วิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการลานนา Lanna Commercial Technological College การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ เพื่องานบริการโรงแรม เรื่อง Problem and Complaints ระหว่างสอน โดยใช้ทักษะ/กระบวนการแก้ปัญหา กับการสอนปกติของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3 สาขาภาษาต่างประเทศ จงกล สุขุมวิทยา วิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการลานนา

ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหา Lanna Commercial Technological College ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้กันอยู่ทั่วโลก ไม่ว่าจะใช้ในการติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน ในด้านธุรกิจการค้าและการท่องเที่ยว ทางวิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการลานนา ได้เห็นถึงความสำคัญของภาษาอังกฤษ จึงได้จัดการเรียน การสอน โดยเน้นให้นักเรียนใช้ทักษะพูด ฟัง อ่าน และเขียน ขั้นพื้นฐานให้ได้ และจากการที่ผู้วิจัยได้สอนวิชา ภาษาอังกฤษเพื่องานบริการโรงแรม แก่นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 3 แล้วได้สังเกตพบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ ยังขาดทักษะในการแก้ปัญหา โดยที่นักเรียนไม่สามารถแก้ปัญหาจากสถานการณ์จำลองต่าง ๆ ที่พบในกระบวนการเรียนการสอนได้ ผู้วิจัยจึงจัดการเรียนโดยใช้ทักษะ/กระบวนการแก้ปัญหาขึ้น เพื่อส่งเสริมนักเรียนมีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ดีและสามารถนำไปเรียนรู้ในระดับสูงต่อไป

วัตถุประสงค์การวิจัย : Lanna Commercial Technological College วัตถุประสงค์การวิจัย : เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพื่องานบริการโรงแรม เรื่อง Problem and Complaints ระหว่างสอนโดยใช้ทักษะ/กระบวนการแก้ปัญหา กับการสอนปกติของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3 สาขาภาษาต่างประเทศ

กรอบแนวคิดการวิจัย : ตัวแปรต้น (X) ตัวแปรตาม (Y) Lanna Commercial Technological College กรอบแนวคิดการวิจัย : ตัวแปรต้น (X) ตัวแปรตาม (Y) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ เพื่องานบริการโรงแรมของกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุมของผู้เรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3 สาขาภาษาต่างประเทศ วิธีการสอน 2 วิธี ได้แก่ - กระบวนการแก้ปัญหา - การสอนปกติ

Lanna Commercial Technological College ประชากร : กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive)ได้แก่ ผู้เรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3 สาขาภาษาต่างประเทศ ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 33 คน ซึ่งลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพื่องานบริการโรงแรม ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559  

Lanna Commercial Technological College กลุ่มตัวอย่าง : กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive)ได้แก่ ผู้เรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3 สาขาภาษาต่างประเทศ ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 33 คน ซึ่งผู้วิจัยใช้วิธีจับสลากผู้เรียน เพื่อใช้จำนวนหนึ่งจำนวน 12 คน เป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมและจำนวนหนึ่งจำนวน 11 คน เป็นกลุ่มควบคุม จัดนักเรียนเข้าสู่ห้องเรียนใช้วิธีคละความสามารถและทดสอบความแตกต่างความรู้พื้นฐานเดิมของนักเรียนทั้ง 2 กลุ่ม ด้วย t-test (Independent) 

Lanna Commercial Technological College ตัวแปรที่ศึกษา : 1. ตัวแปรอิสระ คือวิธีการสอน 2 วิธี ได้แก่ - กระบวนการแก้ปัญหา - การสอนปกติ 2. ตัวแปรตาม ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพื่องานบริการโรงแรมของกลุ่มทดลอง และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพื่องานบริการโรงแรมของกลุ่มควบคุม ของผู้เรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3 สาขาภาษาต่างประเทศ

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย : Lanna Commercial Technological College เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย : เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ มี 2 ชนิด คือ 1. แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษเพื่องานบริการโรงแรมจำนวน 2 แบบ คือ 1.1 แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ทักษะ/กระบวนการแก้ปัญหา เรื่อง Problem and Complaints จำนวน 3 แผนๆ ละ 3 ชั่วโมง 1.2 แผนการจัดการเรียนรู้ตามปกติ เรื่อง Problem and Complaints จำนวน 3 แผนๆ ละ 3 ชั่วโมง 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาภาษาอังกฤษเพื่องานบริการโรงแรม เรื่อง Problem and Complaints เป็นแบบทดสอบที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น เพื่อใช้ทดสอบ วัดความสามารถ ก่อนการทดลอง และหลังการทดลอง จำนวน 30 คะแนน

ผลการวิเคราะห์ข้อมูล : Lanna Commercial Technological College ผลการวิเคราะห์ข้อมูล : กลุ่มตัวอย่าง N คะแนน ก่อนทดลอง หลังทดลอง t X S.D. กลุ่มทดลอง 12 13.92 5.071 20.92 3.895 10.747** กลุ่มควบคุม 11 14.82 5.946 19.19 4.729 6.313** **มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

Lanna Commercial Technological College สรุปผลการวิจัย : 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพื่องานบริการโรงแรม ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3 สาขาภาษาต่างประเทศ 1 ของนักเรียนกลุ่มทดลองที่ได้รับการเรียนโดยใช้ทักษะ/กระบวนการแก้ปัญหา สูงกว่าการเรียนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2. นักเรียนที่ได้รับการเรียนรู้โดยใช้ทักษะ/กระบวนการแก้ปัญหา และนักเรียนที่ได้รับการเรียนรู้ตามปกติมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาภาษาอังกฤษเพื่องานบริการโรงแรม หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

Lanna Commercial Technological College อภิปรายผล : ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนของนักเรียนที่ได้รับการเรียนรู้ โดยใช้ทักษะ/กระบวนการแก้ปัญหาสูงกว่าการเรียนปกติ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ (สิริพร ทิพย์คง, 2545) ที่กล่าวว่า บรรยากาศที่ช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ได้แก่ การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนคิดและนำเสนอแนวคิดของตนเองอย่างอิสระ ภายใต้การให้คำปรึกษาและแนะนำจากผู้สอน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ควรเริ่มจากการนำเสนอปัญหาที่น่าสนใจ เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน ท้าทายความคิดให้ผู้เรียนได้ร่วมกันแก้ปัญหา เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะ/กระบวนการต่าง ๆ ซึ่งในแต่ละครั้งอาจจะฝึกทักษะได้ไม่ครบทุกทักษะ/กระบวนการ แต่ถ้าฝึกบ่อย ๆ ก็จะช่วยให้ผู้เรียน พัฒนา ทักษะ/กระบวนการแก้ปัญหาได้

ข้อเสนอแนะ : ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยครั้งต่อไป Lanna Commercial Technological College ข้อเสนอแนะ : ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยครั้งต่อไป ควรทำการศึกษาการเรียนรู้โดยใช้ทักษะ/กระบวนการแก้ปัญหา ที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กับนักเรียนชั้นอื่น ๆ หรือปรับเปลี่ยนประยุกต์ใช้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น เช่น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เป็นต้น ควรทำการศึกษาผลของการเรียนรู้โดยใช้ทักษะ/กระบวนการแก้ปัญหา ที่ส่งผลต่อตัวแปรอื่น ๆ เช่นเจตคติต่อการเรียน แรงจูงใจในการเรียน คุณลักษณะที่พึงประสงค์ความคงทนในการเรียนรู้ เป็นต้น ควรมีการทดลองใช้วิธีการเรียนรู้รูปแบบอื่น เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการใช้ทักษะ/กระบวนการแก้ปัญหาเรื่องอื่นๆ ในลำดับต่อไป

ขอบคุณค่ะ