ เกาะแห่งนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่ถูกปลดปล่อย เป็นเสมือนกลจักรขนาดจิ๋วของเอเชียอาคเนย์ที่รวมเอาสิ่งที่ดีที่สุดของโลกตะวันตกและตะวันออกเอาไว้ด้วยกัน มาริน่า เบย์ (Marina Bay) จุดปากอ่าวจุดนี้ ถือเป็นหัวใจหลักของเมืองและเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองจุดอื่นๆ และไม่ไกลจากชิงช้าสวรรค์ยักษ์ (ที่ว่ากันว่าเป็นอีกฟากหนึ่งของ ลอนดอน อาย ในฝั่งเอเชีย
มาริน่า เบย์ แซนด์ส (Marina Bay Sands) รีสอร์ทห้าดาวริมอ่าวแห่งนี้ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นโครงการสร้างระดับชาติของสิงคโปร์เลยทีเดียว เพราะมีโรงแรมใหญ่ถึง 3 หลังเชื่อมต่อกัน คลาร์ก คีย์ (Clarke Quay) เป็นแหล่ง “กิน – ดื่ม” ชั้นนำ พร้อมพรั่งไปด้วยร้านอาหารและผับขึ้นชื่อ ตั้งอยู่ริมปากแม่น้ำของสิงคโปร์ กลางวันหรือกลางคืน ร้านอาหารแถบนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง
ออชาร์ด (Orchard) ถนนสายเกษตรกรรมที่ครั้งหนึ่งในอดีตเคยคราคร่ำไปด้วยสวนพริกไทยและเครื่องเทศ แต่ปัจจุบันนี้กลับกลายเป็นถนนช้อปปิ้งเส้นหลักของเมืองสิงคโปร์ เส้นทาง 2.2 กิโลเมตร ที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ วัดศรีมาริอัมมันต์ (Sri Mariamman Temple) วัดฮินดูโบราณที่เก่าแก่ที่สุดของสิงคโปร์ ตั้งอยู่ในไชน่าทาวน์” รอบๆ ตัวอาคารของวัดทั้งภายในและภายนอก จะมีปะติมากรรมรูปปั้นและรูปแกะสลักลงสีสันสดใสของเทพเจ้า เทพธิดา และสัตว์ร้ายในเทพนิยาย
วัดพระเขี้ยวแก้ว วัดจีนศิลปกรรมสมัยราชวงศ์ถังผสมศิลปะมันดาลา หลังใหญ่โตอลังการ ตั้งตระหง่านอยู่ในไชน่าทาวน์ ซึ่งอาคารชั้นบนสุดของวัดได้บรรจุพระสารีริกธาตุพระทนต์ของพระพุทธเจ้าไว้ในสถูปทองคำหนักกว่า 320 กิโลกรัม วัดเจ้าแม่กวนอิม วัดเจ้าแม่กวนอิม ที่มีความเชื่อกันว่าหากไปขอพรแล้วจะสมหวัง จึงไม่น่าแปลกใจหากคุณจะเห็นฝูงชนมากมายต่อคิวเข้าไปสักการะขอพรในวัด และหากคุณเชื่อในเรื่องโชคลาง เซียมซีที่วัดแห่งนี้ขึ้นชื่อว่ามีความแม่นยำยิ่งนัก
วัดเซียนฮกเก๋ง วัดแห่งความสุขบนสรวงสวรรค์ สร้างขึ้นเพื่อถวายเทพธิดาแห่งท้องทะเล ที่เชื่อกันว่าช่วยคุ้มครองให้ผู้อพยพเดินทางมาถึงฝั่งเกาะสิงคโปร์ได้โดยปลอดภัย เป็นวัดที่มีความวิจิตรงดงามมาก และขึ้นชื่อได้ว่าเป็นวัดที่สวยที่สุดในสิงคโปร์ ยูนิเวิร์ลซัล สตูดิโอ สวนสนุกชื่อดังในเขตเซนโตซา ถึงแม้ว่าจะเป็นสาขาของสวนสนุกระดับอินเตอร์เนชั่นแนลจากฝั่งอเมริกา แต่เครื่องเล่นในสวนสนุกจำนวน 18 ชนิดจากทั้งหมด 24 ชนิด ใน 7 โซนประเภทเครื่องเล่น
สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เมอไลอ้อน สัญลักษณ์ประจำเมือง มาแล้วต้องถ่ายรูปเป็นที่ระลึกว่ามาถึงสิงคโปร์ สิงคโปร์ ฟลายเออร์ ชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในโลก เป็นเหมือนคู่แฝดของ ลอนดอน อายในทวีปเอเชีย โรงภาพยนตร์ไต้ฝุ่น โรงภาพยนตร์ 4 มิติแห่งแรกของโลก ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์การเดินสมุทร เซนโตซา เกาะแห่งความสุขสันต์ แหล่งสวนสนุกดังและพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำระดับโลก พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ อะควาเรียมระดับ 5 ดาวที่ขึ้นชื่อว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ท เวิล์ด เซนโตซา ขึ้นชื่อเรื่องอุโมงค์ใต้ทะเลขนาดมหึมาที่จัดแสดงสัตว์น้ำจากทั่วทุกมุมโลกว่า 100,000 ตัว
ฮาว พาร์ วิลล่า เมืองจำลองจากนิยายพื้นบ้านของจีน และเมืองนรกจำลอง 10 ขุม มาริไทม์ เอ็กซเพอริเมนทัล มิวเซียม พิพิธภัณฑ์การเดินสมุทร จัดแสดงประวัติการเดินเรือและท่าเรือต่างๆ แห่งทวีปเอเชีย มินท์ มิวเซียม ออฟ ทอยส์ พิพิธภัณฑ์ของเล่นชื่อดังกว่า 50,000 ชิ้น เป็นแหล่งรวมคอลเลคชั่นของเล่นจากกว่า 25 ประเทศรอบโลก ตั้งแต่ของเล่นวินเทจโบราณอายุกว่าร้อยปี ไปจนถึงของเล่นไฮเทคในยุคปัจจุบัน มัสยิดซุลต่าน มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ สวนนกจูร่ง สวนนกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีจำนวนนกมากกว่า 8,000 ตัว จาก 600 สายพันธุ์ ตั้งแต่นกเพนกวินจากขั้วโลกใต้ ไปจนถึงนกแก้วมาคอว์จากแอฟริกา
ดอกไม้ประจำชาติ สกุลเงิน แวนด้า เป็นดอกไม้ประจำชาติของ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ลักษณะทั่วไป แวนด้าเป็นกล้วยไม้ประเภทโมโนโพเดี้ยล ไม่แตกกอ เจริญเติบโตไปทางยอด สกุลเงิน: ดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) อัตราส่วน: 100 เซ็น = 1 ดอลลาร์ เหรียญ: 1 เซ็น, 5 เซ็น, 10 เซ็น, 20 เซ็น, 50 เซ็น, 1 ดอลลาร์
ภาษา เชื้อชาติ สิงคโปร์มีภาษาราชการถึง 4 ภาษา คือ อังกฤษ จีนกลาง มลายู และทมิฬ ศิลปวัฒนธรรมก็เป็นลักษณะผสมระหว่างจีน มาเลเซีย และอินเดีย ภาษาประจำชาติ: คือภาษามลายู สิงค์โปร์เป็นประเทศที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในภูมิภาค และเป็นประเทศเล็กที่สุดในภูมิภาค เป็นประเทศที่มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับ 2 ของโลก มีจำนวนประชากรประมาณ 5,543,494 (ข้อมูล ณ วันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2013) ประกอบด้วยชาวจีน (76.5%) ชาวมลายู (13.8%) ชาวอินเดีย (8.1%) และอื่น ๆ (1.6%)
ศาสนา วัฒนธรรม ในปี ค.ศ. 2010[7] ประเทศสิงคโปร์มีผู้นับถือศาสนา แบ่งได้ดังนี้ศาสนาพุทธ33% ศาสนาคริสต์ 18.3% ศาสนาอิสลาม14.7% ลัทธิเต๋า10.9% ศาสนาฮินดู 5.1% ศาสนาอื่น ๆ 0.7% และไม่มีศาสนา17% ประชากรสิงคโปร์มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ อีกทั้งส่วนใหญ่ยังยึดถือธรรมเนียมปฏิบัติดั้งเดิม ทำให้สิงคโปร์มีวัฒนธรรมหลากหลาย ทั้งทางด้านอาหาร การแต่งกาย ตลอดจนการเซ่นไหว้วิญญาณบรรพบุรุษ และความเชื่อในเรื่องเทพเจ้าที่แตกต่างกันไป ชาวจีนส่วนมากบูชาเจ้าแม่กวนอิมธิดาแห่งความสุข กวนอูเทพเจ้าแห่งความยุติธรรม รวมถึงเทพเจ้าจีนองค์อื่นๆ ขณะที่ชาวฮินดูบูชา เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ เป็นต้น
บักกุ๊ดเต๋ เมนูเด็ดที่ต้องลอง เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมของคนไทย เป็นอาหารเช้าของชาวสิงคโปร์และชาวมาเลย์ รวมทั้งภาคใต้ของไทย โดยสูตรของสิงคโปร์จะเป็นน้ำซุปพริกไทยดำเข้มข้นกลมกล่อม ใส่กระดูกหมูชิ้นใหญ่ที่ตุ๋นจนเปื่อย ผสมกันจนได้ที่ รวมทั้งเครื่องใน เส้นหมี่และปาท่องโก๋ด้วย ร้านยอดนิยม เมนูยอดนิยมที่ฮิตที่สุดในหมู่คนไทย คงจะหนีไม่พ้นข้าวมันไก่สิงคโปร์ ซึ่งจริงๆแล้วจะเรียกว่าเป็นข้าวมันไก่สไตล์ไฮหนานของประเทศจีน รสชาติแม้จะไม่จัดจ้านเท่าของไทย แต่เน้นที่ความนุ่มลื่น หอมมัน คำโตๆของเนื้อไก่ หาทานได้ง่ายทั่วๆไปตามศูนย์อาหาร
ติ่มซำ คายาโทส เป็นเมนูอาหารเช้ายอดนิยมของชาวสิงคโปร์ โดยจะมีขนมปังปิ้งกรอบๆที่มีไส้เป็นแยมมะพร้าว กินกับไข่ลวกและชาหรือกาแฟ หาทานได้ทั่วไปตามห้าง หรือสถานีรถไฟใต้ดิน โดยจะมีร้านฮิตที่มีสาขาอยู่ทั่วสิงคโปร์ รวมทั้งเมืองไทยด้วย แต่จะมีสาขาดั้งเดิมอยู่ย่านไชน่าทาวน์ เนื่องจากประชากรมากกว่า 70% ของชาวสิงคโปร์มาจากประเทศจีน อาหารประชาติจีนอย่างติ่มซำ จึงเป็นหนึ่งในอาหารขึ้นชื่อของชาวสิงคโปร์ด้วย ร้านติ่มซำยอดฮิต
หมี่ผัด ลักซา มีลักษณะคล้ายผัดหมี่ของไทย แต่จะนิยมใช้เส้นหมี่ 2 แบบคือเส้นหมี่เหลืองกลม และเส้นแบนสีขาวคล้ายเส้นใหญ่ นิยมใส่เครื่องต่างๆ เช่น ปลาหมึก หมู กุ้ง กุนเชียง เป็นต้น หาทานได้ง่ายตามศูนย์อาหารทุกที่ เป็นเมนูอาหารยอดฮิตของชาวมาเลย์ โดยจะมีลักษณะคล้ายกับขนมจีนน้ำยา หรือข้าวซอยของไทย โดยจะนำเส้นไปใส่ในน้ำซุปที่มีสีเหลืองส้ม ที่มีส่วนผสมของกะทิ กุ้งแห้ง เครื่องแกง เต้าหู้ ไข่ต้มเป็นต้น หาทานได้ง่ายตามศูนย์อาหารทุกที่
ผัดขนมผักกาด น้ำแข็งใส น้ำแข็งใส มีลักษณะเหมือนกับผัดขนมผักกาดที่ไทยมาก คือนำเอาแป้งข้าวเจ้าไปทอดกรอบ ก่อนแล้วจึงผัดกับผักต่างๆและไข่ โดยจะเลือกใส่ซอสสีดำที่เหมือนซีอิ้วหวานกับสีเหลืองที่ไม่ใส่ หาทานได้ตามศูนย์อาหารทั่วไป เป็นเมนูขนมหวานยอดนิยมของชาวสิงคโปร์ เอาไว้ทานดับร้อน โดยจะมีเครื่องให้เลือกใส่มากมายหลายแบบ เช่น ถั่วแดง ข้าวโพด เผือก เยลลี่ มะม่วง และเฉาก๊วย เป็นต้น มีร้านชื่อดังอยู่แถวไชน่าทาวน์
ปูผัดพริก สะเต๊ะ เป็นเมนูเด็ดที่หาทานได้ยากในที่อื่นๆของโลก โดยการนำปูสดศรีลังกาตัวโตมาปรุงรสด้วยสูตรต่างๆ นิยมทานคู่กับหมั่นโถว และอีกเมนูที่คล้ายกันคือ ปูผัดพริกไทยดำที่นำปูตัวใหญ่ทั้งตัวเหมือนกันไปผัดกับซอสพริกไทดำ โดยมีร้านดังชื่อว่า อยู่ที่ย่านคล้ากคีย์ เป็นเมนูที่ทำคล้ายกับหมูสะเต๊ะบ้านเราเลย แต่มักจะมีเนื้อประเภทอื่นๆให้เลือกด้วย เช่น หมู เนื้อ ไก่ กุ้ง และเนื้อแกะ แต่ไม้มักจะเล็กกว่าที่บ้านเรา และรสชาติเครื่องเทศที่เข้มข้นกว่า และมักจะเสริฟพร้อมกับข้าวต้มมัดและซอสถั่วเหลืองแบบบ้านเรา หาทานได้ง่ายตามศูนย์อาหารทั่วไป
ด.ญ.แพรวา ปันทะวงศ์ มัธยมศึกษาปีที่2/1 เลขที่ 40 เสนอ ครู สายฝน ส่องศรี